วันพุธ ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2565
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
สกู๊ปพิเศษ : คนเมิน‘กฎหมายคุมเหล้า’  ขาย‘กลุ่มต้องห้าม’สร้างปัญหา‘ยุวอาชญากร’

สกู๊ปพิเศษ : คนเมิน‘กฎหมายคุมเหล้า’ ขาย‘กลุ่มต้องห้าม’สร้างปัญหา‘ยุวอาชญากร’

วันอาทิตย์ ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.
สกู๊ปพิเศษ
  •  

เป็นเรื่องน่ากังวลเมื่อพบว่ามีเด็ก เยาวชนไทยเข้าสู่วังวน“คนขี้เมา” จำนวนมาก แถมแนวโน้มอายุน้อยลงเรื่อยๆ ทั้งๆที่ทุกฝ่ายต่างก็ทราบกันดีว่า “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์” นั้นเป็นต้นเหตุของปัญหาความรุนแรงทุกรูปแบบ ทั้งกับผู้อื่น หรือแม้กระทั่งความรุนแรงต่อตัวเอง หลายต่อหลายคนต้องกลายมาเป็น“ยุวอาชญากร”

แม้ว่า“พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปี 2551” เขียนเอาไว้ชัดเจนว่าห้ามขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี และห้ามขายให้กับคนเมาครองสติไม่ได้ แต่ล่าสุด ทางสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่เยาวชนผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครือข่ายได้ออกมาแฉตัวเลขว่ามีผู้ประกอบการผับ บาร์ ร้านค้าปลีกมากกว่า 99% เหล้า-เบียร์ให้กลุ่มคนต้องห้ามตามกฎหมายดังกล่าวกันอย่างไม่เกรงกลัว


เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผศ.ดร.นพ.อุดมศักดิ์ แซ่โง้ว ผอ.สถาบันวิจัยวิทยาการสุขภาพ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และนักวิจัยศูนย์วิจัยปัญหาสุรา ระบุว่า กฎหมายของไทยค่อนข้างที่จะครอบคลุมตามประเด็นที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ ทั้งเรื่องการควบคุมการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งการจำกัดเวลาซื้อ ขาย การจำกัดอายุ เป็นต้น

แต่นั่นเป็นเพียงตัวอักษรเท่านั้น เพราะปัญหาจริงๆ ของเมืองไทยอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมายมากกว่า !

ส่วนเรื่องภาษี เรื่องราคาซึ่งจะอยู่กับกระทรวงการคลัง ซึ่งเวลาตัดสินใจขึ้น หรือไม่ขึ้นภาษีนั้นจะไปมองเรื่องการหารายได้เข้ารัฐมากกว่าที่จะมองเรื่องสุขภาพ และมาตรการที่ต่างประเทศทำแต่ที่ประเทศเราไม่มีนั้นคือการกำหนดราคาขั้นต่ำของแอลกอฮอล์ตามหน่วยของแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ที่อยู่ในเครื่องดื่ม

ขณะที่เรื่องการออกใบอนุญาตจำหน่ายสุรา จะเห็นว่ากฎหมายไทยก็มีความแตกต่างจากกฎหมายของต่างประเทศค่อนข้างมาก โดยในต่างประเทศจะค่อนข้างชัดว่ามีการแบ่งร้านค้าปลีกกับร้านนั่งดื่มออกจากกัน แต่ประเทศไทยไม่ได้แบ่งเช่นนี้ แต่แบ่งตามปริมาณแอลกอฮอล์ ซึ่งจริงๆ ระดับความเสี่ยงและการจัดการกับร้าน 2 ประเภทนี้จะแตกต่างกัน ไม่ได้แบ่งตามปริมาณการจำหน่าย ทำให้เกิดการลักลั่น เช่น หากเป็นร้านนั่งดื่มสามารถอบรมให้พนักงานห้ามเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้คนเมาได้ รวมถึงการตรวจบัตรต่างๆ ในกฎหมายก็เขียนชัดว่าห้ามเสิร์ฟคนเมาที่ครองสติไม่ได้ แต่ในทางปฏิบัติกลับไม่มีกลไกบังคับใช้ ส่วนหนึ่งมาจากระบบการไม่มีใบอนุญาตอย่างที่ต่างประเทศใช้

ส่วนเรื่องเมาแล้วขับในไทยมีการสุ่มตรวจน้อยมากเมื่อเทียบกับต่างประเทศ และส่วนใหญ่กระจุกตัวในเมืองใหญ่ ส่วนต่างจังหวัดแทบไม่มีการตรวจเลย ดังนั้น ตนมองว่ากฎหมายที่มีครอบคลุมอยู่แล้ว เอาว่าเท่าที่มีอยู่ขอให้มีการบังคับใช้อย่างเต็มที่ก่อนดีกว่า

ด้าน นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงาน เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน (ขสย.)ก็ได้เปิดเผยว่า ข้อมูลจากศูนย์วิจัยปัญหาสุรา เมื่อปี 2560 พบว่าประเทศไทยมีผู้บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คิดเป็นร้อยละ 28.40 ลดลงจากปี 2557 ที่มีผู้ดื่ม 32.29% ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมีกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในภาพรวมมีทิศทางที่ดีขึ้น จำนวนผู้ดื่มลดลง แต่กลุ่มที่ยังน่าเป็นห่วงคือกลุ่มเด็กและเยาวชนที่มีอายุระหว่าง 15-24 ปี ที่ยังพบว่ามีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มากถึง 2,282,523 คน คิดเป็นร้อยละ 23.91 หรือ 1 ใน 4 ของเยาวชนทั้งหมด

ในแง่กฎหมายเจ้าหน้าที่ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้นต่อกรณีการขายเหล้าให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีหากมีการปรับปรุงกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องแก้เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น ควบคุมการโฆษณาแฝง ควบคุมกิจกรรมการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของธุรกิจสุรา กรณีที่มีความพยายามที่จะแก้กฎหมายให้สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถาบันอุดมศึกษาได้ การเพิ่มโอกาสให้มีการดื่มในโรงเรียนได้ การยกเลิกเวลาห้ามขายที่จะส่งผลให้ขายได้ตลอด 24 ชม. จะเป็นปัญหาอย่างยิ่งต่อสังคมไทยโดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน

ขณะที่ นายโยธิน ทองพะวา ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ระบุว่า เรื่องการคุ้มครองเด็กไม่ใช่แค่ช่วยเด็กที่ถูกทำร้ายเท่านั้น แต่รวมถึงเรื่องการสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเด็ก สภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นอันตราย ห่างจากอบายมุขจนทำให้เด็กเกิดความคุ้นชิน เช่น การใช้เด็กซื้อเหล้า บุหรี่ ซึ่งจะนำมาสู่พฤติกรรมอยากลอง เข้าสู่การเป็นนักดื่มหน้าใหม่ รวมถึงกรณีการที่อยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่อันตรายอาจจะทำให้เด็กโดนลูกหลงจากความรุนแรงในวงเหล้าด้วย

“การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีนั้นเป็นมาตรฐานการเลี้ยงดูขั้นต่ำตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก แต่ที่ผ่านมาหลายคนอาจจะไม่ทราบ หรือยังไม่ตระหนัก เพราะยังพบปัญหาร้านค้าขายเหล้าให้เด็กอยู่ดังนั้นจึงต้องประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ข้อกฎหมายนี้”

สำหรับปีใหม่ที่จะถึงนี้ต้องอิงกับปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน เพราะในการระบาดหลายระลอกที่ผ่านมาจะเห็นว่าจุดเริ่มต้นของคลัสเตอร์ต่างๆ มาจากวงเหล้าในสถานบันเทิง เมื่อเกิดการระบาดแล้วต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะกลับมาเปิดประเทศได้สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจ สังคม ชีวิตจำนวนมาก

ผศ.ดร.นพ.อุดมศักดิ์ แซ่โง้ว

วันนี้เราเริ่มเปิดประเทศกันแล้ว ดังนั้นในช่วงปีใหม่ ก็ขอให้เฉลิมฉลองกันอย่างรับผิดชอบ เช่น ลดการรวมตัว ฉลองบ้านใครบ้านมัน เพื่อจำกัดวงให้เล็กที่สุด และส่วนตัวที่อยากจะเสนอ เกี่ยวกับเรื่องการจัดกิจกรรมต่างๆ ขอให้ผู้จัดจำกัดวงเล็กๆ คนที่พักร่วมกันก็ให้ทำกิจกรรมในกลุ่มเดียวกันตลอด เป็นต้น

ในโอกาสนี้นายเอ (นามสมมุติ) หนึ่งในเยาวชนก้าวพลาดที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นตัวจุดชนวนปัญหา เล่าประสบการณ์ชีวิตเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนรุ่นใหม่ฟัง โดยเอ่ยก่อนเลย ว่า “ถ้ามองย้อนกลับไปถ้าไม่ใช่เพราะเหล้าคงไม่มีใครกล้าทำอะไรรุนแรงแบบนี้ แต่มันเป็นตราบาปติดอยู่ในใจมาตลอดว่าเราเกือบจะฆ่าลูก หรือพ่อ หรือสามีของครอบครัวใด ครอบครัวหนึ่งไปเสียแล้ว สิ่งที่ผมสามารถทำได้เพื่อเป็นการเยียวยาสิ่งที่ติดอยู่ในใจได้คือ การได้ออกมาบอกเล่าประสบการณ์ก้าวพลาดนี้ให้กับคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะวัยรุ่น ต่อให้ต้องพูดล้านครั้ง ให้ล้านคนฟัง แต่มีเพียงแค่คนเดียวที่เข้าใจผมผมก็ถือว่าดีมากแล้ว ไม่อยากให้ใครก้าวพลาดแบบผม”

นายเอ เล่าว่า ตนอาศัยในบ้าน ในชุมชนที่มีความใกล้ชิดกัน ช่วยรุ่นพี่ ผู้ใหญ่ซื้อเหล้า บุหรี่ในหมู่บ้านเป็นประจำเลยมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ปกติมาก จากนั้นเมื่อเข้าเรียนในระดับอาชีวศึกษาถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตเพราะใช้เหล้าและความรุนแรงเพื่อสร้างการยอมรับจากเพื่อนๆ โดยไปมีเรื่องกับคู่อริต่างๆ ไม่เรียนหนังสือจนติดศูนย์ทุกวิชา ต้องดร็อปเรียนกันทั้งกลุ่มรวมถึงพี่ชายฝาแฝดของตนด้วย ทั้งนี้หลังดร็อปเรียนยังไม่สำนึก มีอีโก้ไม่ทำงานแต่ใช้ความรุนแรงไปปล้นคนอื่นเพื่อเอาเงินมาซื้อเหล้ายาเลี้ยงตัวเองและเพื่อนๆ

จนเมื่ออายุ 17 ปี ตนและเพื่อนๆ ไปร่วมงานปาร์ตี้แล้วเจอคู่อริที่ร้านข้าวต้ม ตนยิงคู่อริแล้วกลับไปบอกเพื่อนๆ จากนั้นก็พากันยกพวกมาหวังจะทำร้ายซ้ำที่โรงพยาบาล แต่ระหว่างนั้นทหารนายหนึ่งขับรถเบียดตนก็ได้ยิงทหารนายนั้นอีก และในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุยิงที่ร้านข้าวต้มจึงเข้ามาจับกุมเพื่อน ตนเห็นจึงได้เข้าไปช่วยและมีการยิงต่อสู้กันตนหนีได้ แต่หลังจากนั้น 7 วันก็เข้ามอบตัว

โดยสรุปมีผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมด 6 คน โดยมี 5 คน เป็นเยาวชน ส่วนตนต้องเข้าไปอยู่ที่บ้านกรุณา ซึ่งมีสภาพหดหู่มาก เพราะรวมเอาเด็กที่ก่อคดีรุนแรงเข้ามาอยู่ร่วมกัน ในนั้นไม่มีใครถามไถ่ว่าจะเรียนต่ออะไร จะไปทำอะไร การจะอยู่ที่นั่นให้รอดจึงต้องใช้ความรุนแรง ความเป็นมนุษย์ถอยห่างออกไปทุกวัน

แต่เนื่องจากกระทรวงยุติธรรมยังมีกิจกรรมให้ทำทั้งกีฬา ดนตรี ซึ่งตนก็เป็นตัวแทนนักกีฬากับพี่ ทำให้พอออกมาเห็นโลกภายนอกก็รู้สึกดีมากแม้เป็นเพียงอิสรภาพเพียงชั่วคราว จึงเริ่มหาข้อมูลบ้านกาญจนา ตอนบอกพ่อ-แม่ที่มาเยี่ยมตลอด 9 เดือน เป็นครั้งแรกที่ท่านยิ้มอย่างมีความสุขจริงๆ ไม่ใช่การฝืนเหมือนที่ผ่านมา ทั้งนี้พอมาอยู่ยังไม่ได้เชื่อมั่นว่าจะมีใครต้อนรับหรือขัดเกลา แต่ตอนเจอ“ป้ามล” ผูกแขนต้อนรับและบอกกับเราว่าไม่เป็นอะไร มาเริ่มต้นกันใหม่ทำให้รู้สึกตื้นตันใจ แต่ก็ใช้เวลากว่า 3 เดือน ถึงเปิดใจยอมรับ โดยที่นี่ให้อิสระต่างจากที่เดิมหมดเลย

วันนี้ นายเอพ้นโทษออกมาแล้ว พร้อมทุ่มเทแรงกาย แรงใจ เพื่อสกัดปัญหา “ยุวอาชญากร” ไม่ให้ใครต้องเป็นเหยื่อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แล้วต้องใปจบชีวิตในคุกอีกต่อไป

ธีรภัทร์ คหะวงศ์
ธีรภัทร์ คหะวงศ์
โยธิน ทองพะวา
โยธิน ทองพะวา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สกู๊ปพิเศษ : ตัวเลขลงทุนวิจัยไทยเติบโตต่อเนื่องแม้เผชิญโควิด-19  ปี’64ทะลุ2แสนล้าน-ตั้งเป้าร้อยละ2ต่อจีดีพีในปี’70 สกู๊ปพิเศษ : ตัวเลขลงทุนวิจัยไทยเติบโตต่อเนื่องแม้เผชิญโควิด-19 ปี’64ทะลุ2แสนล้าน-ตั้งเป้าร้อยละ2ต่อจีดีพีในปี’70
  • สกู๊ปพิเศษ : สคล.หนุนจัดงานปลอดเหล้า-ปลอดพนัน  ชูแก่นแท้ ‘บุญบั้งไฟ’ เสริมสามัคคีชาวอีสาน สกู๊ปพิเศษ : สคล.หนุนจัดงานปลอดเหล้า-ปลอดพนัน ชูแก่นแท้ ‘บุญบั้งไฟ’ เสริมสามัคคีชาวอีสาน
  • สกู๊ปพิเศษ : HI PETE เต็นท์ความดันลบสำหรับแยกผู้ป่วย  ผลงานนักวิจัยไทยช่วยบุคลากรทางการแพทย์รับมือโควิด สกู๊ปพิเศษ : HI PETE เต็นท์ความดันลบสำหรับแยกผู้ป่วย ผลงานนักวิจัยไทยช่วยบุคลากรทางการแพทย์รับมือโควิด
  • สกู๊ปพิเศษ : วช. ผนึก พม.-มช. ผลักดันพลังต่างวัย  สูงวัยสร้างชาติ ‘เกษียณมีดี’ ก้าวสู่ยุคดิจิทัล สกู๊ปพิเศษ : วช. ผนึก พม.-มช. ผลักดันพลังต่างวัย สูงวัยสร้างชาติ ‘เกษียณมีดี’ ก้าวสู่ยุคดิจิทัล
  • สกู๊ปพิเศษ : โครงการ ‘TAIST-Tokyo Tech’  ความร่วมมือเพื่อพัฒนาบุคลากรวิจัยและวิศวกรรมทักษะสูง สกู๊ปพิเศษ : โครงการ ‘TAIST-Tokyo Tech’ ความร่วมมือเพื่อพัฒนาบุคลากรวิจัยและวิศวกรรมทักษะสูง
  • สกู๊ปพิเศษ : สทน.จัดใหญ่ครบรอบ16ปี‘วันดีดีกับเทคโนโลยีนิวเคลียร์’  ชูผลงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ สกู๊ปพิเศษ : สทน.จัดใหญ่ครบรอบ16ปี‘วันดีดีกับเทคโนโลยีนิวเคลียร์’ ชูผลงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
  •  
  • Breaking News
  • \'เมย์\'เครียดพฤติกรรมวี๊ดของ\'น้องมายู\' รับพึ่งทั้งวิทยาศาสตร์-ไสยศาสตร์ 'เมย์'เครียดพฤติกรรมวี๊ดของ'น้องมายู' รับพึ่งทั้งวิทยาศาสตร์-ไสยศาสตร์
  • \'บังแจ๊ค\'ยอมรับโพสต์ภาพแตงโม อ้าง\'แม๊\'อนุญาตแล้ว คาดข้อมูลในมือถือมีกว่า 5 หมื่นภาพ 'บังแจ๊ค'ยอมรับโพสต์ภาพแตงโม อ้าง'แม๊'อนุญาตแล้ว คาดข้อมูลในมือถือมีกว่า 5 หมื่นภาพ
  • ปลัดมท.จับเข่าคุยทูต EU วางแนวทางดูแลผู้หนีภัยการสู้รบจากพม่า ปลัดมท.จับเข่าคุยทูต EU วางแนวทางดูแลผู้หนีภัยการสู้รบจากพม่า
  • นัดแรกราบรื่น! สภาฯ ผ่านฉลุยร่างกฎหมาย 2 ฉบับ นัดแรกราบรื่น! สภาฯ ผ่านฉลุยร่างกฎหมาย 2 ฉบับ
  • เปิดประชุมสภาฯนัดแรกราบรื่น โหวตผ่านร่างกฏหมาย 2 ฉบับฉลุย เปิดประชุมสภาฯนัดแรกราบรื่น โหวตผ่านร่างกฏหมาย 2 ฉบับฉลุย
ดูทั้งหมด
  • Breaking News
  • \'เมย์\'เครียดพฤติกรรมวี๊ดของ\'น้องมายู\' รับพึ่งทั้งวิทยาศาสตร์-ไสยศาสตร์ 'เมย์'เครียดพฤติกรรมวี๊ดของ'น้องมายู' รับพึ่งทั้งวิทยาศาสตร์-ไสยศาสตร์
  • \'บังแจ๊ค\'ยอมรับโพสต์ภาพแตงโม อ้าง\'แม๊\'อนุญาตแล้ว คาดข้อมูลในมือถือมีกว่า 5 หมื่นภาพ 'บังแจ๊ค'ยอมรับโพสต์ภาพแตงโม อ้าง'แม๊'อนุญาตแล้ว คาดข้อมูลในมือถือมีกว่า 5 หมื่นภาพ
  • ปลัดมท.จับเข่าคุยทูต EU วางแนวทางดูแลผู้หนีภัยการสู้รบจากพม่า ปลัดมท.จับเข่าคุยทูต EU วางแนวทางดูแลผู้หนีภัยการสู้รบจากพม่า
  • นัดแรกราบรื่น! สภาฯ ผ่านฉลุยร่างกฎหมาย 2 ฉบับ นัดแรกราบรื่น! สภาฯ ผ่านฉลุยร่างกฎหมาย 2 ฉบับ
  • เปิดประชุมสภาฯนัดแรกราบรื่น โหวตผ่านร่างกฏหมาย 2 ฉบับฉลุย เปิดประชุมสภาฯนัดแรกราบรื่น โหวตผ่านร่างกฏหมาย 2 ฉบับฉลุย
ดูทั้งหมด
?>

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'เมย์'เครียดพฤติกรรมวี๊ดของ'น้องมายู' รับพึ่งทั้งวิทยาศาสตร์-ไสยศาสตร์

แสบถึงกึ๋น! 'ทิพานัน'ยกเรื่องความซื่อสัตย์'คังคุไบ'ตบหน้า'ทักษิณ'

อาคาร10ชั้นถล่มใน'อิหร่าน'ดับ 10 ศพ คาดติดใต้ซากอีกนับสิบ

สาวท้อง 9 เดือน กระโดดสระน้ำตายทั้งกลม คาดเครียดเรื่องงาน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายประพันธ์ สุขทะใจ ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved