โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ One Tambon One Product (OTOP) เป็นโครงการที่มุ่งหวังให้คนในชุมชนได้นำภูมิปัญญาที่มีอยู่มาพัฒนาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ จำหน่ายเพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเอง ครอบครัวและชุมชน ผลการดำเนินที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนและประชาชนในท้องถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศ เป็นการสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง โดยหน่วยงานภาครัฐให้การสนับสนุนช่วยเหลือด้านความรู้ เทคโนโลยี ทุน การบริหารจัดการ เชื่อมโยงสินค้าจากชุมชนไปสู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
โดยโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ได้เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 จนถึงปัจจุบัน รวมเวลาก็เกือบ 20 ปีแล้วที่ได้สร้างงาน สร้างเงินให้ประชาชนในชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศได้เป็นจำนวนมหาศาลมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
แต่การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 ที่ลุกลามไปทั่วโลก ได้ส่งผลกระทบถึงการค้าขายผลิตภัณฑ์ OTOP ของไทยอย่างมากด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานและบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ก็ไม่ได้ปล่อยปละละเลยที่จะดูแลในเรื่องนี้ โดยล่าสุด กรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย จัดงาน “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี ปี 2564” ครั้งที่ 10 ในรูปแบบ Virtual Event สื่อถึงการนำพาผู้ประกอบการ OTOP ก้าวผ่านการฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปสู่โลกออนไลน์ โดยปีนี้เป็นการจัดแบบผสมผสานทั้ง Online และ Onsite ตั้งแต่วันที่30 กันยายน ถึง 9 ตุลาคม 2564 รวม 10 วัน
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี ปี 2564” ในรูปแบบ Virtual Event บนเวที
เสมือนจริง โดยจำลองบรรยากาศงาน OTOP มาอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ ขานรับนโยบายรัฐเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 และมอบความสุขให้กับผู้เข้าร่วมงานที่ต้องอยู่กับบ้าน
ซึ่งพิธีเปิดงานได้เนรมิตโชว์การแสดงอย่างยิ่งใหญ่สุดประทับใจ ถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ของพิธีเปิดงานแสดงสินค้าและจำหน่ายสินค้า OTOP ที่เหมือนได้นั่งรับชมอยู่ภายในงานจริงๆ
ทั้งนี้ ในพิธีเปิดแบบ Virtual ยังได้รับเกียรติจาก ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ นายสุรศักดิ์ อักษรกุล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายวรงค์ แสงเมือง ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน และ นางลักขณา นะวิโรจน์ ประธานโครงการสุขสยาม ไอคอนสยาม เข้าร่วมงานด้วย
สำหรับการจัดงานรูปแบบ Online หรือรูปแบบเสมือนจริงจะเป็นการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพ และผลิตภัณฑ์ OTOP ผ่านทางเว็บไซต์ www.otop-shopping.com โดยผู้เข้าชมสามารถเข้าร่วมงานได้อย่างต่อเนื่องทุกที่ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งครอบคลุม 5 กิจกรรมหลัก ดังนี้
1. นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีต่อการอนุรักษ์และส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น อันเป็นที่มาของศิลปาชีพ
2.การจัดแสดงและจำหน่ายผลงานของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯพบกับผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์อันทรงคุณค่า ฝีมือสุดประณีต กว่า 500 รายการ
3.การจัดแสดงและจำหน่ายผลงานของศิลปิน OTOP และสินค้า OTOP ระดับ 3-5 ดาว ทั้ง 5 ประเภท และ OTOP ชวนชิมจำนวน 1,800 ร้านค้า
4.การจับคู่เจรจาธุรกิจ (BusinessMatching)โดยเชิญผู้ประกอบธุรกิจและผู้จัดจำหน่ายที่สนใจนำผลิตภัณฑ์OTOP ไปต่อยอดช่องทางการตลาด เข้าร่วมเจรจาธุรกิจ ผ่านช่องทางออนไลน์
5.เวทีกิจกรรม หรือ เวทีกลางสำหรับจัดแสดงศิลปวัฒนธรรม การแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง อาทิ พลพลพลกองเส็ง, อาภาพร นครสวรรค์, ทัชณ ตะกั่วทุ่ง ฯลฯ รวมทั้งกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ เช่น Live สด จากดาราชื่อดัง อาทิ พิงค์กี้-สาวิกา ไชยเดช, ยุ้ย-จีรนันท์ มะโนแจ่ม ฯลฯ สินค้าดีนาทีทองการจับสลากชิงรางวัล เป็นประจำทุกวัน
ส่วนการจัดงานรูปแบบ Onsite เป็นการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ระดับ 3-5 ดาว และ OTOP ชวนชิม รวมจำนวน 200 ร้านค้ากระจายอยู่ในพื้นที่ของห้างสรรพสินค้า รอบกรุงเทพมหานคร รวม 3 แห่ง ได้แก่ โซนแบงก์กิ้ง ชั้น 1 ศูนย์การค้าเมกา บางนา, เมืองสุขสยาม ชั้น G ไอคอนสยาม และ ลานโปรโมชั่นชั้น 1 ศูนย์การค้าเจเจมอลล์ โดยการจัดงานทั้ง 3 แห่ง จะดำเนินการภายใต้มาตรการป้องกันความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นสำคัญ
นายสุทธิพงษ์ ได้เชิญชวนคนไทยมา ชม ชิม ช้อป และร่วมภาคภูมิใจกับผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาไทย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างโอกาส และสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP โดยเฉพาะในช่องทางออนไลน์ช้อปง่ายๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา แค่คลิก www.otop-shopping.com
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ในการแถลงข่าวการจัดงาน “ศิลปาชีพประทีปไทยOTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี ปี 2564” นายสุทธิพงษ์ได้กล่าวว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน จัดงาน “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOPก้าวไกลด้วยพระบารมี” ปี 2564 เพื่อเฉลิมพระเกียรติและเป็นการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่มีต่อการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาของคนไทย ภายใต้โครงการส่งเสริมศิลปาชีพและมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ รวมทั้งเพื่อบรรเทาผลกระทบของผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP
โดยเป็นที่ทราบกันดีว่า ในปี 2564 นี้ ธุรกิจและการดำเนินงานต่างๆ ทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงักจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่กรมการพัฒนาชุมชนยังคงส่งเสริมสินค้า OTOP ในทุกมิติมาโดยตลอด ทั้งกระบวนการผลิต การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ การเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว รวมถึงการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ด้วย
“หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง กรมการพัฒนาชุมชนจึงมีแผนการดำเนินงานเพื่อเยียวยาผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่ได้รับผลกระทบเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการมีโอกาสด้านการตลาดและยังเป็นการส่งเสริมผู้ประกอบการให้มีศักยภาพและพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์ให้สามารถแข่งขันได้ผ่านตลาดออนไลน์ซึ่งเป็นช่องทางที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
และหลังจากที่รัฐบาลได้มีมาตรการผ่อนคลาย ในส่วนของตลาดออฟไลน์ กรมการพัฒนาชุมชนก็ได้ให้ความสำคัญกับจัดงานด้วย เพื่อให้ผู้ซื้อได้มีโอกาสพบปะและสนับสนุนผู้ประกอบการ OTOP อย่างต่อเนื่อง ภายใต้มาตรการการเฝ้าระวังและควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด โดยคาดหวังว่าการจัดงานทั้งOnline คือในรูปแบบเสมือนจริงและ Onsite ในห้างสรรพสินค้าครั้งนี้ จะช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ผู้ผลิตผู้ประกอบการ ตลอดจนสมาชิกกลุ่มต่างๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ” นายสุทธิพงษ์ กล่าว
สำหรับงาน “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี ปี 2564” ในครั้งนี้ มีผู้ประกอบการเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก และมีหลากหลายผลิตภัณฑ์ให้เลือกสรร ตั้งแต่ราคาย่อมเยา ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่มีราคาสูง อาทิ กระเป๋าถือของสุภาพสตรีที่มีสนนราคาเรือนแสน บ่งบอกถึงคุณภาพมาตรฐานของสินค้าฝีมือคนไทยได้เป็นอย่างดี
การจัดงานในครั้งนี้ เป็นความมุ่งมั่นและตั้งใจของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในการที่จะผลักดันให้เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้เกิดขึ้นในชุมชน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในช่วงที่วิกฤตโควิด-19 กำลังทุเลาลง อีกทั้งยังจะเป็นช่องทางหนึ่งในการประกาศศักยภาพของสินค้าชุมชนที่มาจากภูมิปัญญาและฝีมือของไทยให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในเวทีโลกอีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี