‘กสม.’จี้เอาจริงลดเจ็บ-ตายบนถนน ห่วง‘ไรเดอร์’อาชีพเสี่ยงเหตุสภาพการจ้างงานกดดันให้ซิ่ง
27 ม.ค. 2565 ในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนกรณีแพทย์หญิงถูกรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ขับชนระหว่างข้ามทางม้าลายและเสียชีวิตในเวลาต่อมา จนปรากฏเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนนั้น กสม. มีความห่วงกังวลอย่างยิ่งต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนผู้ใช้ทางสาธารณะ
เนื่องจากสิทธิในชีวิตถือเป็นสิทธิมนุษยชนที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ทุกคน และได้รับการรับรองไว้ในกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) รวมทั้งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 28 โดยรัฐมีหน้าที่ต้องปกป้อง คุ้มครอง และส่งเสริมให้ประชาชนมีและได้รับประโยชน์จากสิทธินี้ และใช้มาตรการต่างๆ เพื่อประกันว่าสิทธิในชีวิตของบุคคลจะได้รับการคุ้มครองดูแลอย่างดีที่สุด และบุคคลไม่ควรเสียชีวิตจากเหตุอันไม่สมควรโดยเฉพาะเหตุที่สามารถป้องกันได้
ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนซึ่งกระทบต่อสิทธิที่จะมีชีวิตได้อย่างปลอดภัยบนท้องถนนเป็นเรื่องที่ กสม. ให้ความสำคัญ และ กสม. (ชุดที่ 2) เคยมีข้อเสนอแนะไปยังคณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อปี 2558 โดยมีข้อค้นพบว่า การบังคับใช้กฎหมายจราจรยังไม่เข้มงวดและการควบคุมมาตรฐานด้านความปลอดภัยของยานพาหนะประเภทต่าง ๆ ยังไม่เพียงพอ พร้อมมีข้อเสนอแนะ เช่น รัฐควรให้ความสำคัญกับการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในระดับนโยบายอย่างจริงจังเทียบเท่านโยบายด้านการเสียชีวิตจากอาชญากรรมและยาเสพติด ดูแลให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเคารพกฎหมายและกฎระเบียบเพื่อความปลอดภัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายที่เกี่ยวกับการจำกัดความเร็ว และควรมีมาตรการที่ประกันว่าถนนที่มีอยู่แล้วและถนนที่จะสร้างขึ้นใหม่จะเป็นถนนที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย เป็นต้น
“อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยในฐานะรัฐภาคีของกติกา ICCPR ยังมีภารกิจสำคัญที่จะต้องดำเนินการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อคุ้มครองสิทธิในชีวิตของประชาชน ด้วยการออกมาตรการทางกฎหมายหรือมาตรการอื่น ๆ ที่เข้มงวดและบังคับใช้ได้จริงเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่จะทำให้บุคคลสามารถดำรงชีวิตและสัญจรได้อย่างปลอดภัยมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ขณะที่สังคมโดยประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนจะต้องเคารพกฎจราจรเพื่อเคารพสิทธิของผู้อื่นอย่างเคร่งครัดด้วย” นายวสันต์ กล่าว
นายวสันต์ กล่าวต่อไปว่า กสม. จะติดตามสถานการณ์ปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และจะระดมความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อให้ประชาชนได้ใช้สิทธิในการเดินทางบนเส้นทางสาธารณะได้อย่างปลอดภัยและได้รับการคุ้มครองสิทธิและความปลอดภัยในชีวิตจากอุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถป้องกันได้และไม่ควรเกิดขึ้น
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ต้นตอของการใช้ความเร็วหรือการขับขี่ยานพาหนะแบบเสี่ยงอันตรายมาจากความเร่งรีบในการปฏิบัติหน้าที่ของตนเองจนลืมนึกถึงความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกันหรือไม่ เนื่องจากคดีนี้ผู้ต้องหาซึ่งเป็นตำรวจอ้างว่าไปรับเอกสารที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ก่อนมุ่งหน้าไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแล้วเกิดเหตุจนมีผู้เสียชีวิต ซึ่งในความเป็นจริงยังมีอาชีพที่มีสภาพการทำงานที่กดดันให้ต้องเร่งรีบดังกล่าว เช่น พนักงานส่งเอกสารของบริษัทห้างร้านต่างๆ หรือแมสเซ็นเจอร์ รวมถึงผู้รับงานส่งอาหารผ่านแอปพลิเคชั่น หรือไรเดอร์
ประเด็นนี้ตนเห็นว่า อุบัติเหตุบนท้องถนนปัญหาหลักอย่างหนึ่งคือการใช้ความเร็วรถ ซึ่งทั้งผู้ขับขี่เองและผู้มีหน้าที่รักษากฎหมายต้องช่วยกันดูแลไม่ให้ขับขี่ด้วยความเร็วเกินไปจนก่อให้เกิดอันตราย โดยกรณีนี้เป็นภาพสะท้อนว่ามีการใช้ความเร็วสูงจนก่อให้เกิดอุบัติเหตุเป็นข่าวสะเทือนใจ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันจะเห็นรถรับ-ส่งเอกสารหรือสิ่งของต่างๆ ที่ขับขี่ในลักษณะใช้ความเร็วสูงหรือไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าเป็นห่วง
“เรื่องการจำกัดความเร็วรถกับเรื่องวินัยจราจรเป็นเรื่องสำคัญ เพราะว่าไม่อย่างนั้นจะไปกระทบสิทธิ์ของผู้อื่น คือทุกคนที่ใช้รถใช้ถนนควรจะมีความปลอดภัยในชีวิต เพราะว่าสิทธิในชีวิตเป็นเรื่องสำคัญมาก เราคงไม่อยากเห็นประเภทที่ว่าเดินข้ามถนนแม้กระทั่งทางม้าลายก็ยังถูกชนตาย หรืออยู่บนฟุตปาธบางทีรถก็ยังข้ามมาชน คือลักษณะแบบนี้เป็นปัญหาสำคัญ เมืองไทยมีปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก” นายวสันต์ ระบุ
นายวสันต์ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีข้อสังเกตที่ว่าผู้รับ-ส่งสินค้าที่รับงานผ่านแอปพลิเคชั่น ที่พนักงานไม่มีสถานะเป็นลูกจ้างตามกฎหมายแรงงาน บริษัทผู้ให้บริการควรร่วมรับผิดชอบอะไรบ้างหรือไม่นั้น ด้านหนึ่งผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนควรเคารพกฎจราจร พฤติกรรมเสี่ยง เช่น ขับขี่ย้อนศร ขับขี่บนทางเท้า อาจก่อให้เกิดอันตรายได้จึงต้องระมัดระวัง ส่วนสภาพการจ้างงานที่อาจจะทำให้ผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ต้องเร่งรีบหรือขับขี่ในลักษณะเสี่ยงอันตรายทั้งตัวผู้ขับขี่เองและผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ก็เป็นเรื่องที่ควรแก้ไขในลักษณะของการจ้างงานหรือกฎในเรื่องของธุรกิจ
ด้าน น.ส.ปิติกาญจน์ สิทธิเดช กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า เรื่องของไรเดอร์นั้นเป็นประเด็นของการจ้างงานที่ดูเหมือนจะไม่เป็นธรรม เพราะเป็นแรงงานนอกระบบ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมายังไม่มีการร้องเรียนเข้ามายัง กสม. จนนำไปสู่การศึกษาและมีข้อเสนอแนะไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นรูปธรรม แต่โดยส่วนตัวก็พอทราบมาบ้างว่าไรเดอร์เป็นอาชีพเสี่ยงภัยแต่ไม่มีหลักประกันอะไรเลย จึงแนะนำว่าสื่อมวลชนน่าจะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นประเด็นนำเสนอ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี