วัดหลวงปู่คำพันธ์น้อมรำลึก 26 ปีพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จยกฉัตรพระธาตุมหาชัย

วัดหลวงปู่คำพันธ์น้อมรำลึก 26 ปีพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จยกฉัตรพระธาตุมหาชัย

วันพฤหัสบดี ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2565, 18.23 น.

วัดหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำโขง น้อมรำลึก 26 ปี พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จยกฉัตรพระธาตุมหาชัย ลูกศิษย์ปลาบปลื้มสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เผยเข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิด ชวนเที่ยว นทท.ทำบุญเพื่อเป็นสิริมงคล

วันที่ 28 ก.ค.65 ซึ่งเป็นวันมหามงคลของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า คือตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 69 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยที่วัดธาตุมหาชัย ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม ถือเป็นอีกสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่มีประชาชน นักท่องเที่ยว ต่างเดินทางมาท่องเที่ยว ศึกษาเส้นทางประวัติศาสตร์ ในช่วงวันหยุดยาว รวมถึงวันสำคัญเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลปัจจุบัน และถือเป็นอีกวัดสำคัญของ จ.นครพนม ที่สร้างความประทับใจแก่พสกนิกรชาวนครพนม เคยได้มีโอกาสเฝ้ารับเสด็จ ทั้งในหลวงรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 อย่างใกล้ชิด


นอกจากนี้ ประชาชน นักท่องเที่ยว ที่เดินทางมายังได้มีโอกาสทำบุญกราบขอพรเทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำโขง คือ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดธาตุมหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม โดยท่านได้ละสังขาร เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2546 สิริรวมอายุ 88 ปี 71 พรรษา หลังท่านได้ละสังขารศิษยานุศิษย์ได้หารือกัน มีมตินำสรีระสังขารเก็บรักษาไว้ที่ศาลาการเปรียญ ณ วัดธาตุมหาชัย ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม เพื่อให้พุทธศาสนิกชน ได้กราบไหว้บูชาเป็นสิริมงคล ถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 19 ปี และกำลังก่อสร้างเมรุชั่วคราว เพื่อรอประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ

ด้าน นายโชติอนันต์ แสนสุภา อายุ 65 ปี อดีตข้าราชการครู และเคยบวชเรียนเป็นลูกศิษย์หลวงปู่คำพันธ์ เล่าถึงความประทับใจเกี่ยวกับ การเฝ้ารับเสด็จพระราชดำเนินบำเพ็ญกุศลของในหลวงทั้ง 2 พระองค์  วัดธาตุมหาชัยถือเป็นอีกวัดสำคัญที่มีประวัติศาสตร์ โดยพสกนิกรได้มีโอกาสเฝ้ารับเสด็จในหลวงอย่างใกล้ชิด รวมถึงได้มีโอกาสมาขอพรหลวงปู่คำพันธ์ พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ที่มีพุทธคุณ มีบุญบารมี เมตตามหามงคล เพื่อเป็นสิริมงคล แก่ตนเองและครอบครัว

ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่ชาวนครพนม ยังคงปราบปลื้มประทับใจ คือ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2518 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 พร้อมสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนิน ทรงนำพระบรมสารีริกธาตุ มาบรรจุไว้ภายในองค์พระธาตุมหาชัยองค์เดิม และมีการปฏิสังขรณ์ต่อจากองค์เดิมที่สร้างมาตั้งแต่ปี 2495 

ต่อมาเมื่อปี 2536 ได้พัฒนาสร้างองค์ใหม่ครอบองค์เดิม แล้วเสร็จเมื่อปี 2539 ในวาระสำคัญนี้ถือเป็นความปลาบปลื้มปีติของพสกนิกรชาว จ.นครพนม ที่ได้มีโอกาสเฝ้ารับเสด็จอย่างใกล้ชิด นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ที่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 10 เสด็จยกยอดฉัตรพระธาตุมหาชัย เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2539 มาถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 26 ปี นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่ชาว จ.นครพนม อย่างหาที่สุดมิได้

ในโอกาสวันสำคัญ ตนในฐานะพสกนิกรที่เคยเฝ้ารับเสด็จแบบใกล้ชิด ได้ชื่นชมพระบารมีของในหลวงทั้ง 2 พระองค์ ขอให้พสกนิกรชาวไทยทุกคน มีความรักหวงแหน เทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อีกทั้งฝากเชิญชวนประชาชน นักท่องเที่ยว หาโอกาสมากราบไหว้ขอพรองค์พระธาตุมหาชัย และกราบสรีระสังขารหลวงปู่คำพันธ์ ในช่วงวันหยุดและวันสำคัญ เพื่อเป็นสิริมงคล และท่องเที่ยวเชิงธรรมมะ ศึกษาเส้นทางประวัติศาสตร์ความสำคัญของวัดพระธาตุมหาชัย และน้อมรำลึกถึงเส้นทางเสด็จของในหลวงทั้ง 2 พระองค์

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวิชราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2515

ตลอดระยะเวลาที่ทรงดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ อาณาประชาราษฎร์ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประเทศชาติและพสกนิกรชาวไทย โดยมิได้ย่อท้อ

ทั้งที่ทรงปฏิบัติแทนพระองค์ และ ทรงปฏิบัติส่วนพระองค์ ทั้งในด้านความมั่นคง ของประเทศ ด้านสังคมสงเคราะห์ การศาสนา การศึกษาและวัฒนธรรมการแพทย์และสาธารณสุข การทหาร การบิน การต่างประเทศ ฯลฯ เพื่อความสุขความเจริญก้าวหน้าแก่บ้านเมืองและ ประชาชนคนไทยทั้งปวง

การทุ่มเทพระวรกายปฎิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ โดยมิทรงว่างเว้นของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 สะท้อนถึงพระราชหฤทัยมุ่งมั่นในการขจัดทุกข์บำรุงสุขแก่พสกนิกร  สมดั่งพระราช ปณิธานที่ทรงมีพระราชประสงค์ สืบสาน รักษาต่อยอด สมเด็จพระบรมชนกนาถ ในหลวงรัชกาลที่ 9

- 003

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top