ที่อำเภอสวนผึ้ง จ.ราชบุรี ช่วงนี้เริ่มตื่นตัวหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 เบาบางลง มีนักท่องเที่ยวเข้าไปสัมผัสธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้และหุบเขา
"บ้านหอมเทียน" นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งของ อ.สวนผึ้ง ที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจชมการทำเทียนหอมที่มีหลากหลายสีสันสวยงาม ตกแต่งร้าน ผสมผสานงานศิลป์หลากหลายโซนให้เลือกชม นอกจากนี้ยังเป็นร้านอาหารและมีเมนูสุดพิเศษที่ใช้กระโบมของใช้ในครัวเรือนของทางภาคอีสานมาเป็นถาดรองอาหาร พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศธรรมชาติแห่งเทือกเขาตะนาวศรี
คุณเอ๋ หรือ นายรัชนิกร ฉิมมะ เจ้าของบ้านหอมเทียน ซึ่งเป็นเป็นคนจังหวัดราชบุรีโดยกำเนิด เล่าให้ฟังว่า ได้มาเปิดบ้านหอมเทียนให้นักท่องเที่ยวได้ชมเพราะทำเทียนเป็นอาชีพมาก่อน เนื่องจากเคยได้ลองทำเทียนเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับเพื่อน ๆ แล้วเป็นที่ถูกใจและเริ่มรับผลิตตาม order จนในที่สุดก็มาเปิดร้านเทียนที่ตลาดนัดสวนจตุจักร ขายเทียนที่มีสีสัน ลวดลายแปลกใหม่
หลังจากนั้นไม่นานเริ่มเกิดความคิดว่า อยากขายเทียนที่ไม่มีใครในโลกผลิตได้แบบนี้ให้กับคนไทยบ้าง ประจวบเหมาะกับตัวเองอยากกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิด อ.จอมบึง จ.ราชบุรี จึงตัดสินใจหันเหตัวเองกลับสู่บ้านและเลือก อ.สวนผึ้ง ซึ่งเป็นอำเภอที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านเป็นที่สำหรับใช้ชีวิตเรียบง่าย ปลูกบ้านหลังเล็ก ๆ ปลูกผักรับประทานเอง ใช้ทรัพยากรในพื้นที่จำพวกเศษไม้เก่า หลังคามุงจาก ด้วยเวลา 2 ปีสร้างเป็นบ้านหอมเทียนขึ้นมา หวังให้เป็นพื้นที่สำหรับแสดงภูมิปัญญาท้องถิ่นออกไปให้คนได้เรียนรู้ ส่วนหนึ่งมีพื้นที่ว่างก็ให้ชาวบ้านในท้องถิ่นมาขายสินค้าเลี้ยงชีพ จากนั้นก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวที่มา สู่ความเป็นสาธารณะมากขึ้น มีคนมาดูงาน นักท่องเที่ยวก็ชอบมาเรียนรู้ ซื้อสินค้าพื้นบ้าน จึงคิดไอเดียตกแต่งให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว
บรรยากาศในบ้านหอมเทียนที่มีความร่มรื่น เน้นวัสดุธรรมชาติ หรือสิ่งก่อสร้างแบบย้อนยุค ดิบ ๆ เช่นนำอุปกรณ์กระป๋อง พัดลม เครื่องโทรศัพท์ กระเป๋าเดินทางแม้แต่วิทยุของสมัยยุค 90 เก่า ๆ นำมาตกแต่งภายใน นอกจากนี้ ยังมีขายอาหารก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่ยางมะตูมสูตรพิเศษของทางร้านรวมทั้ง ขนมไทย น้ำดื่มที่ใส่ในกระบอกไม้ไผ่ และเค้ก โดยอาหารจุดเด่นของร้านนี้เวลามีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมทานอาหารก็จะนึกถึงเมนูสุดพิเศษ นั้นก็คือการใช้ภาชนะถาดเป็นกระโบมใส้อาหารจากภาคีสาน นำมาใส่ข้าวผัดกระเพราะรวมด้วยหมูกรอบ ไข่ดาว และสลัดผัก ที่อยู่รวมกันในกระโบม ปัจจุบันกระโบมนั้นเป็นสิ่งที่หายากมาก หรือสิ่งที่ถูกลืมไปแล้ว ตนเองจึงนำมาประยุคเป็นถาดรองอาหาร จนได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยวที่มารับประทานอาหารแล้วบอกว่าแปลกดี
นายรัชนิกร ฉิมมะ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด – 19 ทางร้านก็ปิดไปหลายเดือน จนปัจจุบันสถานการณ์เริ่มดีขึ้นก็ได้เปิดมา 1 เดือนแล้ว แต่นักท่องเที่ยวก็ยังไม่ค่อยเยอะเหมือนก่อน ซึ่งที่ตนได้กลับมาเปิดก็เนื่องจากสถานการณ์แบบนี้ชาวบ้านที่ทำงานอยู่ที่นี่ ไม่มีงานทำ จึงหันมาเปิดให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้ทำงานมีรายได้ ไปเลี้ยงครอบครัวถึงลูกค้าไม่เยอะแต่ก็พอมีในช่วงเสาร์ – อาทิตย์ ที่มีลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมบรรยากาศธรรมชาติ และมาทานอาหารกัน ซึ่งทางร้านก็ได้มีมาตรการตรวจวัดอุณหภูมิ การลงชื่อ ตามมาตรการของสาธารณสุขอย่างเข็มงวด มีการล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ทุกขั้นตอน ที่เป็นเรื่องป้องกันเพื่อความปลอดภัยสำหรับลูกค้าที่มาเที่ยว ตอนนี้ทางร้านก็ได้ปรับตัวตามสถานการณ์ ปรับเปลี่ยนใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่มีอยู่แล้วมาทำภาชนะ ให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในบางส่วน
อีกทั้งพนักงานก็เป็นคนในพื้นที่ทำให้อัตราค่าแรงไม่ค่อยสูงมากพออยู่กันได้ เดิมที่ทางร้านก็จะมีบรรยากาศวิวเทือกเขาที่พร้อมกินพร้อมชมไปพร้อมกับก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่ยางมะตูม ที่คัดสรรอย่างดีอีกทั้งถั่วงอกที่ปลูกเอง เป็นอาหารปลอดภัยจากธรรมชาติ
ส่วนก๋วยเตี๋ยวนั้นก็จะปรุงทีละชามแบบเข้มข้นประณีต เมื่อมาเที่ยวแล้วจะต้องกินของที่ดี แต่สิ่งที่เป็นจุด ซิกเนเจอร์ของร้านในช่วงนี้ก็คือ กระเพรากระโบม ซึ่งเป็นถาดไม้ขนาดใหญ่ของใช้โบราณมีลักษณะเด่นและสวยดี จึงคิดนำกลับมาใช้ใส่ข้าวกระเพราหมู ไข่ดาว หมูสามรส หมูกรอบ หมูสามชั้นทอด หมูหวาน พร้อมกับน้ำซุปและผักสลัดโร ที่รวมทั้งหมดอยู่ในกระโบมเดียว นั่งทานกับบรรยากาศทิวทัศน์หุบเขาที่สวยงาม 1 กระโบมสามารถนั่งทานได้ถึง 4 คนอิ่ม มีทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ทานได้ประมาณเกือบ 10 คน ในราคาเริ่มต้นที่ 300 บาท แล้วแต่วัตถุดิบที่สั่ง เช่น กระเพราหมู กระเพราทะเล
นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่ม เมนูเย็นๆ ที่ใส่ในกระบอกไม้ไผ่ช่วยลดภาวะโลกร้อนและสามารถเป็นที่ลึกได้ โดยใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์ ไม่สร้างมลพิษให้กับชุมชนอีกด้วย อีกทั้งยังสร้างความประทับใจกับนักท่องเที่ยว ซึ่งกระบอกไม้ไผ่ก็ซื้อจากชาวบ้านที่ปลูกไผ่ นำมาขายให้กับทางร้าน ทำให้ชาวบ้านมีรายได้เสริมอีกทาง
บ้านหอมเทียนจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งของ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เปิดมา 17 ปีแล้วหากท่านใดสนใจอยากจะมาเที่ยวบ้านหอมเทียนใช้เส้นทางอำเภอสวนผึ้ง – บ้านผาปก เลยที่ว่าการอำเภอสวนผึ้งไปประมาณ 3 กม.อยู่ด้านขวามือติดถนน หรือเปิด GPS บ้านหอมเทียนมาได้เลย เปิดตั้งแต่เวลา 08.00 - 18.00 วันเสาร์เปิด 08.30 -19.00 ทางร้านเป็นแหล่งผลิตเทียนเองจะมีค่าเข้าชมท่านละ 50 บาท ทางร้านให้เทียนหอมเป็นที่ระลึก 1 ชิ้น - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี