พระธรรมเทศนาโดยหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ณ วัดป่าอุดมสมพร เมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๑๘ "มนุษย์ทั้งหลายมี ๗ จำพวก มนุษย์มี ๗ อย่าง"
มนุสสติรัจฉาโน ทำไมจึงว่ามนุสสติรัจฉาโนดูซิ ร่างกายเป็นมนุษย์ หัวใจเป็นสัตว์เดรัจฉานคือมันขี้เกียจขี้คร้าน รับอาหารแล้วก็นอนไม่รู้จักการกราบ ไม่รู้จักการไหว้ ไม่รู้จักการรักษาศีลภาวนาทำบุญให้ทานอะไร เหมือนกับสัตว์เดรัจฉานน่ะมนุษย์เช่นนั้นแหละตายไปก็ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานดูเอาซิ พิจารณาเอาซี ร่างกายเป็นมนุษย์แต่หัวใจเป็นสัตว์เดรัจฉาน
มนุสสเปโต ร่างกายเป็นมนุษย์ แต่หัวใจเป็นเปรตมันมีแต่โมโหโทโส อยากฆ่า อยากฟันความทะเยอทะยานดิ้นรน มีพยาบาทอาฆาตจองเวรดูซิ ใจมันมีอาฆาต นี่แหละมนุสสเปโตร่างกายเป็นมนุษย์ เมื่อดับขันธ์ไปแล้วก็ไปเป็นเปรต
มนุสสนิรเย ร่างกายเป็นมนุษย์ หัวใจเป็นนรกหัวใจเป็นนรก คือมันมืด มันกลุ้มอกกลุ้มใจ ให้ทุกข์ให้ร้อนดูเอาซิ นั่นแหละนรก ดับขันธ์ไปแล้วก็ไปนรกซี่ได้รับความทุกข์ยากความลำบากรำคาญ นี่มนุษย์เช่นนี้ทีนี้ถ้าไม่ไปเป็นอย่างนั้น เกิดเป็นมนุษย์ก็เป็นมนุษย์ที่ต่ำช้าหัวใจต่ำช้า อย่างอธิบายมาแล้ว ต่ำช้ายังไงล่ะเป็นใบ้บ้าเสียจริต หูหนวกตาบอด ปากกืด กระจอกงอกง่อยขี้ทูดกุฏฐัง ตกระกำลำบาก แน่ะ มนุษย์หัวใจเป็นยังงั้นถ้าเกิดเป็นมนุษย์อีกก็เป็นมนุษย์ที่ต่ำช้าดูซิ ใจเราทุกคน ไม่ว่าพระว่าเณร ไม่ว่าผู้หญิงผู้ชายเอ้าดู อธิบายให้ฟัง ถ้ามันเป็นอย่างนั้นเราไม่ต้องการก็เลิกก็ละเสียให้รู้จักดีรู้จักชั่ว รู้จักผิดรู้จักถูก รู้จักฟัง อธิบายให้ฟัง
มนุสสเทโว ร่างกายเป็นมนุษย์ หัวใจเป็นเทวธิดา เทวบุตรหัวใจมีทาน มีศีล มีภาวนา รู้จักเคารพนอบน้อม รู้จักกราบรู้จักไหว้ใจมีหิริโอตตัปปะ ละอายบาป กลัวบาป ใจเบิกบาน ใจสว่างไสว ใจดีดับขันธ์ก็ไปเป็นเทวบุตรเทวธิดา เรื่องเป็นอย่างนั้น ดูเอาซิ
มนุสสพรหมา ท้าวมหาพรหม นางมหาพรหม หัวใจเช่นใดมีพรหมวิหาร มีพรหมวิหารธรรมเป็นเครื่องอยู่หัวใจว่างไม่มีอะไร เหมือนกะอากาศนี้แหละ ว่างเปล่าหมดเหลือแต่อรูปจิต ดับขันธ์ไปเป็นพรหม ท้าวมหาพรหม นางมหาพรหมอยากรู้ก็ดูเอาซิ ที่อยู่ของเราเป็นอย่างนี้ มนุษย์ทั้งหลาย
มนุสสอรหัตโต ร่างกายเป็นมนุษย์ หัวใจเป็นพระอรหันต์คือละกิเลส ละตัณหา กิเลสคือใจเศร้าหมองตัณหาคือใจทะเยอทะยานดิ้นรนกระวนกระวายท่านละกิเลสตัณหา ราคะ โลภะ โทสะ โมหะ อวิชชาตัณหาอุปาทาน ภพชาติ ละขาดในสันดาน ไม่มีสิ่งเหล่านี้ในจิตใจเมื่อดับขันธ์ไปก็เข้าสู่นิพพาน ดับทุกข์ในวัฏสงสารไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก ก็เป็นแต่มนุษย์ ได้แต่มนุษย์ซิ
เราจึงมาฝึกหัดอบรมบ่มนิสัยของเรา เพ่งเล็งดูซิเราอย่าดูอื่น เรานั่งอยู่ก็นั่งดูใจของเรา ไม่ได้ดูดินฟ้าอากาศนะใจของเรามันเป็นอย่างไร เหมือนที่อธิบายให้ฟังไหมล่ะมันไม่ดีตรงไหนก็แก้ไขซิ ทีนี้
มนุสสพุทโธ ร่างกายเป็นมนุษย์ หัวใจเป็นพระพุทธเจ้าพระพุทธเจ้าก็เป็นมนุษย์เหมือนกับพวกเรานี้ว่าเรื่องภพเรื่องชาติของท่าน บิดามารดาของท่านก็มีบุตรภรรยาท่านก็มี ท่านเป็นมนุษย์ครือเรานี่แหละแต่ท่านประพฤติปฏิบัติ ตรัสรู้ด้วยพระองค์เองเป็นสยัมภู ตรัสรู้ด้วยพระองค์เองไม่มีบุคคลผู้ใดหรือใครแนะนำพร่ำสอน รู้ด้วยตนเองเป็นสยัมภูรู้แจ้งแทงตลอดหมดซึ่งสารพัดเญยยะธรรมทั้งหลาย ไม่มีที่ปกปิดสัตว์ทั้งหลาย ตนของท่าน บุพเพนิวาสานุสสติญาณญาณความรู้ความเห็นในบุพพชาติเบื้องหลังเป็นอะไรๆ มา ท่านรู้หมด เรื่องมันเป็นอย่างนั้นจุตูปาตญาณ จุติจากนี้ไปอยู่ในภพชาติใด ภพน้อยภพใหญ่ ท่านรู้หมด คือเหมือนอธิบายให้ฟังนี้ อาสวักขยญาณ สิ้นจากภพจากชาติท่านก็รู้หมด
คัดลอกจากหนังสือ ๑๐๘ ปีหลวงปู่ฝั้น อาจาโร (พระธรรมเทศนาโดยหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ณ วัดป่าอุดมสมพร เมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๑๘) - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี