สุดยิ่งใหญ่อลังการ ! รำสมโภชเจ้าพ่อหลักเมืองเพชรบูรณ์ เฉลิมฉลองหลักเมืองเพชรบูรณ์ 1,000 ปี
22 พ.ย.63 ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเพชรบูรณ์ ดร.เสกสรร นิยมเพ็ง นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ เป็นประธานในพิธีรำสมโภชเจ้าพ่อหลักเมืองเพชรบูรณ์ เนื่องในงานสมโภชเสาหลักเมืองเพชรบูรณ์ 1000 ปี โดยมีนางนงคราญ สุคนธสาคร ปลัดเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ ดร.วิศัลย์ โฆษิตานนท์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ต.อ.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ ตลอดจนสมาชิกสภาเทศบาลฯ และ ประชาชนชาวเพชรบูรณ์ ร่วมรำสมโภช กว่า 1,500 คน ท่ามกลางบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ร่วมกับสภาวัฒนธรรมเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ มูลนิธิศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเพชรบูรณ์ และพุทธศีลธรรมสมาคมผู้เสียสละเพชรบูรณ์ ได้กำหนดจัดงานสมโภชเสาหลักเมืองเพชรบูรณ์ 1,000 ปี ขึ้น ระหว่างวันที่ 16-24 พฤศจิกายน 2563 พร้อมจัดพิธีสำคัญ สมโภชหลักเมืองเพชรบูรณ์ 5 พิธี ประกอบด้วยพิธีสักการะทางจีน , พิธีบวงสรวงทางพราหมณ์ , พิธีเจริญพระพุทธมนต์ , พิธีพุทธาภิเษก และพิธีรำสมโภชเจ้าพ่อหลักเมือง นอกจากนี้ นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ ยังได้มอบเหรียญเนื้อผง หลักเมืองจำลอง 1000 ปี ที่ผ่านพิธีพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ให้กับผู้ร่วมรำสมโภชในครั้งนี้ด้วย
ดร.เสกสรร นิยมเพ็ง นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ กล่าวว่า เสาหลักเมืองเพชรบูรณ์ ณ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเพชรบูรณ์ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เป็นจุดรวมใจรวมศรัทธาของคนเพชรบูรณ์ ที่มากราบไหว้ขอพร บนบานศาลกล่าวได้ตามที่ปรารถนา ข้าราชการ และคนทั่วไป เมื่อเดินทางมาถึงเมืองเพชรบูรณ์ ก็จะต้องมากราบสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเพชรบูรณ์เป็นอันดับแรก จากบันทึกการขึ้นทะเบียนโบราณสถาน โบราณวัตถุของกรมศิลปากร สันนิษฐานได้ว่า ศิลาจารึกนี้ ครั้งแรกน่าจะถูกนำมาจากเมืองโบราณศรีเทพ มาไว้ที่วัดมหาธาตุก่อน หลังจากนั้น ก็ได้นำมายกเป็นเสาหลักเมืองเพชรบูรณ์ โดยหลวงนิกรเกียรติคุณ เมื่อ พ.ศ. 2443 โดยได้เลือกนำมาปักไว้ที่ป้อมกำแพงเมืองทิศตะวันตกเฉียงใต้ของแนวกำแพงเมืองโบราณ เพราะเป็นบริเวณที่อยู่หน้าศาลากลางจังหวัด เมื่อ พ.ศ. 2548 เมื่อมีการปรับปรุงก่อสร้างอาคารศาลหลักเมืองครั้งใหญ่ ได้มีการค้นพบว่า เสาหลักเมืองเพชรบูรณ์ เป็นศิลาจารึก ทำด้วยแท่งเสาหินทรายสีเทา มีลักษณะปลายป้านโค้งมน มีความสูงจากฐานล่างถึงปลายยอด 184 เซนติเมตร กว้าง 30 เซนติเมตร ความหนาประมาณ 15-16 เซนติเมตร ปลายฐานด้านล่างสุดมีลักษณะแผ่ขยายออกคล้ายวงกลมแบน
“กรมศิลปากรได้ทำการอ่านและแปลศิลาจารึกเสาหลักเมืองเพชรบูรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสรุปได้ความว่า เป็นการจารึกลงในเสาหินใน 2 ยุคด้วยกัน คือ ครั้งแรกเป็นการจารึกในด้านที่ 1 เป็นอักษรขอมโบราณ ภาษาสันสกฤต มีข้อความ 22 บรรทัด จารึกเมื่อมหาศักราช 943 ตรงกับพุทธศักราช 1564 เป็นข้อความการสรรเสริญพระศิวะในศาสนาพราหมณ์ ส่วนการจารึกครั้งที่ 2 เป็นการจารึกใหม่ในด้าน 3 ด้านที่เหลือ เมื่อจุลศักราช 878 ตรงกับพุทธศักราช 2059 เป็นอักษรขอม ภาษาไทย บาลีและเขมร เป็นข้อความเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา และ มีข้อความที่ให้ช่วยกันสืบสานพระพุทธศาสนาให้ได้ 5000 ปี“
สำหรับการนับระยะเวลาอายุของแท่งหินที่เป็นเสาหลักเมืองเพชรบูรณ์นี้ ที่เริ่มตั้งแต่มีการแกะสลักโดยมนุษย์ ตั้งแต่มีการสลักหินออกมาเป็นแท่ง จนถึงมีการจารึกตัวอักษรบนแท่งหินในครั้งแรก ซึ่งก็น่าจะใช้เวลายาวนานพอสมควรไม่อาจกำหนดวันเดือนที่แน่นอนได้ จึงใช้การนับเวลาอายุแท่งศิลานี้แบบปีชนปี นั้นคือ เมื่อมีบันทึกว่า มีการแกะสลักครั้งแรก พ.ศ. 1564 เมื่อเวลาเวียนมาถึง พ.ศ. 2563 ก็จะชน 1,000 ปี เป็นครบวงรอบปีพอดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี