อาชีวะอุบลฯ ร่วมกับ ททท. รังสรรค์ขบวน "มหัศจรรย์ ศรัทธา เรืองแสง" งดงามเฉิดฉาย ในการแสดงภาคกลางคืน งานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2568

เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี นำโดย นางสาวลฏาภา แสวงทรัพย์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี พร้อมด้วยนายสุรศักดิ์ คำมั่น รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากิจการนักเรียน นักศึกษา นายอาคม ศรีพรม รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพยากร นางศรีอุดร ศิริปริญญานันท์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ นายพิศิษฐ์ อู่ศิริกุลพาณิชย์ หัวหน้าคณะวิชาศิลปกรรมและหัวหน้าแผนกวิชาการออกแบบ นายทิวัฒน์ วงศ์อุทุม หัวหน้าแผนกวิชาอาหารและโภชนาการ นำตัวแทนคณะครู นักเรียน นักศึกษา ร่วมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามเมืองดอกบัว ในการแสดงภาคกลางคืน ประกอบแสง สี เสียง ในขบวนชื่อชุด "มหัศจรรย์ ศรัทธา เรืองแสง" เนื่องในงาน 124 ปี งานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2568 ณ บริเวณหน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี

ทั้งนี้การแสดงดังกล่าวโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุบลราชธานี ร่วมกับ วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี โดยคณะวิชาศิลปกรรม รังสรรค์ขบวน "มหัศจรรย์ ศรัทธา เรืองแสง" นำเสนออัตลักษณ์จังหวัดอุบลราชธานีในรูปแบบใหม่ การออกแบบงานศิลป์ผสมผสานและนวัตกรรมสีเรืองแสงมารังสรรค์ออกมาเป็นขบวนเทียนเรืองแสง สุด Amazing ภายใต้แนวคิด "แสงธรรมส่องนำวิถีชีวีร่มเย็น" ซึ่งวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี ได้สร้างสรรค์ออกแบบรูปแบบใหม่ ผสมผสานแสง สี ให้งดงาม เนรมิตต้นเทียนและขบวนแห่ยามค่ำคืนให้เรืองรองดั่งเทพนิยายจากความงามของเทียนพรรษา ถ่ายทอดออกมาเพื่อสื่อให้เห็นถึงวัฒนธรรม วิถีชีวิต และภูมิปัญญาท่องถิ่นเมืองอุบลราชธานี ผ่านงานประติมากรรมเทียนเรืองแสงอันงดงาม สู่ผลงาน "แสงธรรมส่องนำ วิถีชีวีร่มเย็น"

โดยมีแนวคิดมาจาก "แสงเทียน" ที่เปรียบดั่งแสงธรรมจากพระพุทธศาสนา ที่ส่องทางชีวิตให้ผู้คนดำเนินไปด้วยความดี มีศีลธรรม และอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขท่ามกลางวิถีแห่งวัฒนธรรมท้องถิ่นและ "แสง" นั้นดุจดั้งพลังแห่งปัญญา ความรู้ และความเมตตาส่วน "ธรรม" นั้นหมายถึง หลักคำสอนในพระพุทธศาสนา เช่น ศีล สมาธิปัญญา และ "วิถีชีวีร่มเย็น" ผลงานสื่อถึงการดำรงชีวิตอย่างพอเพียง เรียบง่ายอยู่ร่วมกับธรรมชาติและชุมชนอย่างกลมกลืน และเป็นการนำเอาเอกลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ที่น่าสนใจ มาบอกเล่าร้อยเรียงผ่านขบวนเทียน “มหัศจรรย์ ศรัทธา เรืองแสง”

โดยมีส่วนประกอบของขบวนเทียนเรืองแสง ดังนี้

1.ส่วนหน้าของขบวนรถประกอบด้วยองค์พระพุทธรูปเลียนแบบศิลปะคันธราชปางแสดงโอวาทพระปาฏิโมกข์พระพุทธรูปปางนี้อยู่ในอริยบทนั่งขัดสมาธิยกพระหัตถ์ทั้ง 2 จีบนิ้วพระหัตถ์เสมอพระอุระ คล้ายปางเสด็จลงมาจากดาวดึงส์เป็นพระกิริยาประธานโอวาทคือโอวาทพระปาฏิโมกข์เมื่อครั้งในสมัยพุทธกาลพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงหลักธรรมคำสอนสำคัญของพระพุทธศาสนาที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่พระสงฆ์ในวันมาฆบูชาโดยมีใจความสำคัญ 3 ประการคือการไม่ทำชั่วทั้งปวง,การบำเพ็ญแต่ความดี,และการทำจิตให้บริสุทธิ์ซึ่งเป็นหัวใจของพุทธศาสนาและเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตเพื่อความสุขและความสงบสุข

2.ส่วนลำต้นเทียนประดับตกแต่งด้วย ลายประจำยามและลายพุ่มข้าวบิณฑ์รอบลำต้นเทียน

3.ส่วนกลางขบวนจำลององค์พระพุทธรูปพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง วัดมหาวนารามพระอารามหลวงประดับด้วย ซุ้มลายกนกวิจิตรการตา

4.ส่วนท้ายขบวนจำลองต้นกัลปพฤกษ์จากวัดภูพร้าว (วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว) เป็นงานศิลปะเรืองแสงที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักในชื่อ "วัดเรืองแสง"

5.ส่วนด้านข้างขบวนจำลององค์พญานาคแบบอีสานจากวัดภูปัง จังหวัดอุบลราชธานีเป็นที่รู้จักในฐานะดินแดน(พญานาคเรืองแสง) ซึ่งเป็นที่เดียวในประเทศไทยที่มีพญานาคเรืองแสงได้ในยามค่ำคืน

6.ส่วนประกอบรอบขบวนประดับตกแต่งด้วยลายดอกประจำยามและดอกบัวสลับกับดอกเทียนจำลองทุ่งดอกไม้ป่าที่น้ำตกสร้อยสวรรค์ในอุทยานแห่งชาติผาแต้มเป็นทุ่งดอกหญ้าที่งดงามในช่วงปลายฝนต้นหนาวโดยเฉพาะดอกไม้ป่า 5 ชนิดที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถพระบรมบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงพระราชทานนามไว้ได้แก่ดอก สร้อยสุวรรณา (หญ้าสีทอง),ดุสิตา(หญ้าข้าวกํ่าน้อย),สรัสจันทร(หญ้าหนวดเสือ),ทิพเกสร (หญ้าฝอยเล็ก) และมณีเทวา(กระดุมเงิน)

นอกจากนี้ยังมีขบวนนางรำเป็นนักเรียน นักศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี จำนวน 40 คน ร่ายรำแสดงถึงวิถีชีวิตชาวอีสานผสานกับท่าฟ้อนรำที่สวยงามแสดงถึงเอกลักษณ์ท่ารำของท้องถิ่นสอดแทรกความสนุกสนานครื้นเครง มีครูผู้ฝึกซ้อมและควบคุมการแสดงโดย นายทิวัฒน์ วงศ์อุทม ครูแผนกวิชาอาหารและโภชนาการและคณะ ซึ่งสร้างสีสันและความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนที่มาชมงานประเพณีเทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี โดยกำหนดแสดง 2 รอบ คือในค่ำคืนวันที่ 10-11 กรกฎาคม 2568

จึงนับเป็นความภาคภูมิใจของ คณะผู้บริหาร ครู บุคลากร นักเรียน นักศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี ที่มีส่วนร่วมรังสรรค์ความงดงามด้วยศิลปะสร้างสรรค์และความอ่อนช้อยที่หาชมได้ยาก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมืองอุบลราชธานี เพื่อสืบสาน รักษา ต่อยอดวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามอันน่าภาคภูมิใจของจังหวัดอุบลราชธานีและของไทยให้คงอยู่สืบไป