วันศุกร์ ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
‘สัตว์มีพิษ โรค อาการไม่พึงประสงค์’…สิ่งที่ต้องระวัง‘สัตว์เลี้ยง’ช่วงฤดูฝน

‘สัตว์มีพิษ โรค อาการไม่พึงประสงค์’…สิ่งที่ต้องระวัง‘สัตว์เลี้ยง’ช่วงฤดูฝน

วันจันทร์ ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2563, 12.10 น.
Tag : สัตว์มีพิษ สัตว์เลี้ยง ฤดูฝน อลงกรณ์ มหรรณพ สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย
  •  

‘สัตว์มีพิษ โรค อาการไม่พึงประสงค์’…สิ่งที่ต้องระวัง‘สัตว์เลี้ยง’ช่วงฤดูฝน

ในฤดูฝนเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิค่อนข้างที่จะอยู่ในช่วงที่กว้างมาก เช่น บางวันอุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของประเทศไทย โดยเฉพาะป่าไม้ถูกทำลายไปมากและมนุษย์ก็สร้างมลภาวะหรือมลพิษเพิ่มสูงมาก จนเกิดภาวะเรือนกระจก ดังนั้น บางวันร้อนอยู่ดีๆ ไม่กี่ชั่วโมงฝนก็เทลงมา ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมโดยไม่รู้ตัว ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของอากาศ  ปริมาณของฝนที่ตกลงมาดังกล่าว อาจก่อให้เกิดปัญหาขึ้นกับสัตว์เลี้ยงที่เราเลี้ยงอยู่ตามบ้านเรือนได้ดังต่อไปนี้


# สัตว์มีพิษ

หรือสัตว์ที่ไม่พึงประสงค์ ที่อาจก่ออันตรายให้แก่สัตว์เลี้ยง เช่น งูเห่า งูเขียวหางไหม้ งูเหลือม งูหลาม ตะขาบ แมงป่อง คางคก สัตว์เหล่านี้จะหนีน้ำขึ้นไปบนที่สูง หรือบริเวณที่แห้ง สัตว์เลี้ยงของเราอาจเดินไปเหยียบ หรือไปกัดโดยไม่รู้ว่ามีอันตราย

ผลที่ตามมาก็คือ สุนัขหรือแมวอาจเสียชีวิตได้ ตัวอย่างเช่น สุนัขถูกงูเขียวหางไหม้กัดบริเวณปาก สุนัขจะส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด บาดแผลที่ถูกกัดจะบวมและมีเลือดไหลซึมออกมา เจ้าของควรตรวจดูว่าเป็นงูชนิดใด ถ้าไปตีมันตายก็ควรเก็บซากไปให้สัตวแพทย์ดูด้วย จากนั้นรีบนำสุนัขที่ถูกงูกัดไปโรงพยาบาลสัตว์หรือคลินิกรักษาสัตว์เพื่อที่จะให้สัตวแพทย์ช่วยเหลือและเจ้าของควรแจ้งประวัติของสุนัขโดยละเอียด ต้องคิดไว้ในใจก่อนเลยว่าส่งถึงมือหมอเร็วเท่าไรโอกาสรอดชีวิตของสุนัขก็มีมากขึ้นเท่านั้น

ในกรณีของสัตว์ที่ไม่มีพิษ เช่น งูเหลือม พวกนี้ก็จะหนีขึ้นมาอยู่บนบ้านมาเจอแมว ซึ่งโดยธรรมชาติก็เป็นเหยื่อของงูเหลือม งูก็จะฉกกัดแมว แล้วใช้ลำตัวรัดแมวจนขาดอากาศหายใจ จากนั้นก็จะค่อยๆ กลืนกินแมวจนหมด

กรณีอย่างนี้ต้องใช้วิธีป้องกันคือไม่ให้งูเหลือมหรือสัตว์ไม่พึงประสงค์เลื้อยเข้ามาในบ้าน เช่น บริเวณโดยรอบบ้านต้องตัดหญ้า ตัดต้นไม้ให้เตียนโล่ง อุดช่องรูต่างๆ ที่อาจจะเป็นทางเข้าของสัตว์เลื้อยคลาน อาจใช้ผ้าชุบน้ำมันก๊าดผสมน้ำวางไว้ตรงขอบ ประตู หรือบริเวณที่สงสัยว่างูอาจจะเลื้อยเข้ามา การซักผ้าด้วยมือ เมื่อซักผ้าน้ำแรกเสร็จแล้วจะเหลือฟองของผงซักฟอกให้เทลงไปบริเวณรอบๆ บ้าน สัตว์มีพิษขนาดเล็ก เช่น ตะขาบ แมงป่อง มดตะนอย คางคก ก็จะหนีไปเอง

# อาการที่ไม่พึงประสงค์

ในฤดูฝนมักมีปัญหาเรื่องน้ำท่วม สัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสุนัขอาจประสบอุบัติเหตุถูกเศษแก้วบาด เศษโลหะบาด หรือถูกตะปูตำ ก็มีโอกาสเป็นบาดทะยักได้ ดังนั้นเจ้าของควรหมั่นดูแลสัตว์หลังจากลุยน้ำท่วมขึ้นมาอยู่บนบ้านแล้ว ต้องสังเกตดูว่าสัตว์มีบาดแผลหรือไม่ มีเลือดออกตามฝ่าเท้าหรือขาไหม ถ้ามีบาดแผลให้ทำความสะอาดบาดแผลด้วยแอลกอฮอล์และใส่ยาใส่แผลพวกโพวิโดน (Povidone iodine) เพื่อฆ่าเชื้อโรค แต่ถ้าเป็นบาดแผลขนาดใหญ่ ควรพาสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์เพื่อผ่าตัดเย็บแผล หรือให้ยาป้องกันบาดทะยัก (Tetanus toxoid/Tetanus antitoxin) ยาป้องกันการติดเชื้อ รวมทั้งยารักษาอาการอักเสบ การลุยน้ำนานๆ หรือน้ำสกปรกอาจทำให้นิ้วเท้าหรือฝ่าเท้ารวมทั้งขาโดยเฉพาะช่วงล่างเกิดอาการเน่าหรือเปื่อย วิธีการป้องกันก็คือ เมื่อสัตว์ลุยน้ำมาถึงบ้านก็ควรทำความสะอาดตัว โดยเฉพาะขาทั้งสี่ด้วยน้ำสะอาด ซึ่งอาจผสมยาฆ่าเชื้อโรคเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคทำลายผิวหนังบริเวณดังกล่าว และควรหมั่นสังเกตอาการของสัตว์ทุกวัน

# โรคต่างๆ ที่จะมาพร้อมกับน้ำท่วม มีหลายโรคที่พบได้บ่อยๆ คือ

1. โรคฉี่หนู (Leptospirosis) เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งสามารถติดต่อได้ทั้งในมนุษย์และสัตว์ ที่ชอบลุยน้ำสกปรก การป้องกันที่ดีที่สุดคือ เมื่อลุยน้ำมาถึงบ้านแล้วควรทำความสะอาดขาให้สะอาด และเช็ดด้วยยาฆ่าเชื้อโรคหรือแอลกอฮอล์ 70% ถ้ามีบาดแผลควรใส่ยาทิงเจอร์โพวิโดน (Povidone) และควรพาสัตว์เลี้ยงไปให้สัตวแพทย์ตรวจเป็นระยะๆ เพื่อความปลอดภัยของตัวสัตว์เอง

2. ท้องเสีย เกิดจากการที่สัตว์กินอาหารปนเปื้อนน้ำสกปรก หรือกินน้ำสกปรกโดยตรง ซึ่งอาจจะได้รับเชื้อแบคทีเรีย ( E.coli , Salmonella) สัตว์จะมีอาการซึม เบื่ออาหาร ท้องเสีย สัตว์จะถ่ายอุจจาระเหลวหรือเป็นน้ำกลิ่นเหม็นคาวจัด ถ้าปล่อยไว้นานเกินไปสัตว์เลี้ยงจะเกิดภาวะร่างกายขาดน้ำ อาจถึงขึ้นเสียชีวิต ดังนั้นการเลี้ยงดูสุนัขในช่วงหน้าฝนเจ้าของควรจะเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิด เมื่อมีอาการท้องเสียต้องรีบพาไปพบสัตวแพทย์ เพื่อตรวจรักษาได้ทันท่วงที

3. หวัด มักเกิดจากเชื้อไวรัสเป็นส่วนใหญ่ ถ้าเจ้าของดูแลสุนัขอย่างดีและใกล้ชิด สัตว์ได้รับเชื้อหวัดอาจแสดงอาการ 2-3 วัน ก็หายเอง โดยความแข็งแรงของร่างกายที่ต่อสู้ฆ่าเชื้อไวรัสให้หมดไปจากร่างกายได้ แต่ถ้าร่างกายของสัตว์เลี้ยงสู้เชื้อหวัดไม่ไหว ก็จะแสดงอาการของโรคมากกว่า 3 วันขึ้นไป จำเป็นที่เจ้าของต้องพาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์ เพื่อตรวจรักษา และให้คำแนะนำในการดูแลที่ถูกต้อง

4. ปอดบวม มักเป็นผลจากการที่สัตว์เลี้ยงได้รับเชื้อโรค ประกอบกับในฤดูฝนอุณหภูมิของสิ่งแวดล้อมต่ำทำให้ร่างกายไม่สามารถที่จะทนทานต่อการทำลายอวัยวะสำคัญจากเชื้อโรคได้ โดยเฉพาะทางเดินหายใจ ซึ่งเนื้อเยื่อของปอดเป็นจุดที่เชื้อโรคจะทำลายได้ง่ายมาก ก่อให้เกิดอาการของปอดบวม ทำให้สัตว์เลี้ยงหายใจลำบาก เจ้าของต้องรีบพาสัตว์เลี้ยงพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจรักษาโดยเร็ว และควรนึกอยู่เสมอว่าเมื่อย่างเข้าฤดูฝน นอกจากดูแลเรื่องความสะอาดของร่างกายสัตว์เลี้ยงแล้ว ต้องดูแลเรื่องการให้ความอบอุ่นแก่สัตว์เลี้ยงด้วย

5. โรคหัด (Distemper) เป็นโรคติดต่อที่รุนแรงของสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสุนัขและแมว เกิดจากเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดอาการในสัตว์ค่อนข้างรุนแรง ทั้งระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร และมีผลข้างเคียงต่อระบบอื่นๆ ของร่างกายด้วย การแพร่ระบาดรวดเร็ว ดังนั้นเจ้าของสัตว์ ควรนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนประจำปีทุกปี ปีละครั้ง ในฤดูฝนเจ้าของสัตว์ต้องเข้มงวดไม่ให้สัตว์ของตัวเองออกไปปะปนกับสัตว์นอกบ้าน ซึ่งถึงแม้จะฉีดวัคซีนป้องกันไว้เรียบร้อยแล้ว แต่การไปสัมผัสกับสัตว์นอกบ้านโดยเฉพาะสัตว์จรจัด โอกาสได้รับเชื้อไวรัสเป็นไปได้ค่อนข้างสูง ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายกับสัตว์เลี้ยงของเราได้

นายสัตวแพทย์ อลงกรณ์ มหรรณพ

กรรมการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • แนวหน้าวิเคราะห์ : ระวัง 5 อาหารอันตรายหน้าฝน แนะเคล็ดลับสุขภาพดีห่างโรค แนวหน้าวิเคราะห์ : ระวัง 5 อาหารอันตรายหน้าฝน แนะเคล็ดลับสุขภาพดีห่างโรค
  • เปิดตำนาน 5 แมวไทยโบราณ เสริมความมงคล ความปังให้ชีวิต เปิดตำนาน 5 แมวไทยโบราณ เสริมความมงคล ความปังให้ชีวิต
  •  

Breaking News

รัสเซียเดือด! ถล่มเมืองหลวงยูเครนด้วยขีปนาวุธ-โดรนสังหาร 4 ชีวิต

ปะทะเดือด! 'ทรัมป์-มัสก์'โพสต์ซัดกันยับ ขู่ตัดสัญญารัฐบาล-เรียกร้องถอดทรัมป์

ChatGPTตอบคำถามสุดร้อนแรง ใครควรกำจัดก่อนระหว่าง'คนขายชาติ'กับ'อริราชศัตรู?'

นักวิชาการ มธ.เตือนผลพวงเลวร้าย‘สงคราม’ ชี้ไม่ใช่แค่เรื่องอารมณ์-ความรู้สึก

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved