"พระโพธิสัตว์ทำไมยากจน" กับ "พระโพธิสัตว์ที่อยู่ชั้นดุสิต" คัดลอกจากหนังสือ "หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม" ฉบับพิเศษ เล่ม ๗ หน้า ๙๐-๙๑ และหน้า ๙๓-๙๕ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง) อ่าน เรื่อง 'พระเวสสันดรบริจาคลูกเมียเป็นทาน' หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง
ผู้ถาม : “หลวงพ่อขอรับ ผมอยากทราบว่า พระโพธิสัตว์ที่เกิดมาเป็น มหาทุคคตะ นั้น ทำกรรมอะไร…ทำไมถึงยากจน เพราะคำว่า โพธิสัตว์ น่าจะร่ำรวยนี่ขอรับ?”
หลวงพ่อ : “ถ้าพระโพธิสัตว์รวยอย่างเดียวก็โง่ เวลาที่เป็นพระพุทธเจ้าก็เทศน์สอนเขาไม่ได้ ต้องจนมากมาก่อน ทดลองก่อนนะ ถ้าจะเล่าให้ฟังเล่าไม่ได้ เพราะบาลีตอนนั้นท่านไม่ได้บอกนะ พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสไว้
เป็นอันว่ากฏของกรรมบางอย่าง บางชาติอาจจะเป็นคนขี้เหนียว คนที่จนเพราะขาดการให้ทาน โกงเขา แต่พระโพธิสัตว์คงไม่โกง แต่ว่าอาจจะผ่านมาเป็นพันๆ ชาติก็ได้ กรรมประเภทนี้ไม่ใช่ทำชาตินี้ ชาติหน้ารับผล มันไม่ได้ กรรมบางอย่างต้องรอ เป็นพันชาติก็มี ตามไม่ทัน คือว่าก่อนที่จะรู้จักบุญกุศลมันทำมาแล้ว ก่อนที่จะเป็นพระโพธิสัตว์ ลองคิดดู ยังไม่รู้บาปบุญคุณโทษ แต่กรรมประเภทนั้นยังไม่มีผล และทำทุกชาติ ทำกี่อย่างกี่ครั้ง แต่ละคราวจะให้ผลไม่เสมอกัน ไม่พร้อมกัน”
พระโพธิสัตว์ที่อยู่ชั้นดุสิต
ผู้ถาม : “พระโพธิสัตว์ที่อยู่ชั้นดุสิต เมื่อยังไม่ตรัสรู้ อยากเรียนถามหลวงพ่อว่า ท่านมีหน้าที่การงานอย่างไรบ้างหรือเปล่าครับ…?”
หลวงพ่อ : “ฉันยังไม่เคยอยู่ชั้นนี้เลย ความจริงพระโพธิสัตว์นี่หาเวลาว่างยาก บนสวรรค์ ๖ ชั้น พระโพธิสัตว์ก็เหมือนกับพระ ก็มีหน้าที่สงเคราะห์พวกพรหมเทวดาด้วยการเทศน์ อย่างพระอินทร์ เวลาถึงวันขึ้น ๑๔ ค่ำ หรือวันโกนสิ้นเดือน เทวดาต้องไปประชุมกันที่ เทวสภา แล้วตามปกติพระอินทร์ท่านจะไปเชิญพระโพธิสัตว์มาเทศน์ บางคราวก็หาพระโพธิสัตว์ว่างไม่ได้ พระอินทร์ต้องเทศน์เอง ท่านไม่มีเวลาว่าง ถ้าไม่ได้ไปไหนก็ไม่ว่าง”
ผู้ถาม : “ทำอะไรครับหลวงพ่อ…?”
หลวงพ่อ : “ต้องนั่งซิ!”
ผู้ถาม : “แล้วไม่ได้หลับได้นอนหรือครับ…?”
หลวงพ่อ : “เอ…นอนหรือเปล่า ไม่เคยเห็นนอนสักที”
ผู้ถาม : “ลืมตาแจ๋ว…เป็นเหน็บชาแย่”
หลวงพ่อ : “เทวดาไม่มีประสาทปวดนะ แล้วก็ประการที่สอง สวรรค์ก็ดี พรหมก็ดี นิพพานก็ดี ไม่มีกลางคืน ไม่มีกลางวัน และไม่มีพระอาทิตย์ ในแดนนรก ก็ไม่มีกลางวันและกลางคืน ไม่มีพระอาทิตย์เหมือนกัน ฉะนั้นก็ไม่มีคำว่าหยุด ไม่มีคำว่าพัก เพราะไม่มีคำว่าเหนื่อย สภาวะของท่านไม่เหนื่อยเลย หนักก็ดี กลุ้มก็ดี ไม่มีสำหรับเทวดา”
ผู้ถาม : “อย่างนั้นเขาก็มีความสบายอย่างเดียวซิครับ…?”
หลวงพ่อ : “นั่นเขารับส่วนสบายฝ่ายเดียว คำว่าเหนื่อยหรือเพลียไม่มีสำหรับที่นั้น เพราะท่านมีสภาวะเป็นทิพย์ ไม่มีสภาพหนัก มนุษย์นี่มีธาตุดินจึงทำให้หนัก ของท่านไม่มีทั้ง ๔ ธาตุ”
ผู้ถาม : “แล้วถ้าธาตุไม่มีนี่จะพูดจากันรู้เรื่องหรือครับ…?”
หลวงพ่อ : “ก็พูดกันอย่างประสาไม่มีธาตุ เป็นนามธรรมที่เรียกว่า รูปในนาม ไม่มีของหนักอย่างเรา ก็มีสภาพคล้ายอากาศ เบาๆ ทุกอย่าง ฉันตอบได้เพราะว่าฉันเคยตายมาหลายอสงไขยกัป”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี