วันอาทิตย์ ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เรามักจะได้ยินเสมอเวลาคนตายไป มักจะพูดกันว่า ขอให้ไปสู่สุคติเถิด แต่การขอคือความปรารถนาดีนั้น ไม่สามารถพาให้ผู้ที่ตายไปแล้ว ได้ไปเกิดในสุคติได้ ต้องเกิดจากการกระทำของแต่ละคนในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ เวลาตายไปแล้วจะนิมนต์พระมาสวดกุสลา มาทำบุญทำกุศลให้ก็ไม่เกิดประโยชน์กับคนที่นอนอยู่ในโลง เพราะคนตายไปแล้วไม่สามารถทำบุญได้ ไม่สามารถฟังธรรมะได้ ที่เขานิมนต์พระมาสวดนั้น ความจริงเขานิมนต์มาให้สวดให้คนเป็นมากกว่า คือญาติพี่น้องเพื่อนสนิทมิตรสหายที่ไปในงานศพนั้น เพื่อจะได้มีโอกาสได้ยินได้ฟังธรรม ถ้าฟังด้วยความตั้งใจ จิตก็จะสงบ เมื่อมางานศพของเพื่อน ก็จะได้มีโอกาสเจริญปัญญา คือได้ปลงสังขาร ปลงอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ถ้าเราระลึกถึงว่าเพื่อนของเราคนนี้ เมื่อก่อนเขาก็เป็นเหมือนเรา เขาก็มีลมหายใจ เขาก็มีความสามารถที่จะทำอะไรได้ แต่ในวันนี้เขาทำอะไรไม่ได้แล้ว เขามีแต่รอให้นำเอาเข้าไปในเตาไฟ เพื่อที่จะเผาให้หมดสิ้นซากไป แต่เรายังมีชีวิตอยู่ เรายังมีโอกาสที่จะทำอะไรได้ และต่อไปไม่ช้าก็เร็ว เราก็ต้องเป็นเหมือนเขาเช่นกัน เราก็จะต้องไปนอนในโลงให้เขานิมนต์พระมาสวด แล้วก็นำเข้าเตาเผา เพื่อที่จะเผาร่างกายนี้ให้กลายเป็นเถ้าถ่านไปเหมือนกัน ถ้าเข้าวัดไปงานศพในลักษณะนี้ เราก็จะไม่ขาดทุน เพราะได้เข้าไปเติมบุญเติมกุศล ได้ปลงสังเวช ปลงอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สร้างสติให้เกิดขึ้น สร้างปัญญาให้เกิดขึ้น ว่าสังขารทั้งหลายเป็นของไม่เที่ยง มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วต้องดับไปในที่สุด
เพราะฉะนั้นในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ เราจึงควรขวนขวายสะสมบุญบารมี เพราะว่าเมื่อตายไปแล้ว คนอื่นสะสมบุญบารมีให้เราไม่ได้ บุญที่เขาอุทิศให้นั้นเป็นเพียงเศษบุญ เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของบุญที่เขาทำเท่านั้น ถ้าเปรียบก็เปรียบเหมือนกับเงินที่ให้ขอทานหรือให้คนที่ไม่มีค่ารถ เพื่อเดินทางไปข้างหน้าเท่านั้นเอง ไม่มากมายเท่าไรเลย เราจึงต้องไม่ประมาท ไม่ไปหวังบุญจากผู้อื่นที่จะอุทิศให้เราหลังจากที่เราตายไปแล้ว เราควรสร้างบุญสร้างกุศลให้กับตัวเราในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ควรเข้าวัดอาทิตย์ละ ๑ ครั้ง ถ้ามีพระเดินผ่านบ้านทุกๆวัน ก็ควรใส่บาตรทุกๆวัน แล้วก็รักษาศีล ๕ ให้ได้ทุกๆวันเป็นอย่างน้อย ถ้าทำได้เพียงเท่านี้ เชื่อได้ว่าเมื่อตายไปแล้ว เราจะได้ไปสู่สุคติอย่างแน่นอน โดยไม่ต้องให้ใครมาขอให้เราไปสู่สุคติ เพราะสิ่งนี้ขอกันไม่ได้ เป็นสิ่งที่จะต้องทำกันเอง ตัวใครตัวมัน
กำลังใจ ๑๐, กัณฑ์ที่ ๑๕๐ วันที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๖ พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี คัดลอกจากเพจ "พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี