10 เม.ย. 2564 เฟซบุ๊กแฟนเพจ “มูลนิธิกระจกเงา” โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2564 เล่าเรื่องโครงการรับบริจาคสิ่งของเหลือใช้ที่ยังมีสภาพดี เพื่อให้คนไร้บ้านได้นำไปขายสร้างรายได้ โดยมีตัวอย่างของคนไร้บ้านที่เข้าร่วมโครงการจนสามารถมีเงินไปเช่าห้องพัก ไม่ต้องหลับนอนบนพื้นที่สาธารณะอีกต่อไป ดังนี้
“ตอนนั้นผมเป็นคนเร่ร่อน อาศัยนอนตามฟุตบาทแถวสนามหลวง วันไหนฝนตกก็ไปแอบนอนตามหน้าตึกแถว หน้าบ้านคนอื่นที่มีหลังคา พอเจ้าของบ้านมาเห็นเขาก็ไล่ ถ้าฝนยังไม่หยุดตก ก็ไปหานอนตามตู้โทรศัพท์สาธารณะ
“ผมออกจากบ้านที่จังหวัดแพร่ มาหางานทำที่กรุงเทพฯ แต่โดนนายหน้าหลอกไปทำงานบนเรือประมง เรือออกไปจับปลาไกลถึงอินโดนีเซีย ผมอยู่บนเรือตลอดสามปีเต็ม ไม่ได้กลับเข้าฝั่ง ผมโดนสลิงที่ใช้ลากอวนจับปลาบาดจนนิ้วขาด พอเรือกลับเข้าฝั่งไทย ผมหนีออกมา กลายเป็นคนเร่ร่อนเต็มตัวที่สนามหลวง ตั้งแต่ตอนนั้น
“ทุกเช้าผมจะไปขอข้าวที่วัดกิน แล้วเดินเก็บขยะ เก็บขวดขาย มีรายได้วันละ 40-60 บาท บางวันผมคุ้ยถังขยะเจอตุ๊กตา ผมจะแยกมาวางขายที่คลองหลอดต่างหาก ผมพยายามเก็บเงิน ถ้าขายขวดได้ 60 บาท ผมจะแยกไว้กิน 20 บาท เป็นเงินเก็บ 40 บาท ตอนผมเร่ร่อนผมเคยมีเงินเก็บประมาณพันกว่าบาท พอเราเหนื่อยมากๆ ไปนอนตรงฟุตบาท ตื่นมาเจอล้วงกระเป๋าเงินหายหมดเลย ขนาดข้าวกล่องที่ซื้อมายังหายเลย
“ชีวิตคนเร่ร่อน อย่างน้อยต้องมีเงินติดตัว 3 บาทไว้เข้าห้องน้ำ ถ้าวันไหนไม่มีจริงๆ ก็ต้องไปขับถ่ายตรงคลองหลอด บางวันก็เก็บขวดไม่ได้เลย ก็จะไปรอรับของแจกตามโรงทาน มันจะมีโพยเลยว่า จะมีการแจกทานที่ไหน วันไหนบ้าง ถ้าวันไหนมีงานวัดแถวนั้น ผมจะตื่นตีห้าไปปากคลองตลาด ไปเก็บดอกไม้ที่เขาทิ้งแล้ว มาเด็ดกลีบเหี่ยวๆ ออกแล้วเดินขายในงาน เวลาเจ็บป่วยก็ต้องอดทน มีแค่ยาพาราไว้ติดตัว รักษาทุกอาการ ผมใช้ชีวิตเร่ร่อนแบบนี้อยู่นานหลายปี
“ผมมีบ้านที่แพร่ แต่ผมไม่กล้ากลับบ้าน ผมหายสาบสูญจนที่บ้านคิดว่าผมตายไปแล้ว ตอนผมออกจากบ้านผมตั้งใจจะทำงานส่งเงินมาจุนเจือครอบครัวให้ดีขึ้น จะกลับไปพร้อมเงินทอง แต่ในความจริงผมพ่ายแพ้ ไม่มีเงินติดตัว เลยไม่กล้ากลับบ้าน ผมไม่กล้าแม้แต่มองผู้หญิง ไม่กล้ามีความรัก ไม่กล้าคิดอะไรแบบนั้นเลย เพราะตัวเอง ยังเอาตัวไม่รอด บางครั้งตอนนอนอยู่ข้างถนน ผมเคยคิดฆ่าตัวตายนะ จะได้หลุดพ้นจากชีวิตแบบนี้ แต่เมื่อไม่ตาย ผมก็จะพยายามให้หลุดพ้นจากชีวิตคนเร่ร่อนให้ได้
“จนอยู่มาวันนึง โครงการแบ่งปัน มูลนิธิกระจกเงา เขามาประชาสัมพันธ์เรื่องระดมทุนจากของบริจาค สร้างอาชีพให้คนรายได้น้อยเพื่อเอาไปขายต่อ ที่สนามหลวง ทั้งตัวผมมีเงินอยู่ 10 บาท ซื้อกระเป๋ามาได้สองใบ ผมเอาไปวางขายที่ริมคลองหลอดใบละร้อย ได้เงินกลับมา 200 บาท ผมดีใจมาก
“ผมรีบติดต่อมาตามนามบัตรที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิให้ไว้ แล้วเอาเงินนั้นเป็นทุนมาเลือกของบริจาคไปขายต่อ ผมไม่ไปเก็บขวดแล้ว ขายของอย่างเดียว จนชีวิตผมหลุดพ้นจากความเป็นคนเร่ร่อน ผมเอาเงินมาเช่าห้องอยู่ มันเหมือนสวรรค์เลยนะ มันมีความเป็นส่วนตัว รู้สึกปลอดภัย นอนเต็มอิ่มไม่มีเสียงรถมารบกวนเลย ตอนนั้นผมคิดถึงแม่ คิดถึงครอบครัวแล้ว ผมรู้ว่าผมจะได้กลับบ้านแล้ว จากนั้นมา ผมเปลี่ยนอาชีพเป็นพ่อค้าตลาดนัดเต็มตัว
“ผมขอขอบคุณผู้บริจาคทุกท่าน ที่บริจาคของเหลือใช้มาที่มูลนิธิกระจกเงา มันมีคุณค่าสำหรับผม และคนอื่นๆ ที่ยากลำบากแบบผมมากๆ ถ้าไม่มีโครงการนี้ ผมคงยังนอนเร่ร่อนอยู่ข้างถนน ตอนนี้ผมได้ดูแลแม่แล้ว ส่งเงินไปให้ที่บ้านทุกเดือน อยากขอบคุณทุกคนจากใจจริง ทุกวันนี้ผมจะคอยแนะนำคนที่มาซื้อของที่มูลนิธิไปสร้างอาชีพต่อ ยิ่งถ้าเจอคนที่เคยเร่ร่อนแบบผม ผมจะรีบไปช่วยเหลือแนะนำ อยากให้เขาหลุดพ้นจากสถานะคนเร่ร่อน แล้วเปลี่ยนแปลงชีวิตได้แบบผม”
-อ้วน สนามหลวง-
คู่ค้าโครงการแบ่งปันเพื่อการเปลี่ยนแปลง
มูลนิธิกระจกเงา
#การแบ่งปันของคุณเปลี่ยนแปลงสังคมได้
#โครงการแบ่งปันเพื่อการเปลี่ยนแปลง
#มูลนิธิกระจกเงา
โดยท้ายโพสต์ดังกล่าว ยังระบุว่าด้วยว่า..
หากคุณมีของเหลือใช้ ที่รู้สึกเก่าไป ไร้ประโยชน์ โปรดทราบว่า ยังมีผู้เดือดร้อน ผู้มีรายได้น้อย รอรับไปใช้งานต่อด้วยความยินดี อยู่อีกมาก ช่วงหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์นี้ ศูนย์รับบริจาค มูลนิธิกระจกเงา เปิดต้อนรับผู้บริจาคทุกวัน ไม่มีวันหยุด ตั้งแต่เวลา 9.30 - 16.00 น.
มูลนิธิกระจกเงามีมาตรการป้องกันโควิด-19 ด้วยการให้เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครทุกคน ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ มีบริการส่งของบริจาคฟรี จากนิ่มเอ็กเพรส น้ำหนักไม่เกิน 25 กก.ต่อกล่อง ส่งได้ที่ สาขา Shop/DC ทั่วประเทศ
ที่อยู่มูลนิธิกระจกเงา เลขที่ 191 ซอยวิภาวดีรังสิต 62 แยก 4-7 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 สอบถามเพิ่มโทร.061-909-1840
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี