อดีตครูบำนาญหลั่งน้ำตาร้อง‘สมศักดิ์’ โดนยึดทรัพย์เหตุ‘ค้ำ’เพื่อนครูเบี้ยวหนี้
10 มิถุนายน 2565 ที่ศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติ (มณฑาทิพย์ ฮอลล์) จ.อุดรธานี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) เป็นประธานงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สิน หนี้ครัวเรือน และยุติธรรมพบประชาชน มีหน่วยงานภาคี อาทิ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) สถาบันการเงิน และประชาชน เข้าร่วม
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การไกล่เกลี่ยในงานดังกล่าว ในส่วนของลูกหนี้ แบ่งเป็น ลูกหนี้ก่อนฟ้อง จำนวน 8,162 ราย ทุนทรัพย์ 532,477,784 บาท ลูกหนี้หลังศาลพิพากษา 3,016 ราย ทุนทรัพย์ 2,342,268,974.02 บาท รวมลูกหนี้ที่เชิญเข้าร่วมงานทั้งสิ้น 11,178 ราย ทุนทรัพย์ทั้งสิ้น 2,874,746,758.02 บาท นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการมอบเงินเยียวยาแก่ผู้เสียหายในคดีอาญา 11 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 838,800 บาท การมอบป้ายศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน 20 ศูนย์ มอบบัตรประจำตัวประชาชนตามนโยบายยุติธรรมสร้างสุข ช่วยเหลือคนไร้รัฐ ไร้สัญชาติ 5 ราย รวมถึงการจัดบูธกิจกรรมให้บริการต่างๆของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ตลอดจนหน่วยงานภาคีเครือข่าย พร้อมให้ความรู้และบริการแก่ผู้ร่วมงานด้วย
ขณะเดียวกันได้มีอดีตข้าราชการครูบำนาญ อายุ 65 ปี และภรรยา อายุ 60 ปี ข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข ได้ยื่นหนังสือต่อนายสมศักดิ์ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมและช่วยเหลือในกรณีถูกศาลสั่งยึดทรัพย์ที่ดินและบ้าน ราคา 3,578,700 บาท
อดีตข้าราชการครูบำนาญ กล่าวว่า ตนเป็นคนค้ำประกันครูด้วยกัน มีคนกู้ 1 คน และคนค้ำ 3 คน รวม 4 คน โดยครูผู้กู้ได้กู้เงินจากธนาคาร พอถึงเวลาไม่ชำระหนี้ ทางธนาคารได้ฟ้องคนค้ำแค่ตนเพียงคนเดียว รวมเป็นเงินพร้อมดอกเบี้ย 2,961,664.97 บาท โดยที่คนค้ำอีก 2 คนธนาคารไม่ฟ้อง อ้างว่าคนค้ำ 2 คนไม่มีทรัพย์ที่จะฟ้องยึดได้ จึงมาดำเนินการยึดทรัพย์ของตนเองเพียงคนเดียว
“นอกจากนี้ธนาคาร แจ้งว่า ให้ตนเองไปสืบทรัพย์และไปฟ้องกับเพื่อนครู 2 คนเอง ใครจะมีปัญญา ขนาดตัวผมเองยังไม่รอดเลย วันนี้ผมถือหนังสือมาเพื่อขอไกล่เกลี่ยอยากชำระหนี้ 1 ใน 4 ของหนี้ที่คนกู้ไม่จ่าย คือ ประมาณ 1 ล้านบาท แต่ทางธนาคารแจ้งว่าทางส่วนกลางไม่อนุมัติ ให้กลับบ้านเลย ถือเป็นการยึดทรัพย์ที่หนักที่สุดในชีวิตผมเลย หากโดนยึดไม่มีบ้านจะอยู่แล้ว เพราะตอนนี้ผมก็มีหนี้ส่วนตัวที่กู้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครู , ชพค. และธนาคาร เกือบ 3 ล้านบาท” อดีตข้าราชการครูบำนาญ กล่าวทั้งน้ำตา
ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ได้พูดคุยกับทั้งคู่ และทางเจ้าหน้าที่ธนาคาร เบื้องต้นทราบว่าได้ค้ำประกันเงินกู้ให้กับเพื่อนครู และมีคนค้ำด้วยกันอีก 2 คน แต่คนกู้ผิดนัดชำระหนี้และคนค้ำอีก 2 คนหนีหาย และไม่มีทรัพย์สินจะชำระหนี้ได้ ทางธนาคารจึงได้ยึดทรัพย์สินบ้านและที่ดินของอดีตครูรายนี้ที่บ้านเก่าน้อย โดยเคสนี้เป็นหนี้ธนาคารเงินต้นและดอกเบี้ย ราคา 3,562,038.23 บาท ทางธนาคารลดให้ 1,562,028,23 บาท ทางอดีตครูผู้ค้ำต้องจ่าย 2,000,000 บาท แทนคนกู้ และคนค้ำคนอื่น แต่เจ้าตัวยืนยันว่าไม่มีเงินจ่ายคนเดียวถึง 2 ล้านบาท
นายสมศักดิ์ จึงได้ไกล่เกลี่ยให้ โดยมีเจ้าหน้าที่ธนาคารร่วมเป็นสักขีพยาน ให้อดีตครูจ่ายหนี้จำนวน 1,000,000 บาท พร้อมกับเขียนลายเซ็นกำกับเอาไว้โดยนายสมศักดิ์ จากนั้นทางธนาคารจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมบอร์ดใหญ่อีกครั้ง ท่ามกลางเสียงเฮลั่นห้องไกล่เกลี่ยและ 2 สามีภรรยาที่น้ำตาไหลออกมาทันที
อดีตครู และภรรยา เปิดเผยความรู้สึกว่า ภายหลังจากวันนี้ได้เข้าไปไกลเกลี่ยขอชำระหนี้ในฐานะคนค้ำ ตอนแรกตนต้องจ่ายคนเดียว แต่วันนี้รู้สึกดีใจมากที่ท่านรัฐมนตรีฯสมศักดิ์ช่วยไกล่เกลี่ยหนี้ให้ ตนจะรีบหาเงินมาชำระหนี้ 1 ล้านบาท คงต้องกู้ยืมญาติพี่น้อง จะให้ใช้หนี้มากกว่านั้นคงไม่มีแล้ว ลำพังเงินบำนาญของตนเองหักหนี้เงินกู้ที่ยังมีอยู่ของตัวเอง เดือนหนึ่งเหลือเอาไว้พอใช้จ่ายประจำวัน ดีใจอย่างมาก ขอบคุณท่านรัฐมนตรีฯสมศักดิ์ ตนยังมีหวัง ความยุติธรรมยังมีอยู่
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี