พระสงฆ์ไทย ไว้เครายาวกว่า 30 ปี เจ้าตัวบอกเคยตัดออกแล้วเจ็บป่วย จึงต้องไว้แบบนี้ คณะสงฆ์ในเขตปกครอง เตรียมตรวจสอบ

16 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สำนักสงฆ์ถ้ำน้ำย้อย อยู่พื้นที่บ้านโนนตูมถาวร ต.บักดอง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ หลังได้รับแจ้งว่า มีพระสงฆ์รูปหนึ่งไว้หนวดไว้เครายาวประมาณ 50 ซม. เมื่อไปถึงได้พบ พระพรชัย พุทธสาโร อายุ 61 ปี หรือ หลวงปู่เคราเงิน ซึ่งเป็น เจ้าสำนักสงฆ์น้ำย้อย โดย หลวงปู่เคราเงิน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ต้องไว้หนวดไว้เครานั้นเพราะเหมือนมีบางสิ่งบางอย่างมาบอกอาตมา ในขณะกำลังนั่งสมาธิเหมือนหูแว่วว่ามีคนบอกให้เอาหนวด เอาเคราไว้ให้หน่อยจะไปอยู่ด้วย ซึ่งสิ่งที่หูอาตมาแว่วนั้นก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นเสียงใคร เป็นอะไร ตั้งแต่ตอนนั้นอาตมาก็ไว้หนวดไว้เครามาโดยตลอดนานกว่า 30 ปี ใครจะว่าอาตมาเป็นคนบ้า หรือ เป็นอะไรอาตมาก็ไม่สนใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ไว้หนวดเคราแบบนี้ ผิดระเบียบหรือไม่ หลวงปู่เคราเงิน กล่าวว่า ผิดอยู่แล้วในกลุ่มของคณะสงฆ์ แต่จะให้อาตมาทำตามระเบียบเหมือนกับคณะสงฆ์เค้า อาตมาก็ทำไม่ได้ อาตมาเลยต้องทำผิดระเบียบแบบนี้ ขณะที่ผ่านมา ก็มีผู้หลักผู้ใหญ่เข้ามาว่ากล่าวตักเตือนอยู่ แต่อาตมาก็บอกไปว่าทำไม่ได้เพราะแต่ก่อนอาตมาเคยตัดโกน แต่ก็เกิดทำให้อาตมาไม่สบาย ทำให้ญาติพี่น้องลำบากต้องมาดูแล แต่พอไม่ได้ตัดโกนหนวดเคราก็ไม่เคยป่วย ไม่เคยไม่สบายเลย อาตมาคิดว่าคงเพราะเป็นสัจจะวาจาที่มีไว้กับท่านที่มาบอกไว้ว่าจะขออยู่ก็อยู่ด้วยกัน ตายก็ตายด้วยกัน ทำให้อาตมาจำเป็นไว้หนวดเคราไว้แบบนี้จนชีวิตจะหาไม่ แม้จะผิดระเบียบของคณะสงฆ์ก็ตาม

โดย นายแต้ม จันทร์เปรียง อายุ 84 ปี ชาวบ้านรายหนึ่ง ซึ่งทำสวนยางพาราอยู่ใกล้สำนักสงฆ์ถ้ำน้ำย้อย เปิดเผยว่า หลวงปู่เคราเงิน บวชแล้วจำพรรษาอยู่ที่นี้นานมากแล้ว ปกติชาวบ้านแถวนี้จะไม่ค่อยเข้าไปทำบุญที่สำนักสงฆ์กันเท่าไร มีแต่ชาวบ้านจากที่อื่นที่พากันเดินทางเข้ามาทำบุญ มาสะเดาะเคราะห์ แก้เคราะห์แก้กรรม พอมีงานต่างๆ ชาวบ้านแถวนี้ส่วนมากก็ไม่ได้มานิมนต์หลวงพ่อไปประกอบพิธี มีแต่ไปนิมนต์พระจากอีกวัดหนึ่งที่อยู่ใกล้กัน ไปประกอบพิธี ทำให้สำนักสงฆ์นี้ไม่ค่อยมีชาวบ้านแถวนี้เข้ามาทำบุญกัน

ด้าน นางวิมลพรรณ พงษ์ภา ผอ.กลุ่มอำนวยการและกิจการคณะสงฆ์ สำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับรายงานถึงเรื่องหลวงปู่เคราเงิน จากทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแล้ว ถึงพฤติกรรมดังกล่าว และตนได้รายงานไปยังเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อดำเนินการตามระเบียบคณะสงฆ์แล้ว และเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ เตรียมสั่งให้คณะสงฆ์ในเขตปกครอง ตรวจสอบถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งไม่นานทางสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เตรียมที่จะลงพื้นที่กับทางคณะสงฆ์ตรวจสอบความจริง เพื่อดำเนินการต่อไป

-009