ไม่ทราบว่า “เยาวชน” คนรุ่นใหม่ของชาติเรา คิดอะไรอยู่แต่ที่ประเทศจีน “กระแสรักชาติ” กำลังมาแรงจาก “ยักษ์หลับ”ที่โดนรังแก ดูถูก เหยียดหยาม ต่ำต้อย
จีนวันนี้ไม่ใช่ “กุลี” ชนชั้นกรรมกรแรงงาน เอาหยาดเหงื่อแรงงาน หยดเลือดเข้าแลกเศษเงิน ค่าจ้างเพื่อยังชีพ ทำนอง “หาเช้า กินค่ำ” “อดมื้อกินมื้อ” อีกต่อไป
จากอดีตที่เคยจมติดดิน จนกระทั่งมีฝรั่งไปเขียน “นิยาย” ว่าครอบครัวไม่มีอะไรกิน ยอมแม้กิน “ลูก” หากแต่ยังมี “สำนึก” ไม่กิน “ลูก” ของตัวเอง แลกลูกกับเพื่อนบ้าน
แต่วันนี้ของจีนที่ผงาดตื่นเป็น “ยักษ์” ที่โลกจับตา อาหารการกินอุดมสมบูรณ์จนต้อง “รณรงค์” ให้ “อย่ากินทิ้งกินขว้าง”
“Every Grain On Your Plate Comes From Hard Work.
Cherish Food, Reduce Waste”
ลูกเอ๋ย ทุกรวงข้าวได้จาก “หยาดเหงื่อ งานหนัก” กินเถิด กินอย่างรู้ “คุณค่า” อย่าเหลือเป็น “เศษขยะ”
แน่นอนการ “สร้างชาติ” ด้วยระบบสังคมนิยม คอมมิวนิสต์ให้ไปในทิศทางเดียวกัน “สิทธิมนุษยชน” ในประเทศประชากรพันกว่าล้าน “ร้อยพ่อ พันแม่” จีนคงไม่สามารถบริหารให้เป็นไปตาม “อุดมคติ” ของโลกสวย
เหตุการณ์ “เทียนอันเหมิน” การปราบปราม “เยาวชน”ด้วยความรุนแรง ทำให้จีนตกเป็น “จำเลย” ของ “สังคมโลก”
เมื่อประธานาธิบดีสหรัฐ Bill Clinton มีกำหนดจะไปเยือนประเทศจีน หลังเหตุการณ์ “เทียนอันเหมิน” สดๆร้อนๆ ประธานาธิบดี “เจียง เจ้อหมิน” ของจีน ต้องออกมาพูดดักคอไว้ก่อน
“ถ้าท่านประธานาธิบดี คลินตัน พูดถึงเรื่อง “สิทธิมนุษยชน” ผมก็จะพูดเรื่อง Airbus (ฮา)”
“ท่านผู้นำจีน” กำลังบอกว่า ถ้าคลินตัน ลื้อมายุ่งกับอั๊วเรื่อง สิทธิมนุษยชน ในประเทศจีนของอั๊ว อั๊วก็จะยกเลิกสั่งเครื่องบิน Boeing ของสหรัฐ (เป็นพันลำ) เปลี่ยนไปสั่ง Airbus ของยุโรปแทน
จีนตอนนั้นเพิ่งเปิดประเทศเสรีทางการค้า สายการบินจีนเปิดใหม่เป็น “ดอกเห็ด” และสั่งซื้อเครื่องบิน Boeing ของสหรัฐจน จีน เป็น “ลูกค้าอันดับหนึ่ง”
ท้ายสุด ประเทศสหรัฐอเมริกาต้องถือนโยบาย US Interest “เป็นสำคัญ” ดังที่ถือมาตั้งแต่สร้างชาติ
ประธานาธิบดีคนที่แล้ว Donald Trump เจ้าของนโยบาย America First เลือกรักชาติรุนแรงและต้องการให้ “งาน” กลับมายังประเทศ แทนที่จะปล่อย Order ไปผลิต สร้างงาน ในประเทศอื่น (จีนเป็นเป้าใหญ่)
สินค้าต้อง Made in USA
ความพยายามของ President Trump ที่กีดกัน ข่มเหง รังแก ขึ้นภาษี Boycott จีน ย้อนกลับมาสร้าง “กระแสรักชาติ” ให้กับพลเมืองจีน โดยเฉพาะ “เด็กรุ่นใหม่” คอมมิวนิสต์จีน
“Go Local”
กระแสรักชาติถูกปลุกเร้าให้เข้มข้น เมื่อห้างยักษ์ใหญ่อินเตอร์สัญชาติสวีเดน H&M ออกมาไม่ยอมรับ ไม่ทำธุรกิจกับ “ฝ้าย” จาก Xinjiang ด้วยอ้างว่าจีนไปละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์ ชนมุสลิมกลุ่มน้อย ซึ่งเป็นแรงงานเก็บฝ้ายประหนึ่ง “แรงงานทาส”
“ผู้บริโภคจีน” เป็นแฟนๆ ของ Brand ดังต่างประเทศอย่าง H&M, Burberry, Nike, Adidas ฯลฯ โดน “กระแสรักชาติ” ปลุกให้เลิกอุดหนุน Brand ดังหันมามองสินค้าของตนเอง “Made in China”
CHINA BRAND
เยาวชนคนรุ่นใหม่จีนไม่เห็นเหตุผลที่จะไปเสียเงินแพงแพงซื้อ Brand Name ดังๆ ของต่างประเทศอีกต่อไป
“กระแสรักชาติ” ยังทำให้เกิดการค้นคว้านำเอาศิลปะโบราณ สมุนไพร ฯลฯ มาผสมผสานในผลิตภัณฑ์สมัยใหม่ของจีน
สินค้าจีนดูถูกไม่ได้อีกต่อไป เพราะได้ Technologyจากบริษัทข้ามชาติที่เข้าไปลงทุนในจีน และจีนเองได้ใช้เงินในงบ R&D มหาศาล
จีนไม่ใช่ “ลูกไล่” ใครอีกต่อไป (โดยเฉพาะไม่ใช่ “อาตี๋” ของยักษ์สหรัฐ)
เร็วๆนี้ เมื่อประธานาธิบดีสหรัฐคนปัจจุบัน Joe Bidenยกหูคุยกับประธานาธิบดีจีน XI JINPING นานถึงชั่วโมงครึ่งและทำให้ผู้คนที่ไม่อยากเห็นการทะเลาะเบาะแว้งของชาติมหาอำนาจ (หญ้าแพรกแหลกลาญ) ใจชื้น
“ทั้ง 2 ประเทศต้องรับผิดชอบกับการที่ไม่ทำให้ “การแข่งขัน Competition กลายเป็น “ความขัดแย้ง” Conflict
ก่อนหน้านี้ Wang Yi รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน แสดงความแข็งกร้าว ส่งสารถึงสหรัฐ ขอให้ดู 3 บรรทัดสุดท้าย
1.สหรัฐ อย่าได้มาท้าทายหรือกีดขวางเส้นทางของจีนในการเป็น “สังคมนิยม”
2.สหรัฐ ไม่ควรขัดขวางการพัฒนาประเทศของจีน
3.สหรัฐ ไม่ควรด้อยค่า ศักดิ์ศรีของจีน
สรุปเป็นประโยคใหม่ๆได้ว่า
“ลื้ออย่ามายุ่งกับอั๊ว ทางใครทางมัน”
กฤษณ์ ศิรประภาศิริ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี