สืบเนื่องจาก สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) โดยหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ได้ดำเนินโครงการ “การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาคนจนอย่างเบ็ดเสร็จและแม่นยำ ประชาชนหลุดพ้นจากความยากจนอย่างยั่งยืน”
ศรีสะเกษ เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีรายได้ภาคครัวเรือนต่ำที่สุดของประเทศไทย บพท.จึงได้ร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ จัดทำโครงการพัฒนาระบบฐานข้อมูลคนจน โดยศึกษาข้อมูลครัวเรือนคนจนกลุ่มที่จนที่สุด 20% จำนวน 16,484 ครัวเรือน บนฐานข้อมูลความสูง-ต่ำของทุนเพื่อการดำรงชีพ 5 ด้าน ได้แก่ 1.ทุนมนุษย์ (สมาชิกในครัวเรือน สุขภาพ การศึกษา อาชีพ สวัสดิการ) 2.ทุนกายภาพ (ที่อยู่อาศัย โครงสร้างพื้นฐาน)3.ทุนทรัพยากรธรรมชาติ (ที่ดิน แหล่งน้ำ ป่าไม้ ฯลฯ) 4.ทุนการเงิน (รายได้ รายจ่าย หนี้สิน) และ 5.ทุนทางสังคม (กลุ่มองค์กร การช่วยเหลือกันในชุมชน ฯลฯ)
ซึ่งภายหลังจากดำเนินการได้ 9 เดือน มรภ.ศรีสะเกษ ก็ได้จัดทำ (ร่าง) ข้อเสนอเชิงนโยบาย ยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จแม่นยำ กรณีจังหวัดศรีสะเกษเสนอต่อที่ประชุมภาคีความร่วมมือระดับจังหวัด เพื่อขับเคลื่อนจังหวัดศรีสะเกษภายใต้ Agenda “ฮักแพง แบ่งปัน” ของจังหวัดศรีสะเกษที่มีประเด็นสำคัญ เรื่องความยากจน ในการพิจารณาช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาที่เดือดร้อน ทุกข์ยาก ขาดโอกาส โดยการบูรณาการความร่วมมือภาคีเครือข่ายทางสังคมในการแก้ไขปัญหา ลดความซ้ำซ้อนในการให้ความช่วยเหลือเพื่อให้ประชาชนจังหวัดศรีสะเกษมีคุณภาพชีวิตที่ดี
หลังจากที่ได้ศึกษาวิเคราะห์พื้นที่ครบทั้ง 5 ด้านดังกล่าวข้างต้นแล้ว ก็ได้กำหนดพื้นที่นำร่อง ใน 3 อำเภอ 3 ตำบล ดังนี้ 1.ตำบลหนองแค อำเภอราษีไศล พื้นที่นิเวศลุ่มน้ำ ครัวเรือนคนจนเป้าหมาย 155 ครัวเรือน 2.ตำบลหนองครก อำเภอเมือง พื้นที่นิเวศกึ่งเมือง กึ่งชนบทครัวเรือนคนจนเป้าหมาย 338 ครัวเรือน และ 3.ตำบลบึงมะลู อำเภอกันทรลักษณ์ พื้นที่นิเวศเมืองชายแดนครัวเรือนคนจนเป้าหมาย 411 ครัวเรือน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายวิชัย ตั้งคำเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้อธิบายเสริมว่า มรภ.ศรีสะเกษ ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของระบบการทำงานแก้ไขปัญหาของจังหวัดศรีสะเกษโดยปัญหาของผู้ด้อยโอกาส เป็น 1 ใน 10 Agenda ของศรีสะเกษ ซึ่งกำลังขับเคลื่อนดำเนินการภายใต้นโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัด การทำงานวิจัยของ มรภ.ศรีสะเกษ มีความสอดคล้องกับการแก้ปัญหาผู้ด้อยโอกาส จึงบูรณาการร่วมกันได้ โดยตั้งเป็นเรื่องหลักๆ ว่าจะต้องช่วยอย่างน้อย 5 เรื่อง ให้คนด้อยโอกาส มีครบ พอเพียง ช่วยให้ปัญหาเขาทุเลาเบาบาง สามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุขพอสมควร
โดยทั้ง 5 เรื่อง ได้แก่ 1.เรื่องการมีกิน“คนศรีสะเกษต้องไม่อดตาย” คนศรีสะเกษต้องมีกิน 2.เรื่องที่อยู่อาศัย ซอมซ่อ ฝนตก หลังคารั่ว ไม่มีห้องส้วม มีเงินโครงการ 238 ปี (ศรีสะเกษ) กับงบของ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เงินของกาชาด มาช่วยสร้างซ่อมบ้าน 3.เรื่องรายได้ คนแก่เฒ่า ไม่สบาย จะเงินที่รัฐช่วยอยู่ แต่ถ้ามีแรง มีกำลัง ก็จะส่งเสริม ฝึกอาชีพ เพื่อให้มีรายได้ประทังชีวิต 4.เรื่องของสุขภาพ เรื่องการเจ็บป่วย พิการต้องมีการดูแลสิทธิขั้นพื้นฐานที่ควรได้รับ
และ 5.เรื่องการเข้าถึงบริการภาครัฐ ต้องช่วยให้คนที่ไม่เข้มแข็งให้สามารถเข้าถึงบริการของตำบลบึงมะลู อำเภอกันทรลักษณ์ มีโมเดลการช่วยเหลือคนไม่มีชื่อในทะเบียนบ้าน (ตกหล่น) หรือมีชื่อในทะเบียนบ้านแล้ว แต่ยังเข้าถึงสวัสดิการไม่ได้ เพราะป่วย ชรา และไม่มีมือถือ
ทั้งนี้ ข้อมูลจากการสำรวจ ทางอำเภอจะใช้การวางแผนร่วมกับส่วนราชการ เทศบาล อบต. หาทางช่วยเหลือประชาชน โดยทางจังหวัด อำเภอ ภาคส่วนราชการท้องที่-ท้องถิ่น จะได้ขับเคลื่อนร่วมกัน
ซึ่งเมื่อสำรวจแล้ว จะมีข้อมูลขนาดใหญ่ของทั้งจังหวัด โดย มรภ.ศรีสะเกษ จะช่วยสร้างฐานข้อมูลขนาดใหญ่ หรือบิ๊กดาต้าขึ้นมา แล้วเอาข้อมูลมาสังเคราะห์ ทำเป็นข้อมูลรายย่อยรายครัวเรือน เก็บอยู่ในระบบฐานข้อมูล ที่ใช้ค้นหาผู้ด้อยโอกาสกลุ่มต่างๆ ช่วยในการวางแผนการแก้ไขปัญหาหรือจัดทำโครงการต่างๆ ได้ และช่วยให้ไม่เกิดความซ้ำซ้อน เพราะข้อมูลนี้จะเป็นข้อมูลกลาง ทุกภาคส่วนสามารถเข้าถึงในระดับหนึ่ง
และเมื่อส่วนไหนเข้าไปช่วยเหลือแล้ว ก็จะต้องรายงานเข้ามาด้วย เพื่ออัพเดตให้ได้รับรู้ว่า ครอบครัวผู้ด้อยโอกาสแต่ละครอบครัวมีหน่วยไหนเข้ามาช่วยเหลือแล้วบ้าง ในเรื่องอะไร เกิดการบูรณาการ เกื้อกูลการทำงานซึ่งกันและกัน ไม่ซ้ำซ้อน
“นี่คือบิ๊กดาต้าข้อมูลกลาง ที่จังหวัดและทุกภาคส่วนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ในการค้นหาปัญหาต่างๆ ของชุมชน และนำมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ เพื่อจะวางแผนในการแก้ไขปัญหาต่อไป เป้าหมาย คือ พี่น้องประชาชนผู้ด้อยโอกาส ที่สอดคล้องกับการทำวิจัยของ มรภ.ศรีสะเกษ เนื้อหาสาระใกล้เคียงกัน เราจึงมาบูรณาการในเรื่องของการขับเคลื่อนเรื่องของข้อมูลร่วมกัน” นายวิชัย กล่าว
ทั้งนี้ ทีมวิจัย มรภ.ศรีสะเกษ ได้พัฒนาเป็นร่างข้อเสนอเชิงนโยบายยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จแม่นยำ 5 เรื่อง ได้แก่ 1. การประสานความคิดระบบฐานข้อมูล และแผนงาน โดยหลอมความคิด สู่การแก้ไขปัญหาความยากจนในระดับครัวเรือนและระดับชุมชน 2. การเรียนรู้ของชุมชน ผ่านกระบวนการจัดทำข้อมูลครัวเรือนและชุมชน 3.การพัฒนาระบบเศรษฐกิจชุมชน เชื่อมโยงกิจกรรมทางเศรษฐกิจชุมชนกับการจัดการการผลิต การบริโภค และการแลกเปลี่ยน การเชื่อมโยงกับตลาด ทั้งภายในและภายนอกชุมชน
4.การพัฒนานโยบายและกระจายความรู้สู่สังคม วิเคราะห์ชุมชนโดยกระบวนการ Village Profile และข้อมูลรายครัวเรือนเพื่อนำสู่การร่างแผนแม่บทชุมชน แผนเศรษฐกิจชุมชน และแผนวิสาหกิจชุมชน และ 5.การสร้างเศรษฐกิจชุมชนตัวอย่าง พัฒนายกระดับทางเลือกการพัฒนาที่เป็นรูปธรรม เป็นชุมชน เศรษฐกิจชุมชนตัวอย่าง
อย่างไรก็ตาม จังหวัดที่ยากจนที่สุดของประเทศไทย ไม่ได้มีแต่เพียง จ.ศรีสะเกษ เท่านั้น จากข้อมูลของ บพท. ที่ได้คัดเลือก 10 จังหวัดยากจนที่มีรายได้ภาคครัวเรือนต่ำที่สุด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ชัยนาท ปัตตานี กาฬสินธุ์ อำนาจเจริญ สุรินทร์ ยโสธร ศรีสะเกษ มุกดาหาร และสกลนคร
โดยเป้าหมายของการดำเนินโครงการฯ นั้น ก็เพื่อต้องการให้ประชาชนสามารถเข้าถึงทรัพยากร การศึกษา สวัสดิการต่างๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตได้อย่าง
เท่าเทียม มีระบบวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อติดตามกลุ่มเป้าหมายคนจนที่มีความแม่นยำ เพื่อให้การจัดสรรสวัสดิการรัฐมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น รวมถึงคนจนไม่น้อยกว่า 10,000 คน ได้รับการพัฒนาความรู้และทักษะเพื่อปรับเปลี่ยนเป็น knowledge worker หรือ smart farmer มีรายได้และคุณภาพชีวิตดีขึ้น
และเป้าหมายสูงสุดคือ ประชาชนหลุดพ้นจากความยากจนอย่างยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี