การแพร่ระบาดของไวรัสมหาภัย “โควิด-19” ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ทั้งในเรื่องสุขภาพของประชากรและเรื่องของเศรษฐกิจ โดยแต่ละประเทศต่างได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า มากบ้างน้อยบ้าง ลดหลั่นกันไป บางประเทศอยู่ในสภาวะที่หนักจนเข้าขั้นวิกฤติ บางประเทศถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในระดับสาหัส แต่ก็ก้าวเดินต่อไปได้ยากลำบาก เพราะปัจจัยรอบด้านล้วนยังไม่เอื้ออำนวยที่จะกลับมาสู่สภาวะปกติ
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ บางประเทศที่เริ่มจะลุกขึ้นไหวพอจะขยับมือ ขยับขาได้และพร้อมที่จะเดินหน้ากิจการในประเทศ และผลิตสินค้าส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่ก็ติดปัญหาตรงที่การส่งออกสินค้านั้น ไม่รู้ว่าจะมีจุดหมายอยู่ที่ไหน เนื่องจากเมื่อมองไปยังประเทศรอบๆ ตัว ก็จะเห็นได้ว่า ต่างก็ยังอยู่ในสภาวะที่ยากลำบากอยู่ เปรียบเหมือนคนที่เป็นไข้ นอนซม ยังอยู่ในอาการที่เพิ่งจะฟื้นไข้ ไม่แข็งแรงเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตาม มาถึงวันนี้ หลายประเทศเริ่มที่จะขยับตัวมองไปข้างหน้า เพราะชีวิตต้องเดินต่อโดยประเทศที่เริ่มแข็งแรงขึ้นหลังจากฟื้นไข้ ได้มองหาคนที่แข็งแรงพอๆ กันเพื่อทำการแลกเปลี่ยนทางธุรกิจ มีการเปิดให้ประเทศที่ควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่ในระดับที่ไม่รุนแรงและพอที่จะไว้วางใจได้ ให้สามารถบินเข้าประเทศของตนเองได้ ซึ่งการเปิดให้เข้าประเทศได้นั้น มีเหตุผลหลักอยู่ที่เรื่องของธุรกิจ
เพราะเรื่องของสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ แต่เรื่องปากท้องของประชากรในประเทศ ก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน ดังนั้น รัฐบาลของประเทศต่างๆ จึงต้องปรับให้ทั้งสองส่วนให้สมดุล ไปด้วยกันให้ได้ แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนักก็ตามเนื่องจากทั้งสองด้าน อาจมีปัจจัยต่างๆ ที่ขัดแย้งกันอยู่บ้าง
จะเห็นได้ว่า ก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลายชาติได้มีความร่วมมือกันในการจัดงานมหกรรมด้านธุรกิจอย่างยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปี มีเงินสะพัดเป็นจำนวนมหาศาล แต่ในตอนนี้ก็เป็นเวลานานแล้วที่ไม่ได้เห็นการจัดงานอีเว้นท์ใหญ่ๆ ดังที่ว่าเนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัยของผู้คน ซึ่งการที่ไม่มีการ
จัดงานใหญ่ๆ แบบนี้ขึ้น ความเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจจึงหดหายไปด้วยทำให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงตามมาเรื่อยๆ
แต่ในตอนนี้ งานใหญ่ๆ ระดับอาเซียนงานหนึ่งกำลังจะเกิดขึ้น หลังจากเงียบหายไปนาน
งานที่ว่านี้คือ ASEAN Sustainable Energy Week 2020 (ASE 2020) งานแสดงนิทรรศการนานาชาติด้านพลังงานทดแทน การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า ที่ครบวงจรที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยจะจัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “ENERGYSOLUTIONS FOR SMART CITIES” ภายในงานจะมีการแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมล่าสุดด้านพลังงานอย่างครบครันและปีนี้จัดงานร่วมกับ Renewable EnergyAsia, EntechPollutec Asia, Energy Efficiency Expo และ Electric Vehicle Asia แสดงแหล่งพลังงานที่เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดพร้อมกับเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ทันสมัยจากกว่า 1,000 แบรนด์ชั้นนำของโลก อาทิ SolarEdge, Kawasaki, Miura, Delta Electronics, Osaka Gas และ Daicel Group รวมถึงผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ FIMER
ภายในงานมีกิจกรรมสัมมนากว่า 80 หัวข้อทั้งที่เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และการประชุมนานาชาติด้านพลังงานทดแทนในหัวข้อ International Conference Sustainable Energy Solutions for Smart Cities งานประชุมนานาชาติด้านยานยนต์ไฟฟ้า International Electric Vehicle Technology Conference and Exhibition หรือ iEVTech 2020 และหัวข้ออื่นๆ ที่น่าสนใจพร้อมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากนานาประเทศร่วมให้ความรู้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมและชมงานครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 15,000 ราย
ผู้จัดงานนี้คือ อินฟอร์มามาร์เก็ตส์ประเทศไทยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงพลังงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยบัณฑิตวิทยาลัย ร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (JGSEE) และภาคเอกชน
แต่ละภาคส่วนที่เข้าร่วมงานครั้งนี้ ต่างก็ได้เตรียมความพร้อมกันเป็นอย่างดี
นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธาน อินฟอร์มามาร์เก็ตส์ประเทศไทย ระบุว่าในปีนี้พันธมิตรภาครัฐและเอกชนมีความพร้อมที่จะจัดงานภายใต้รูปแบบนิว นอร์มอล ตอบโจทย์ชีวิตวิถีใหม่ ที่มีการจัดระเบียบการเข้าร่วมชมงานตามมาตรฐานที่กำหนดเพื่อความปลอดภัย ทั้งยังมีการยกระดับความปลอดภัย ขณะเยี่ยมชมงานตามมาตรการการจัดงานและการดำเนินการด้านสุขอนามัย เน้นความปลอดภัยตามมาตรฐานของอินฟอร์มาออลซีเคียว (InformaAllSecure)
งานในครั้งนี้จะแตกต่างจากทุกครั้ง เพราะมีการปรับการจัดงานแสดงในรูปแบบไฮบริดเอ็กซิบิชั่น (Hybrid Exhibition) หรือการจัดแสดงแบบครบองค์รวมที่รองรับ
ทั้งการจัดแสดงงานในรูปแบบปกติ (Physical exhibition) และการจัดแสดงแบบเสมือนจริง (Virtual Exhibition)เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้เข้าชมงานชาวต่างชาติที่ไม่สามารถเดินทางมาด้วยตนเองสามารถพบปะพูดคุยกับผู้จัดแสดงงานผ่านออนไลน์แพลตฟอร์ม ตลอดระยะเวลาการจัดงานทั้ง 4 วัน
ขณะที่ ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า งานครั้งนี้นับเป็นมิติใหม่ของการจัดงานมหกรรมอุตสาหกรรมด้านพลังงานที่ครบครันที่สุดในภูมิภาคอาเซียน มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักและตื่นรู้เกี่ยวกับการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า ซึ่งนอกจากจะรวบรวมนวัตกรรมใหม่เกี่ยวกับพลังงานทดแทนหรือพลังงานทางเลือกให้ได้เรียนรู้แล้วยังจำเป็นต้องยกระดับการจัดงานในเรื่องของการสร้างความสอดคล้องกับบริบทใหม่ของวิกฤติครั้งนี้ไปพร้อมกันที่จะช่วยตอบโจทย์การแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สอดคล้องกับชีวิตวิถีใหม่
ทางด้าน นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า กฟผ. เป็นองค์การที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อพัฒนางานในภารกิจหลักในการผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อให้ก้าวทันกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก พร้อมทั้งยังให้ความสำคัญกับบริบทสังคมชุมชนและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน
โดยในปีนี้ กฟผ. เข้าร่วมการจัดงานดังกล่าวเป็นครั้งแรก ซึ่งจะจัดแสดงนิทรรศการผลงานวิจัยและนวัตกรรมภายใต้แนวคิด EGAT’s E-mobility เนื่องจากได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของยานยนต์ไฟฟ้าที่จะเข้ามามีบทบาทในอนาคตจึงมุ่งมั่นดำเนินโครงการวิจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ (EV) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนนโยบายภาครัฐทางด้านยานยนต์ไฟฟ้าโดยส่งเสริมให้เกิดการใช้งาน EV ในประเทศหลากหลายด้าน อาทิ รถยนต์ไฟฟ้า รถบัสไฟฟ้า มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เรือไฟฟ้า และ Charging Station รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้าน Charging Infrastructure รวมไปถึงการบริหารการจัดการการใช้ไฟฟ้าจาก EV
นี่เป็นหนึ่งงานใหญ่ระดับอาเซียนที่จัดขึ้นในบ้านเราในวันที่ไวรัสร้ายยังคงคุกคามโลกอย่างหนัก ซึ่งทุกอย่างต้องเดินหน้าต่อไป และคาดหวังว่า จะมีงานใหญ่ๆ ทยอยเปิดตามกันมาอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลานับจากนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี