วันอาทิตย์ ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
'หลวงปู่ฝั้น อาจาโร' สอนคนกลัวผีให้ภาวนาจนจิตมีอภิญญา บันทึกโดย 'หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ'

'หลวงปู่ฝั้น อาจาโร' สอนคนกลัวผีให้ภาวนาจนจิตมีอภิญญา บันทึกโดย 'หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ'

วันพฤหัสบดี ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2565, 19.33 น.
Tag : หลวงปู่ฝั้น ภาวนา พุทโธ วัดป่าอุดมสมพร หลวงปู่อ่อน หลวงปู่สุวัจน์
  •  

หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ ได้บันทึกเรื่อง หลวงปู่ฝั้น อาจาโร สอนคนกลัวผีให้ภาวนาจนจิตมีอภิญญาไว้ดังนี้...“สมัยก่อนท่านไปพักภาวนาจำพรรษาอยู่ที่ใด ท่านให้ทำที่พักอาศัยชั่วคราว ไม่สร้างตั้งเป็นวัดเป็นวาอยู่ประจำเหมือนอย่างพระทุกวันนี้ ท่านมิอยู่ติดถิ่นติดฐาน อยากได้เป็นสมภารแย่งวัดแย่งวากัน ท่านทำตัวเหมือนนกที่มีแต่ปีก บินไปจับที่ใดไม่มีรอยเท้า ฉันนั้น

เท่าที่สังเกต พระอาจารย์ฝั้นท่านไปพักอยู่ที่ไหน เมื่อมีคนไปกราบนมัสการ หรือทำบุญให้ทานอย่างไรก็ตาม ปกติท่านต้องเทศน์อบรมสั่งสอนทั้งเด็กเล็ก หนุ่มสาว ปานกลาง คนใหญ่ ผู้เฒ่าผู้แก่ ท่านสอนทุกรายไปไม่เลือก ให้รู้จักคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณมารดาบิดา ครูอาจารย์ ให้หมั่นกราบไหว้พระ ภาวนาระลึกเอาคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ มาเป็นที่พึ่งทางใจของเรา ท่านอธิบายให้ผู้ฟังสำรวมจิตตภาวนา ทำสมาธิไปด้วย จากนั้นท่านก็ให้นึกบริกรรมคำภาวนาว่า พุทโธๆๆๆๆ คำเดียว ทำจิตให้สงบเบาสบาย หายทุกข์ หายยากลำบาก รำคาญไม่ฟุ้งซ่านวุ่นวาย เย็นสบายใจในอกในใจ ทุกคนติดอกติดใจ เกิดมีความเลื่อมใสในองค์ท่าน เคารพฝังแน่นอยู่ในใจจนตลอดชีวิต...


มีตอนหนึ่ง ท่านอาจารย์ฝั้นได้เล่าให้ผู้เขียน (หลวงปู่สุวัจน์) ฟังว่า ท่านได้ออกธุดงค์ไปทางอําเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ได้ไปพักบําเพ็ญภาวนาอยู่ที่ป่าระหว่างบ้านแห่งหนึ่ง เป็นบ้านหนองกอง หรืออะไรนี้แหละ ถ้าผู้เขียนจําไม่ผิด

บริเวณป่าที่พระธุดงค์มาพักภาวนา เดิมเป็นเสนาสนะป่าบ้านหนองกอง ในกาลต่อมาได้สร้างเป็นวัดถาวรในพระพุทธศาสนา คือ วัดป่าบ้านหนองกอง ความสําคัญของวัดแห่งนี้เคยเป็นวัดที่ท่านพระอาจารย์มั่นธุดงค์มาปฏิบัติธรรม เมื่อท่านพระอาจารย์มั่นธุดงค์จากไปที่อื่น ภายหลังมีพระศิษย์ขององค์ท่านได้จาริกมาพักเพื่อบําเพ็ญภาวนา ณ เสนาสนะป่าแห่งนี้เป็นประจํามิได้ขาด ดังเช่น หลวงปู่หล้า ขนฺติโก (วัดป่าบ้านนาเก็น อ.นํ้าโสม จ.อุดรธานี) หลวงปู่ฝั้น อาจาโร เป็นต้น จึงนับเป็นสถานที่มงคลแห่งหนึ่ง ชาวบ้านหนองกองจึงได้พร้อมใจกันพัฒนาให้กลายเป็นวัดขึ้นมา แต่ก็ไม่มีพระอยู่เป็นประจํา จึงได้มาขอพระจากหลวงปู่ขาว อนาลโย ซึ่งท่านได้มอบให้หลวงปู่เพียร วิริโย มาเป็นเจ้าอาวาส

ในบ้านนั้นมีผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งชื่อ นางคำภู เธอมีความเลื่อมใสในพระอาจารย์ฝั้น ได้ออกไปทําบุญและฟังธรรมท่านพรํ่าสอนทุกวัน เธอมีนิสัยเป็นคนกลัวผีหลอกมาก เวลาคํ่าคืนถ้าได้ยินเสียงอะไรผิดแปลก ก็เกิดสะดุ้งหวาดกลัวว่า ผีหลอก พระอาจารย์ท่านพยายามสอนให้เธอนั่งภาวนา เธอไม่กล้านั่งภาวนา โดยคิดว่า “ถ้าเรานั่งแล้วเกิดเห็นผีปรากฏขึ้นมา เดี๋ยวเป็นบ้า เพราะรักษาจิตไม่อยู่” ท่านสอนเท่าไรก็ไม่อยากจะทํา ท่านอาจารย์ก็พยายามสอนทุกวัน อยู่มาวันหนึ่งเธอตัดสินใจนั่งภาวนาทดลองดู

“พระอาจารย์ท่านมีความเมตตา ได้มาอยู่สั่งสอนอนุเคราะห์เรา ท่านสอนชวนให้เราไหว้พระแล้ว นั่งภาวนาทุกวันๆๆ เป็นอะไรก็ให้มันรู้ไป คืนนี้แหละ เราต้องนั่งภาวนาให้ได้” คํ่าคืนนั้นเธอเข้าห้องสวดมนต์ไหว้พระ สวดมนต์แผ่เมตตาตน เมตตาสัตว์ แล้วเริ่มอธิษฐานจิตคิดบริกรรมทําภาวนา ระลึก พุทโธ ธัมโม สังโฆ, พุทโธ ธัมโม สังโฆ, พุทโธ ธัมโม สังโฆ ๓ จบ แล้วให้ระลึกถึง พุทโธๆๆๆ คําเดียว เธอมีความเพียรอดทนนั่งได้นานพอสมควร เวลาออกจากสมาธิแล้ว เธอรู้สึกมีความสบาย เบากายเบาใจ ตั้งแต่วันนั้นมาเธอก็นั่งภาวนาต่อๆ มาทุกวัน

วันหนึ่งเธอนั่งภาวนาไปสักพักหนึ่ง จิตก็เริ่มสงบรวมลงไปสักหน่อย ก็เกิดนิมิตเห็นคนตายนอนอยู่ตรงหน้า นึกกลัว พอเตรียมตัวจะลุกขึ้น ผีก็เลื่อนมานอนทับขาอยู่บนตักไว้ ลุกขึ้นไม่ได้จนใจจะหาวิธีคิดแก้ไขได้ ในทันทีทันใดนั้นเอง ผีก็กลับกลายหายเข้าไปในร่างตัวของเธอเอง เกิดมีความสว่างไสว มองเห็นหัวใจของเธอเองสว่างไสวใสสะอาด เธอสามารถเห็นจิตใครๆ เป็นอย่างไร เธอรู้หมด รู้ถึงใจของสัตว์เดรัจฉาน ตลอดถึงวิญญาณของสัตว์ในกามภูมิ จิตที่เคยมีความกลัวกลับหาย กลายมาเป็นจิตกล้า หาผีตัวไหนที่จะก่อกวนหลอกให้หลงกลัวไม่มีอีกแล้ว เธอมีความสงบสุขสบาย เอิบอิ่มอยู่ด้วยความปีติตลอดคืน

พอรุ่งเช้าวันใหม่ เวลาตอนบ่าย เธอออกไปฟังเทศน์ของพระอาจารย์เช่นเคย ท่านพระอาจารย์ได้สังเกตอากัปกิริยาตั้งแต่เห็นเธอเดินเข้ามา มีหน้าตาเบิกบานเปล่งปลั่ง มีสติสํารวมนิ่มนวลนอบน้อม ตาแหลมคม จิตเที่ยงตรงองอาจ กิริยาท่าทางผิดเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมาก เวลานั้นท่านอาจารย์เป็นไข้ มีอาการไม่สบายมาก แต่ท่านพยายามทําใจให้เข้มแข็ง แสดงเหมือนกับท่านไม่ได้เป็นอะไร ออกมานั่งพูดจาปราศรัย แล้วแสดงธรรมปฏิสันถารเหมือนปกติ พอท่านหยุดแสดงธรรม นางคําภูผู้รู้จิตใจของผู้อื่นก็พูดขึ้นว่า “แหม ! ดอกบัวของครูบาอาจารย์วันนี้ คือเหี่ยวหลายแท้” (ดอกบัว หมายถึง หัวใจ)

“เป็นความจริงหรือ โยมรู้จักจิตใจอาตมาได้อย่างไร ?” ท่านอาจารย์รีบถามเพราะแปลกใจ

“จริงค่ะ ท่านอาจารย์เป็นอย่างนั้นจริงๆ ดิฉันรู้ได้และเห็นได้ด้วยใจของดิฉันเอง ถึงใครไม่บอกก็รู้ได้” แม่คําภูตอบ

“จิตใจมันเป็นอย่างไร ก่อนที่จะได้เกิดความรู้ ความเห็นแจ้งจริงประจักษ์ขึ้นมาได้อย่างนี้ ไหนลองเล่าให้อาตมาฟังซิ”

นางคําภูจึงได้เล่าเรื่องที่เธอภาวนาปรากฏเป็นนิมิต เห็นผีนอนตายอยู่ตรงหน้าดังกล่าวมาแล้วข้างต้นจนตลอด ให้ท่านอาจารย์ทราบแล้ว ท่านพระอาจารย์ฝั้นก็ได้เทศน์อธิบายต่อเติมส่งเสริมให้มีกําลังใจ ให้มีสติ รักษาจิตใจตั้งมั่นอยู่ในสมาธิอย่างมั่นคง อย่าให้หลงไปตามอารมณ์สัญญาวิปลาส เคลื่อนคลาดจากสมาธิ สติ ปัญญา ให้น้อมจิตเข้ารู้ตัวอยู่เสมอ ท่านอาจารย์แสดงธรรมจบแล้ว โยมคําภูจึงได้กราบลากลับบ้าน

ท่านพระอาจารย์ฝั้นคิดอยากจะลองจิตโยมคําภูดูอีกครั้ง จึงได้เร่งประกอบความเพียรภาวนา ตั้งสติรักษาจิตให้สงบ พอจิตรวมสงบระงับดับทุกข์จากการเป็นไข้ได้แล้ว จิตมีความสว่างไสว ปลอดโปร่ง เบาเนื้อเบาตัว สบายเป็นปกติแล้ว พอรุ่งขึ้นวันใหม่ เวลาบ่ายนางคําภูก็ออกมาฟังเทศน์ของพระอาจารย์อีก วันนี้ท่านพระอาจารย์นอนคลุมผ้า ทําท่าไม่อยากจะลุกมาต้อนรับ นางคําภูมาถึงแล้วกราบและนั่งอยู่สักครู่หนึ่ง ชําเลืองตามองส่องไปยังท่านพระอาจารย์ อย่างแสดงให้เห็นว่า มีความเคารพและเลื่อมใสอย่างสุดอกสุดใจ แล้วกล่าวคําอุทานพูดขึ้นมาว่า

“ดอกบัวของท่านอาจารย์วันนี้ คือมาบานดีหลายแท้น้อ”

ท่านพระอาจารย์ฝั้นนึกชมอยู่ในใจว่า โยมคําภูนี้ภาวนาเก่งจริง ทําความเพียรภาวนาได้ดี จนจิตมีอภิญญาแตกฉาน สามารถฉลาดรอบรู้จิตใจของผู้อื่นและสัตว์อื่นได้อย่างถูกต้องตามความเป็นจริง น้อยนักน้อยหนาคนที่จะปฏิบัติภาวนาได้อย่างนี้ หาได้โดยไม่ง่ายนักเลย”

จากหนักงสือประวัติท่านพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร มูลนิธิพระสงบ มนสฺสนฺโต ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี หน้า ๕๔-๕๗ (ขอบคุณลานธรรมจักร) - 003 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'ความโลภ\'เป็นเหตุให้คนทำกรรมชั่ว ตายแล้วตกนรก พอพ้นนรกมาแล้วก็มาเป็นเปรต 'ความโลภ'เป็นเหตุให้คนทำกรรมชั่ว ตายแล้วตกนรก พอพ้นนรกมาแล้วก็มาเป็นเปรต
  • ผู้ที่ไม่เคยฝึกสติ เมื่อเผชิญกับสิ่งที่ไม่พอใจ ความรู้สึกโกรธจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ผู้ที่ไม่เคยฝึกสติ เมื่อเผชิญกับสิ่งที่ไม่พอใจ ความรู้สึกโกรธจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง
  • \'สร้างพลังจิตเพื่อสร้างคุณภาพชีวิต\' โดย \'หลวงพ่อพุธ ฐานิโย\' 'สร้างพลังจิตเพื่อสร้างคุณภาพชีวิต' โดย 'หลวงพ่อพุธ ฐานิโย'
  • ไม่เชื่ออย่าลบหลู่! \'อานิสงส์การสวดมนต์\' เปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดี ไม่เชื่ออย่าลบหลู่! 'อานิสงส์การสวดมนต์' เปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดี
  • \'อภัยทาน\'เป็นทานที่ประเสริฐยิ่งกว่าการให้วัตถุสิ่งของใดๆ เป็นทานสูงสุดในพุทธศาสนา 'อภัยทาน'เป็นทานที่ประเสริฐยิ่งกว่าการให้วัตถุสิ่งของใดๆ เป็นทานสูงสุดในพุทธศาสนา
  • \'กฎแห่งกรรม\'ทำงานอย่างยุติธรรม ไม่มีการเข้าข้างใคร ทุกคนล้วนอยู่ภายใต้กฎนี้ 'กฎแห่งกรรม'ทำงานอย่างยุติธรรม ไม่มีการเข้าข้างใคร ทุกคนล้วนอยู่ภายใต้กฎนี้
  •  

Breaking News

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 มิถุนายน 2568

2หนุ่มส่งพัสดุเอกชน! ขนบุหรี่เถื่อน เอกสารระบุชื่อผู้ส่งผู้รับ

​‘มท.1’ปลุก‘อปท.’ กล้าใช้ดุลยพินิจตามหน้าที่-กม.เร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

'ตลาดนัดช่องสะงำ'เงียบเหงา! ชาวกัมพูชาหวั่นไทยปิดด่านชายแดน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved