"..ต้องพูดให้คิดบ้าง เพราะเวลามีแต่เดินไปข้างหน้า มีแต่จะน้อยลงไปเรื่อยๆ ชีวิตของพวกเราจะสั้นลงไปเรื่อยๆ พระพุทธเจ้าทรงสอนให้พิจารณาอยู่เรื่อยๆ ว่าร่างกายของพวกเราเป็นของไม่เที่ยง มีเกิด มีแก่ มีเจ็บ มีตายเป็นธรรมดา จงยังประโยชน์ของตนและของผู้อื่นให้ถึงพร้อม ด้วยความไม่ประมาทเถิด
นี่เป็นพระปัจฉิมโอวาทของพระพุทธเจ้า ที่ทรงตรัสไว้ ก่อนที่จะเสด็จดับขันธปรินิพพานไป ทรงมีความห่วงใยพวกเราเป็นอย่างมาก ที่อาจจะไม่ค่อยได้คิดถึงความจริงข้อนี้ ความจริงที่ว่าชีวิตของพวกเรานี้ ไม่เที่ยงแท้แน่นอน จะหมดไปได้ในวันใดวันหนึ่ง และจะต้องหมดไปอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้น จึงไม่ควรตั้งอยู่ในความประมาท ไม่ควรคิดว่าจะอยู่ไปนานๆ เพราะไม่รู้ว่าจะอยู่ไปได้นานสักเท่าไหร่
จึงควรคิดตรงกันข้าม ควรคิดว่าอาจจะอยู่ไปไม่นาน จะได้ถือว่าไม่ประมาท ถ้าคิดว่าจะอยู่นานก็ถือว่าประมาท ถ้าคิดว่าอาจจะไปวันนี้หรือพรุ่งนี้ จะได้รีบจัดการกับสิ่งที่ควรจะจัดการ รีบจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ ว่าสิ่งไหนสำคัญ สิ่งไหนไม่สำคัญ
“ไม่มีอะไรที่จะสำคัญกว่าการปฏิบัติธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์กับตนก่อน” ให้ตนได้หลุดพ้นจากความทุกข์ หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดก่อน แล้วค่อยทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นต่อไป ถ้ามัวแต่ไปทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น ไม่ทำประโยชน์ให้กับตน ตนจะไม่ได้รับประโยชน์อะไร ประโยชน์ของตนจึงต้องมาก่อน ประโยชน์ของตนก็คือ.. ประโยชน์ของใจนี่เอง ต้องมาก่อนประโยชน์ของร่างกายและของกิเลสตัณหา..."
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี วันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๖ (เพจ พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต - 003