วัดสันติวิหารร้อยเอ็ด จัดกวนข้าวทิพย์ครึ่งร้อยถวายเป็นพุทธบูชาวันออกพรรษา ปชช.ที่มาร่วมงานต้องวัดไข้ สวมหน้ากากอนามัยก่อนเข้าวัด
วันนี้(21 ต.ค.64)ตั้งแต่เวลา 14.00 น.ที่วัดสันติวิหาร ต.ธงธานี อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด พุทธศาสนิกชนเดินทางมาร่วมในพิธีกวนข้าวทิพย์ กันอย่างบางตาภายใต้สถานการณ์ที่ต้องระวังป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มข้นประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมก่อนเข้าบริเวณวัดต้องได้รับการตรวจวัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และสวมหน้ากากอนามัยทุกคนเพื่อเป็นการระวังป้องกันเต็มที่การ์ดไม่ตก
บรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยภาพที่เห็นคือพี่น้องประชาชนสายบุญที่มาร่วมงานต่างช่วยกันจับถือไม้พายและพลั้วซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้กวนข้าวทิพย์ เดินวนรอบเตากวนข้าวทิพย์จำนวนกว่า50 กระทะตลอดทั้งวันและทั้งค่ำคืนนี้ โดยเฉพาะในช่วงที่ข้าวทิพย์ที่ถูกเคี่ยวจนสุกและหนืด ก็ยิ่งคงต้องออกแรงมาก ขณะเดียวกันก็ได้มีการเปิดเพลงหมอลำจังหวะโจ๊ะๆสนุกนานเพื่อเป็นการผ่อนคลายให้ฟังอีกด้วย หลายคนก็เต้นรำไปตามจังหวะเพลงเห็นแล้วมีความสุข เป็นภาพบรรยากาศที่อบอุ่นอย่างยิ่งเฉกเช่นในเมื่อ10ปีที่แล้ววัดสันติวิหารร้อยเอ็ดนำโดยหลวงพ่อพระครูปริยัติวรศาสน์ (พระมหาชำนิ) เจ้าคณะตำบลธงธานี เจ้าอาวาสวัดสันติวิหาร ต.ธงธานี อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ดแห่งนี้เคยนำชาวบ้านธวัชดินแดงและใกล้เคียงจัดงานกวนข้าวทิพย์114กระทะมาแล้ว
นายศักดิ์ดา ว่องสัธนพงษ์ อดีตประธานกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนเมืองร้อยเอ็ด ทายาททางการเมืองของนายสานิต ว่องสัธนพงษ์ อดีตส.ส.จังหวัดร้อยเอ็ด ลูกศิษย์หลวงพ่อพระครูปริยัติวรศาสน์(พระมหาชำนิ) กล่าวว่า การจัดงานกวนข้าวทิพย์ของวัดสันติวิหารร้อยเอ็ดในปีนี้ผู้คนข่อนข้างจะบางตาเพราะอยู่ในช่วงสถานการณ์โรคระบาด(ไวรัสโควิด-19)หลายคนหลายสถานที่ หลายจังหวัดที่ทราบข่าวว่าทางวัดสันติวิหารฯจะจัดกิจกรรมกวนข้าวทิพย์108 กระทะในวันนี้ต่างก็เตรียมตัวที่จะมาร่วมงานร่วมบุญกับวัดสันติวิหารฯเพราะในรอบ10วัดสันติวิหารฯจะจัดกิจกรรมกวนข้าวทิพย์ที่ยิ่งใหญ่108 กระทะครั้งหนึ่งแต่ทะว่าในปีนี้ติดห้วงสถานการณ์โรคระบาดพอดีจึงทำให้หลายอย่างไม่ลงตัวโดยธรรมชาติ นายศักดิ์ดากล่าว
สำหรับพิธีกวนข้าวทิพย์วันออกพรรษาในปีนี้2564 ข้าวทิพย์กวนจะมีส่วนผสมของธัญญาพืชทั้ง 108 ชนิด อาทิ น้ำนมข้าว ถั่วลิสง ,งา,นม,น้ำตาล,น้ำผึ้ง,น้ำอ้อย,เนย และน้ำนมที่คั้นจากรวงข้าว เป็นต้น ลงในกระทะขนาดใหญ่ที่ตั้งไฟบนเตา เพื่อให้เด็กๆพรหมจรรย์ทำพิธีกวนข้าวทิพย์เป็นลำดับแรก ก่อนที่จะมอบให้พุทธศาสนิกชนร่วมกันสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันกวนข้าวทิพย์ บนเตาไฟทั้ง 50 เตา(50กระทะ)ต่อ
หลวงพ่อพระครูปริยัติวรศาสน์ (พระมหาชำนิ) กล่าวว่า พิธีกวนข้าวทิพย์ได้ยึดถือปฏิบัติเป็นประเพณีสืบต่อกันมาเพื่อระลึกถึงสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเหตุการณ์ที่นางสุชาดาได้กวนข้าว ทิพย์ในวันขึ้น 14 ค่ำ แล้วนำไปถวายพระพุทธเจ้าก่อนที่จะตรัสรู้ 1 วัน โดยถือว่ามีผลานิสงฆ์มาก ด้วยเหตุนี้ชาวพุทธจึงพร้อมใจกันกวนข้าวทิพย์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เทิดทูนพระเกียรติคุณ ด้วยความกตัญญูกตเวทิตาธรรม ข้าวทิพย์มธุปายาสนี้เชื่อกันว่า เมื่อทำครบถ้วนตามพิธีแล้ว จะเป็นสิริมงคลแด่ผู้ทำและผู้บริโภค สมควรจะเซ่นสรวงเทพารักษ์ ผู้ที่ได้บริโภคข้าวทิพย์แล้ว จะประสบโชคลาภต่างๆ นานา ปราศจากโรคาพยาธิ ภัยพิบัติ ประสบสิ่งที่เป็นมงคลอีกด้วย
นายชัยวัฒน์ เงิมสันเที๊ยะ ชาวบ้านที่มาร่วมกิจกรรมในวันนี้เผยว่า ตนได้มีโอกาสและวาสนามาร่วมงานกับทางวัดสันติวิหารฯ อยู่บ่อยครั้งและทราบว่าวัดสันติวิหารฯ แห่งนี้ ได้จัดให้มีพิธีกวนข้าวทิพย์ ซึ่งเป็นประเพณีที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ และถือเป็นวัฒนธรรมที่สำคัญ ที่จะกระทำกันแทบทุกวัด ในช่วงวันออกพรรษา แต่ในปัจจุบันคงมีเพียงไม่กี่วัดในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ยังคงมีการสืบสาน เนื่องจากเป็นงานใหญ่ต้องใช้คนและการเตรียมธัญยาพืชอาหารต่างๆมาก แต่ทางวัดสันติวิหารฯยังคงจัดประเพณีกวนข้าวทิพย์เป็นประจำทุกปีอาจจะมีบางปีที่มีเว้นวรรคบ้างตามสถานการณ์และธรรมชาติ
อนึ่งทางวัดยังคงรักษารูปแบบดั้งเดิม เพื่อไม่ให้ประเพณีอันดีงามสูญหายไป โดยการเตรียมส่วนผสมที่ต้องมีถึง 108 ชนิดซึ่งส่วนผสมจะเป็นธัญญาพืชทั้งสิ้น โดยพระในวัดจะร่วมกับพุทธศาสนิกชน ช่วยกันเตรียมส่วนผสมถึง 15 วัน ซึ่งมีการทำพิธีสำคัญก่อนการกวนข้าวทิพย์ คือการใช้ชาย-หญิงพรหมจรรย์ เป็นผู้กวนเป็นกลุ่มแรก หลังจากนั้นประชาชนทั่วไป จึงจะได้รับสิทธิ์ร่วมกวนข้าวทิพย์
ซึ่งโอกาสอันเป็นมงคลยิ่งนี้นอกจากจะมีกิจกรรมกวนข้าวทิพย์เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแล้วยังมีพิธีอฐิษฐานจิตวัตถุมงคล ตำนานพระสังกัจจายน์-ตะกรุดปลากระป๋องห้อยคอสุนัข พระมหาศิลาสิริจันโท วัดสันติวิหารร้อยเอ็ด ในวาระที่ 7 อีกด้วย นับเป็นมงคลยิ่งอีกวาระหนึ่ง - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี