ที่ไหนมีคนที่นั่นมักจะมีเสียง คนนี่แหละเป็นตัวการสำคัญ พระพุทธเจ้าจึงทรงสอนว่าอย่าคลุกคลีกัน อย่าสังคมกัน ถ้าคลุกคลีสังคมกันแล้ว มักจะมีเรื่องให้พูดให้คุย ให้วิพากษ์ให้วิจารณ์ ให้ทะเลาะเบาะแว้งกัน ทำให้จิตใจว้าวุ่นขุ่นมัว
นักภาวนาผู้แสวงหาความสงบของใจ จึงต้องปลีกวิเวก หาที่สงบสงัดอยู่คนเดียว ทำกิจกรรมร่วมกันเท่าที่จำเป็น ขณะที่ทำก็ไม่คุยกัน ให้ดูใจของตนเป็นหลัก ให้มีสติคอยเฝ้าดูใจ ให้ตั้งอยู่ในความสงบ ให้รู้เฉยๆ
ใจมี ๒ ส่วน ส่วนที่เป็นตัวรู้และส่วนที่เป็นตัวคิด ตัวรู้นี้รู้อยู่ตลอดเวลา แต่มักจะถูกตัวคิดบังเอาไว้ ถ้ารู้เฉยๆก็จะไม่มีอารมณ์ ถ้ารู้แล้วคิดปรุงแต่งก็จะมีอารมณ์ มีอารมณ์รักอารมณ์ชัง ดีใจเสียใจ ความคิดนี้เป็นตัวสำคัญ
ถ้าถูกอวิชชา ปัจจยา สังขารา ถูกอวิชชาเป็นผู้ชักนำ ก็จะคิดไปในทางที่จะทำให้เกิดความว้าวุ่นขุ่นมัว ความทุกข์ใจ ผู้ปฏิบัติส่วนมากจะมีอวิชชาเป็นผู้คอยผลักดันให้คิด ให้คิดไปในทางโลก ไปกระทำอะไรต่างๆภายนอกใจ ไปหาความสุขกับรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะ ไปหาคนนั้นไปหาคนนี้ ไปหาสิ่งนั้นหาสิ่งนี้ เพื่อจะได้มีความสุข
แต่เป็นความสุขที่ไม่ใช่เป็นความสุขแท้ เป็นความสุขปลอม เป็นความสุขที่เจือจางหายไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็มีความอยากตามมา อยากจะได้สัมผัสกับความสุขแบบนี้อีก ทำให้ต้องออกไปหาความสุขแบบนี้ไปเรื่อยๆ เป็นความสุขที่ทำให้มีความหิวมีความอยากเพิ่มมากขึ้น ไม่ได้ทำให้มีความอิ่มความพอเพิ่มมากขึ้นเลย
นักปฏิบัติจึงต้องคอยดูใจอยู่เสมอ ดูว่ากำลังคิดไปในทางไหน คิดไปในทางสมุทัยก็คือความอยาก เช่นอยากในรูปเสียงกลิ่นรส อยากกระทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ ถ้าคิดอย่างนี้ก็ต้องรู้ทันแล้วระงับเสีย ให้คิดไปในทางธรรม คือคิดปล่อยวาง คิดเห็นว่าสิ่งต่างๆ ที่อยู่ภายนอกใจทั้งหมด ไม่ใช่เป็นความสุข แต่เป็นความทุกข์ เพราะไม่เที่ยง
มีมาแล้วก็ต้องมีไปเป็นธรรมดา มีเกิดก็ต้องมีดับเป็นธรรมดา มีเจริญก็ต้องมีเสื่อมเป็นธรรมดา ไม่ใช่ของเรา สิ่งที่เป็นของเราที่แท้จริง ก็คือความสุขภายในใจ ความสุขที่เกิดจากการปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างภายนอกใจ ถ้าปล่อยวางสิ่งภายนอกใจไม่ได้ ก็จะไม่ได้ความสุขที่แท้จริง
ถ้าปล่อยสิ่งต่างๆ ภายนอกได้ ก็จะมีความสงบสุขที่จะอยู่กับใจไปตลอด เป็นความสุขที่ถาวร เป็นความสุขที่แท้จริง ไม่มีวันเสื่อม ไม่มีวันหมดไป ดังนั้นนักปฏิบัตินักภาวนา จำต้องมีสติเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของใจตลอดเวลา
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี วันที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ (เพจ พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต) - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี