โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ ติดตาม กำชับหน่วยงานเตรียมพร้อม ดูแลความปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว พร้อมทำการตลาดเชิงรุกหลังยกเลิก Thailand pass เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
29 มิถุนายน 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบและติดตามสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยว กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเตรียมพร้อม ดูแลความปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นการเติบโตของนักท่องเที่ยวที่มีโอกาสเติบโตสูง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้รับรายงานสรุปสถานการณ์การท่องเที่ยวประจำปี 2565 ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2565 ซึ่งนายกรัฐมนตรียินดีที่จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ภายหลังรัฐบาลประกาศเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม โดยในเดือนพฤษภาคม 2565 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยถึงกว่า 521,410 คน หรือคิดเป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงที่ 77.7% จากเดือนเมษายน 2565 ในขณะที่ตั้งแต่วันที่ 1-27 มิถุนายน มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาแล้วกว่า 644,000 คน หรือคิดเป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงที่ 43.9% โดยประมาณการว่าทำให้มีรายได้จากนักท่องเที่ยวสะสมจนถึงวันที่ 27 มิถุนายน 2565 แล้วกว่า 1.13 แสนล้านบาท โดย 5 ประเทศแรกที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไทยสูงสุดได้แก่ อินเดีย , มาเลเซีย , สิงคโปร์ , สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ตามลำดับ
นายธนกร กล่าวว่า ปัจจัยสนับสนุนหลักที่ทำให้นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคาดว่าสัปดาห์ที่ 5 ของเดือนมิถุนายน 2565 (วันที่ 27 มิถุนายน ถึง 3 กรกฎาคม 2565) คาดว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จะ มีจำนวน 177,000 คน ได้แก่ การยกเลิก Thailand pass และ บัตรตม.6 ที่จะเริ่มมีผล 1 กรกฎาคม 2565 การเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน จากซาอุดิอาระเบีย จีน และประเทศอื่น ๆ การอ่อนค่าของเงินบาท ความต้องการท่องเที่ยวไทยในระดับสูง (Pent up demand) เนื่องจาก ไม่ได้ท่องเที่ยวต่างประเทศมานาน และ เนื่องจาก การเข้าสู่หยุดหน้าร้อน (Summer holiday) ของนักท่องเที่ยวยุโรป และการเข้าสู่ช่วงหยุดโรงเรียน (School holiday) ของนักท่องเที่ยวออสเตรเลีย
ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ประมาณการนักท่องเที่ยวในช่วงเวลา 3 เดือนต่อจากนี้ กรกฎาคม-กันยายน 2565 ไว้ที่ 2,700,000 คน และสามเดือนสุดท้ายของปี 2565 ไว้ที่ 4,500,000 คน ซึ่งประมาณการยอดรวมนักท่องเที่ยวปี 2565 จำนวน 9,325,500 คน และได้ประมาณการรายได้จากนักท่องเที่ยว (ตลอดปี 2565) ไว้ที่ 1.27 ล้านล้านบาท
“นายกฯ ได้รับทราบสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวของไทยที่กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเตรียมพร้อม ดูแลความปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นการเติบโตของนักท่องเที่ยวที่มีโอกาสเติบโตสูง โดยในวันที่ 1 กรกฎาคม ไทยจะยกเลิก Thailand Pass จะเป็นการส่งสัญญาณว่าประเทศไทยได้ผ่านพ้นการระบาดของโควิด-19 ร้านอาหารและ สถานบันเทิงเปิดให้บริการ และเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบแล้ว พร้อมรับนักท่องเที่ยว ดึงดูดนักท่องเที่ยวตลาดระยะใกล้ สร้างรายรับ กระจายรายได้สู่เมืองต่าง ๆ” นายธนกร กล่าว
นายธนกร กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ มั่นใจทุกหน่วยงานไทยมีความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เห็นชอบให้ผ่อนคลายมาตรการป้องกันควบคุมโรคสำหรับการเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 โดยยกเว้นการลงทะเบียน Thailand Pass หรือ CoE ของชาวต่างชาติ ให้แสดงเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนหรือผลการตรวจหาเชื้อโควิด ในกรณีที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนหรือฉีดไม่ครบโดส โดยได้กำชับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมระบบ และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ให้เหมาะสม ทั้งนี้ การท่องเที่ยวยังเป็นหนึ่งในการสร้างรายได้สู่ประชาชนขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรียืนยันไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดการระบาดซ้ำของโควิด-19 โดยไทยเน้นท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย สิ่งสำคัญต้องขอความร่วมมือจากประชาชนปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention ด้วยการเว้นระยะห่าง ล้างมือ และยังคงแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัย เสมอ
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี