ท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาล ก็คงหนีไม่พ้น จังหวัดกาญจนบุรี สวรรค์ของนักเดินทาง ที่การันตีแล้วว่า “ไปกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ”
เช้าตรู่วันหยุดพักผ่อน เราออกเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ด้วยระยะทาง 195 กิโลเมตร ผ่านเส้นทาง ถนนหมายเลข 323 และ ถนนหมายเลข 3199 ใช้เวลา 3 ชั่วโมงนิดๆ มุ่งหน้า อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ชมความงดงามบนสันเขื่อนศรีนครินทร์ ต่อด้วยทริปสนุกสนานที่รออยู่ เดินป่าส่องช้าง , ดูผึ้งกล่อง, ล่องแพเปียก สัมผัสอากาศเย็นท่ามกลางผืนป่าเขียวชอุ่ม
พาเช็คอินที่แรก เขื่อนศรีนครินทร์ หรือ เขื่อนเจ้าเณร เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำแม่กลอง สร้างขึ้นบนแม่น้ำแควใหญ่ ลักษณะเขื่อนเป็นหินถมแกนดินเหนียวขนาดใหญ่ที่สุดและมีความจุของอ่างเก็บน้ำมากที่สุดในประเทศไทย โรงไฟฟ้าติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจำนวน 5 เครื่อง รวมกำลังผลิตติดตั้ง 720 เมกะวัตต์
ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เชิญพระนามาภิไธยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีมาขนานนามเขื่อน และเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดเขื่อนเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2524
เขื่อนศรีนครินทร์ ช่วยเสริมระบบชลประทานในโครงการแม่กลองใหญ่ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยบรรเทาอุทกภัย ผลักดันน้ำเค็มในฤดูแล้ง เป็นแหล่งประมงน้ำจืด และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม ซึ่งช่วยสร้างรายได้ให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่รอบเขื่อนอีกด้วย
ทางเขื่อน ยังมีบ้านพักรับรองไว้บริการนักท่องเที่ยว รายละเอียดติดต่อได้ที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โทร. 0 2436 6046-8
ขึ้นมาถึงบนสันเขื่อนแล้ว นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาด 'นาฬิกาแดด' สวนเวลารำลึก
สวนเวลารำลึก ที่สร้างขึ้นในศุภมงคลสมัยที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงเจริญพระชนมายุ 90 พรรษา เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและตระหนักในพระราชจริยาวัตร ที่ทรงยึดถือปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของเวลา จึงได้สร้างนาฬิกาแดดขนาดใหญ่ สื่อให้เห็นถึงการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า เมื่อแสงแดดส่องลงมา เงาของเข็มจะชี้บอกเวลา บอกเดือน และ ฤดูกาลด้วย นอกจากนี้ภายในสวนยังปลูกไม้ยืนต้นและไม้ดอก ไม้ประดับ ให้ร่มรื่นงดงามเหมาะแก่การพักผ่อนอีกด้วย
แวะศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. เขื่อนศรีนครินทร์ “อาคารราชานุรักษ์”
เป็นส่วนหนึ่งของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภายใต้แนวคิด ‘Teach Less-Learn More’ ที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับทรัพยากรในผืนป่าตะวันตก สถานที่ท่องเที่ยวใน จ.กาญจนบุรี การอนุรักษ์พันธุกรรมพืช พลังงานหมุนเวียน ความมั่นคงปลอดภัยเขื่อนและเผ่นดินไหว และภูมิปัญญาอันทรงคุณค่าของชาวบ้านที่จะช่วยกันอนุรักษ์พัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุด
พร้อมกันแล้วใช่มั้ย ? กับกิจกรรมสุดสนุกรอบเขื่อนศรีนครินทร์ ไม่ว่าจะเป็น เดินป่า – ดูวิธีการเลี้ยงผึ้งกล่อง – ล่องแพเปียก ไปเริ่มกันเลย...
ชุมชนบ้านช่องสะเดา เป็นชุมชนที่ใกล้ชิดกับเขื่อนท่าทุ่งนา และเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกฟผ. ซึ่งเดิมชาวบ้านมักได้รับผลกระทบจากการที่ช้างป่าบุกรุกพื้นที่ทำกินและที่อยู่อาศัยทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก ชาวบ้านจึงหาทางที่จะอยู่ร่วมกับช้างป่าอย่างสงบสุข โดยต้องไม่ทำอันตรายต่อช้างป่าด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยได้ไปศึกษาดูงานที่โครงการรั้วรังผึ้ง ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย ที่นำผึ้งมาป้องกันช้างป่าโดยไม่ทำอันตรายต่อช้าง ชาวบ้านช่องสะเดาจึงได้นำมาปรับใช้ในชุมชน ผลที่ได้คือทำให้ช้างกับคนอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข และยังได้ผลพลอยได้เป็นน้ำผึ้งมาขายเป็นรายได้ของชุมชนอีกด้วย
กฟผ. จึงได้ร่วมกับ บริษัท โลเคิล อไลค์ ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน พัฒนา “เส้นทางท่องเที่ยวชุมชนช่องสะเดา” เพื่อสร้างศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของชุมชนและสนับสนุนให้เกิดการสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืนโดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ
พาไปเดินป่าส่องช้าง เส้นทางเดินป่าที่ลำห้วยโปร่งฟ้ามีความอุดมสมบูรณ์เพราะความร่วมมือของคนในชุมชนที่ช่วยกัน เมื่อป่าและแหล่งน้ำก็สมบูรณ์จึงช่วยให้ช้างป่ามีน้ำและอาหารกินตลอดทั้งปี ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถพบเห็นรอยเท้าและมูลของช้างที่ลงมาบริเวณโป่งดินธรรมชาติ
ดูผึ้งกล่อง ภูมิปัญญาชาวบ้านที่ช่วยให้คนกับช้างป่าอยู่ด้วยกันได้อย่างสงบ โดยผึ้งที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ในกล่องรอบๆบ้าน จะช่วยกันช้างไม่ให้เข้ามาในบริเวณบ้าน ในขณะเดียวกันชาวบ้านยังสามารถเก็บน้ำผึ้งขาย และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
ล่องแพเปียก เดินเท้าออกจากชุมชนประมาณ 5 นาที จะถึงเส้นทางล่องแพจากน้ำที่ปล่อยมาจากเขื่อนศรีนครินทร์ ท่ามกลางผืนป่าและเทือกเขาสลับซ้อนของผืนป่าตะวันตก
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อกับชุมชนโดยตรงได้ที่ คุณกฤษณา ขวัญเมือง (อ้อย) โทร. 085-291-0993
เมนูเด็ดที่เราสั่ง : ยำริมวารี , แกงเขียวหวานปลาหมึกยัดไส้หมูสับ , กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา , ปลากระพงนึ่งมะนาว , ทอดมันกุ้ง
ก่อนเดินทางกลับ แวะฝากท้องกับร้านอาหารริมน้ำ ณ ริมวารี คาเฟ่และร้านอาหารบนแพริมน้ำ และยังมีไฮไลท์เป็น จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน มีเตียงชายหาดและเปลตาข่ายให้นอนชิวริมน้ำ ที่เปิดให้บริการทุกวัน 10.00 - 21.00 น. หรือพิกัดตามนี้เลยจ้า : https://goo.gl/maps/ZwCuy5BKvaj4qhcb8
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี