น่าจับตา...‘ทุเรียน’ปลูกได้แล้วที่‘บ้านเหล่าตำแย อุดรธานี’
หลายคนยังคงแปลกใจกับการปลูกทุเรียนในพื้นที่ภาคอีสานว่าจะได้ผลผลิตหรือไม่ แต่ที่ “บ้านเหล่าตำแย” หมู่ 6 อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี ได้ทดลองปลูกและสามารถให้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ แถมราคายังสูงกว่าทุเรียนในภาคตะวันออกอีกด้วย
นายอเนก รัตน์รองใต้ เกษตรจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยนายฉลอง คงสมของ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต สำนักงานเกษตรจังหวัดอุดรธานี และคณะ ลงพื้นที่สวนทุเรียนของนางสุนัน สีคำบ่อ อายุ 43 ปี หนึ่งในเกษตรกรชาวสวนทุเรียนที่บ้านเหล่าตำแย หมู่ 6 ตำบลตาลเลียน อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี เพื่อเยี่ยมชมสวนทุเรียนที่ถือเป็นรายได้หลักของเกษตรกรในพื้นที่ โดยมีนางศรีพรรณ บูระพา เกษตรอำเภอกุดจับ นำลูกจ้างแรงงานโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรกรทฤษฎีใหม่ และเกษตรกรในพื้นที่ให้การต้อนรับ
นางสุนัน สีคำบ่อ เปิดเผยว่า ปลูกทุเรียนมากว่า 10 ปี บนพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ เริ่มต้นจากครอบครัวปลูกลำไย และยางพารา แต่ประสบปัญหาผลผลิตลำไยไม่มีตลาดรองรับ ขาดทุน และเสียหายจากลมพายุ ส่วนยางก็ราคาตก ในช่วงดังกล่าวมารดาได้ทดลองนำทุเรียนพันธุ์หมอนทอง จำนวน 2 ต้น มาปลูกในสวนลำไย ผ่านมาหลายปีต้นทุเรียนเติบโตออกลูกให้ชิม รสชาติดี ไม่แตกต่างจากท้องตลาด จึงมั่นใจว่าทุเรียนสามารถปลูกในพื้นที่ได้
ทั้งนี้ มารดาจึงตัดสินใจโค่นลำไยทิ้ง มาปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทอง กระดุม พวงมณี และมูซานคิง รุ่นแรก 150 ต้น ลองผิดลองถูก ดูแลตามภูมิปัญญาชาวบ้าน ตายบ้าง โตบ้าง เหลือจำนวน 20 ต้น จึงปลูกใหม่ในรุ่นที่ 2 จำนวน 40 ต้น รอดตายประมาณ 2-3 ต้น ปลูกอีกครั้งในรุ่นที่ 3 จำนวน 80 ต้น ก็เหลือทุเรียนรอดตายไม่กี่ต้น แต่ในรุ่นที่ปลูกล่าสุด ตนกลับมาปลูกและดูแลเอง จำนวน 30 ต้น อายุประมาณ 6-7 เดือน เหลือทุกต้น พร้อมดูแลต้นอื่นๆ ที่รอดตายจนเจริญเติบโต มีผลผลิตให้จำหน่ายแล้ว 2 ปี
เจ้าของสวนทุเรียน กล่าวอีกว่า ในปี 2562 คือปีแรกที่ทุเรียนให้ผลผลิต เก็บขายได้ 100 ลูก ลูกใหญ่สุดกว่า 6 กิโลกรัม ๆ ละ 130 บาท มีรายได้ 40,000 บาท ในปี 2563 ทุเรียนให้ผลผลิต 80 ลูก จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 150 บาท มีรายได้ประมาณ 50,000 บาท จากการส่งขายให้ผู้สนใจในพื้นที่จากการจับจองทางโทรศัพท์ บางรายมาซื้อถึงสวน และส่งขายให้กับแม่ค้าในอำเภอกุดจับ ส่วนปีนี้ทุเรียนถือเป็นปีที่ทุเรียนออกลูกเยอะมาก คาดว่าจะให้ผลผลิตประมาณ 300 ลูก จะเริ่มเก็บผลผลิตในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ โดยตั้งราคาขายไว้ที่ราคากิโลกรัมละ 200 บาท ซึ่งทุเรียนของที่นี่จะมีจุดเด่นคือ พลูโต เนื้อแน่น สีเหลือง รสชาติมัน กรอบ อร่อย กลิ่นไม่ฉุน ทำให้ผู้ที่เคยทานติดใจในรสชาติ และเริ่มสั่งจองแล้วหลายราย สำหรับผู้สนใจสั่งจองทุเรียน หรือต้องการเข้าชมสวน สามารถติดต่อได้ที่หมายเลข 064-7975926
ด้านนายอเนก รัตน์รองใต้ เกษตรจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่เยี่ยมกลุ่มเกษตรกรชาวสวนทุเรียนก็มั่นใจว่า ทุเรียนสามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ของจังหวัดอุดรธานี สามารถให้ผลผลิตที่ดี มีคุณภาพ ไม่แพ้ทุเรียนจากภูมิภาคอื่นๆ แต่ผลผลิตที่ได้ยังน้อย ยังไม่พอต่อความต้องการของตลาด จากนี้ก็จะให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรจังหวัดอุดรธานีและสำนักงานเกษตรอำเภอกุดจับ เข้ามาสนับสนุนด้านวิชาการ รวมถึงการแก้ปัญหาเรื่องศัตรูพืช และการตลาด นอกจากนี้ยังจะไปส่งเสริมให้เกษตรกรที่สนใจหันมาปลูกไม้ผลทดแทนพืชไร่ เพื่อความยั่งยืนและสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาจังหวัดด้านการเกษตรต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี