สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) โดยกลุ่มภารกิจการพัฒนา ทุนวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ด้านกำลังคนและสถาบันความรู้ ร่วมกับสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) จัดงานสัมมนาออนไลน์ Brainpower Symposiumในหัวข้อ “New Era, New Brainpower, New Skills: ทัศนะการพัฒนากำลังคนเพื่อโลกยุคใหม่”เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา
งานครั้งนี้ได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิและผู้บริหารระดับสูงจากสถาบันอุดมศึกษากว่า 100 แห่งทั่วประเทศ ร่วมรับฟังมุมมองต่อสถานการณ์และการคาดการณ์อนาคตด้านการพัฒนาบุคลากรนำไปสู่การออกแบบทิศทางการพัฒนาบุคลากรได้ตรงตามความต้องการของประเทศ ภายในงานยังมีการเปิดตัวหนังสือ “Multi Mentoring System วิจัยไทยก้าวไกลด้วย MMS” สังเคราะห์องค์ความรู้ด้านการพัฒนากำลังคนของประเทศ ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ริเริ่มและทำงานร่วมกันกับสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.)
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในการเปิดงานพร้อมกับกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “The Next Step of Brainpower” โดยระบุว่า ภารกิจของ อว. เกี่ยวข้องกับการสร้างกำลังคน (Manpower)ให้ตอบสนองความต้องการของประเทศ และการใช้ประโยชน์กำลังคนของประเทศที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด(Brainpower)ดังนั้น ทั้ง Manpower และ Brainpower จึงมีความเกี่ยวเนื่องกัน จำเป็นต้องพัฒนาควบคู่กันไป
ปัจจุบันประเทศไทยมีการส่งนักเรียนทุนไปเรียนที่สถาบันศึกษาชั้นนำ รวมถึงมีนักวิจัยที่ทำงานร่วมกับสถาบันวิจัยชั้นนำระดับโลก นอกจากนั้น ประเทศไทย ยังมีทุนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ของประเทศหลายแหล่งทุน เช่น ทุนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทุนโครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.) ทุนโครงการปริญญาเอกกาญจนาภิเษก (คปก.) เป็นต้น การส่งนักเรียนทุนไปเรียนต้องมียุทธศาสตร์ในการเลือกสาขาวิชาและประเทศที่เรียน รวมทั้งมีแนวทางในการรักษากำลังคนให้อยู่พัฒนาประเทศต่อไป
ระยะหลังภาคเอกชนให้ความสำคัญกับการวิจัยของประเทศมากขึ้น ปัจจุบันงบประมาณวิจัยของประเทศคือ 1.1% ของรายได้ประชาชาติ โดยเป้าหมายที่เราตั้งเป้าไว้ในอีก 6-7 ปีข้างหน้า คือ 2.0% ของ GDP การที่สัดส่วนงบการวิจัยและพัฒนาของเรา ได้ขยับจาก 0.38% ขึ้นเป็น 1.1% แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการลงทุนของภาคเอกชนร่วมเป็นจำนวนมากโดยเมื่อเทียบสัดส่วนการลงทุนของภาคเอกชนและรัฐบาลแล้ว พบว่า ภาคเอกชนลงทุนในการพัฒนางานวิจัย คิดเป็นสัดส่วนการลงทุน 20:80 (ภาครัฐ:ภาคเอกชน)
ดังนั้น การวางยุทธศาสตร์การร่วมมือกับภาคเอกชนซึ่งมีสัดส่วนการลงทุนวิจัยมาร่วมพัฒนาให้เป็นไปตามความต้องการของประเทศ และถือเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของประเทศที่มีภาคส่วนของเอกชนลงทุนการวิจัยจำนวนมาก ทำให้กระทรวง อว. เกิดการปลดล็อกให้บัณฑิตทุนสามารถทำงานในภาคเอกชนได้เพื่อตอบโจทย์การพัฒนากำลังคนที่มีศักยภาพสูงของภาคเอกชน โดยร่วมมือกับสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กระทรวง อว. และบัณฑิตทุนเข้าด้วยกัน ในการพัฒนาแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงกับความต้องการของภาคเอกชน ภายใต้ชื่อTalent Thailand platform
การสร้าง Brainpower และ Manpower ของประเทศไทยในปัจจุบันนั้นเป็นการดูจากสถิติและความพร้อมของระบบในประเทศ แล้วนำไปเปรียบเทียบกับของต่างประเทศที่เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วนั้นอาจยังไม่เพียงพอ แต่ควรปรับเปลี่ยนและตั้งเป้าหมายการพัฒนากำลังคนที่วัดจากความสำเร็จเชิงคุณภาพจากการตอบโจทย์ของภาคเอกชนหรือภาคอุตสาหกรรมมากกว่าค่าจำนวนการผลิต ดังเห็นได้จากภาพสะท้อนการลงทุนของภาคเอกชนในสัดส่วนที่มากกว่าภาครัฐจำนวนมากนั้น อะไรที่เป็นสาเหตุหลัก หรือเป็นลักษณะเฉพาะที่แท้จริงของประเทศที่ทำให้เกิดขึ้น
“ในอนาคตเราจะสร้าง Brainpower และ Manpower ที่เป็นเอกลักษณ์มีความเหมาะสมจำเพาะกับทิศทางของประเทศ เพื่อให้ประเทศเราเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วภายใน 20 ปีข้างหน้า และกระทรวง อว. จะมีการพัฒนาระบบและกลไกการสร้าง Brainpower และ Manpowerที่เท่าเทียมกับประเทศที่พัฒนาแล้วภายใน 10 ปี ข้างหน้า” ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก กล่าว
ทางด้าน รศ.ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวว่า สกสว. มีภารกิจในด้านการบริหารแผนนโยบายและการจัดสรรงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) เพื่อส่งเสริม สนับสนุนและขับเคลื่อนการพัฒนาด้าน ววน. ให้เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดยหนึ่งในประเด็น ววน. ที่คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) และ สกสว. ให้ความสำคัญ คือการพัฒนากำลังคนในด้าน ววน. ให้กับประเทศ รวมถึงกำลังคนทักษะสูงในทุกภาคส่วนของสังคม
ในส่วนของแผนด้าน ววน. ปีงบประมาณ 2566-2570 ฉบับใหม่ ได้กำหนดยุทธศาสตร์เรื่องการพัฒนากำลังคนและสถาบันด้าน ววน. ให้เป็นฐานการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศแบบก้าวกระโดดและยั่งยืนโดย กสว. ได้มอบหมายให้ สกสว. ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จัดทำแผนการพัฒนาบุคลากรด้านการวิจัยและนวัตกรรม ปีงบประมาณ 2565-2570 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาบุคลากรด้านการวิจัยและนวัตกรรม 30 คน ต่อประชากร
1 หมื่นคน ในปี 2570 จากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 21-22 คน และให้บุคลากรด้าน ววน. กระจายตัวอยู่ในภาคส่วนต่างๆ ทั้งหน่วยงานของรัฐและภาคเอกชนอย่างเพียงพอ
สำหรับการสร้างกำลังคนทักษะสูง และการสร้างการเรียนรู้ทุกช่วงวัยเป็นบทบาทโดยตรงของสถาบันอุดมศึกษา ในการสร้างทักษะการใช้ชีวิตในโลกวิถีใหม่และประเด็นคุณธรรมและจริยธรรม ในปัจจุบันแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้กำหนดแนวทางการพัฒนาที่ต้องมุ่งเน้นรายสาขาอย่างชัดเจน อย่างไรก็ดี จำเป็นจะต้องมีการถอดรหัสทักษะของกำลังคนที่ต้องการสำหรับสาขานั้นๆ และนำ ววน. มาเป็นส่วนสนับสนุนในการจัดหาเครื่องมือ กลไก รูปแบบ และทดลองวิธีการใหม่ๆ ในการพัฒนากำลังคน รวมถึงแนวทางในการสร้างระบบนิเวศใหม่
ทั้งนี้ ด้านการอุดมศึกษา และ ววน. ต้องทำงานร่วมกันกับภาคเอกชน ภาครัฐ และภาคประชาสังคม เพื่อพัฒนากำลังคนให้ตรงกับความต้องการของประเทศ การมีกำลังคนที่มีทักษะสูงและคุณภาพสูง จะส่งผลให้ประเทศมีความเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้ และสามารถพัฒนาประเทศไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง รวมทั้งการทำงานร่วมกันระหว่างนักวิจัยและผู้ที่มีทักษะสูง นอกจากจะเป็นแรงดึงดูดให้เกิดความร่วมมือและการลงทุนจากต่างประเทศ ยังสามารถทำให้เราดูดซับความรู้และสามารถรองรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีได้
ด้วยความตระหนักถึงความสำคัญของ ววน. ต่อการพัฒนากำลังคนของประเทศ สกสว. โดยกลุ่มภารกิจการพัฒนา ววน. ด้านกำลังคนและสถาบันความรู้ จึงได้ริเริ่มจัดงานBrainpower Symposium ขึ้น เพื่อเป็นเวทีทางวิชาการ ในการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดของผู้เชี่ยวชาญ ในประเด็นการพัฒนา ววน. ด้านกำลังคนและสถาบันความรู้ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสนทนาเชิงวิชาการ และความตระหนักรู้ในประเด็นที่สำคัญต่อการพัฒนากำลังคนของประเทศ สำหรับผู้กำหนดนโยบายและนักวิชาการ ซึ่งจะสามารถนำไปเป็นแนวทางในการศึกษาและออกแบบทิศทางการพัฒนาบุคลากรให้ตรงตามความต้องการของประเทศได้ และสำหรับภาคส่วนต่างๆ รวมถึงทั้งภาคเอกชนและประชาสังคมที่มีความสนใจ สามารถมีส่วนร่วมในการผลักดันการรับรู้ของสังคม และการสนทนาในโอกาสต่างๆ ในประเด็นที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศ
นอกจากนี้ภายในงานยังมีการเสวนาในหัวข้อ “New Era, New Brainpower, New Skills: ทัศนะการพัฒนากำลังคนเพื่อโลกยุคใหม่” และหัวข้อ “ก้าวข้ามวิกฤตกำลังคนไม่ตอบโจทย์ประเทศ”โดย วิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากภาคนโยบายและภาคเอกชน ร่วมวิเคราะห์ทิศทางการพัฒนากำลังคนของประเทศ ซึ่งงานสัมมนาในครั้งนี้ก่อให้เกิดกลไกความร่วมมือระหว่างสถาบันความรู้ พัฒนาให้นักวิจัยมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศและผู้บริหารหน่วยงานในระบบ ววน. ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพของกำลังคนเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี