แม่ค้าขายข้าวแกง 20 บาทภายในตลาดสดเทศบาลนครตรัง ทำฮือฮาหลังขึ้นป้ายไวนิลฝากถึงนักการเมืองปากหวาน ที่แวะมาหาบ่อยเฉพาะช่วงหาเสียง แต่หลังจากที่ได้รับการเลือกตั้งไปแล้วกลับหายหน้า พร้อมยืนหยัดขายราคาจานละ 20 บาท แม้วัตถุดิบ แก๊สขึ้นราคา ก็ยังคงขายราคาเดิม ไม่ซ้ำเติมประชาชน
วันนี้ 10 มี.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้านขายข้าวแกงเย่สิบบาทหรือ 20 บาท ภายในตลาดสดเทศบาลนครตรัง ซึ่งเป็นร้านของนางอรอุมา ศรีเทพ อายุ 44 ปี มีลูกค้าพากันมาอ่านป้ายไวนิลแม่ค้าขายข้าวแกงเขียนติดไว้หน้าร้าน ด้วยข้อความที่ว่า "ไม่ใช่นักการเมืองปากหวานที่มาหาท่านเฉพาะหน้าหาเสียงเลือกตั้ง แต่เราพร้อมเคียงข้างคนตรังยืนหยัดราคาเดิม 20 บาทเท่านั้น"
ซึ่งข้อความดังกล่าว โดนใจลูกค้าและประชาชนที่เดินผ่านไป-มาเป็นอย่างมาก และตรงกับช่วงของการหาเสียง ของว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส ของบรรดาพรรคต่าง ๆ เพื่อฝากเป็นข้อคิด ให้ใส่ใจประชาชน ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง ซึ่งช่วงนี้มีหลายพรรคการเมือง เดินแนะนำตัวไม่เว้นแต่ละวัน ต่างคนต่างยกมือไหว้ ทักทายกับพ่อค้าแม่ค้าเสมือนเป็นญาติพี่น้องที่รู้จักกันมานาน และเป็นแบบนี้ทุกครั้งก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปจนถึงระดับประเทศ จึงทำให้ป้ายดังกล่าวโดนใจชาวบ้านเป็นอย่างมาก โดยมีการแวะถ่ายภาพและเซลฟี่ โพสต์ลงโซเชียลเพื่อขำขันและสะกิดใจนักการเมือง พร้อมอุดหนุนข้าวแกงจานละ 20 บาทของแม่ค้า ทำให้แม่ค้าที่ขายดีอยู่แล้ว พลอยขายของหมดเร็วขึ้นภายในเวลา 2-3 ชั่วโมง จากเดิมใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง
สำหรับร้านขายข้าวแกงของนางอรอุมาฯ เปิดขายตั้งแต่เวลา 05.00 น.ของทุกวัน โดยกับข้าวขายถุงละ 20 บาท ข้าวราดแกง 2 อย่าง 20 บาท แต่ละวันมีกับข้าวให้เลือกมากกว่า 10 อย่าง ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด และเปิดขายมานานกว่า 20 ปีแล้ว โดยไม่เคยปรับขึ้นราคาแม้วัตถุดิบ เช่น ผัก ปลา เนื้อหมู เนื้อไก่ แก๊สหุงต้ม น้ำมันปาล์ม ไข่ไก่ จะปรับขึ้นมาแล้วหลายรอบ แต่ร้านนี้ก็ยังคงขายในราคาเดิม และไม่ลดปริมาณหรือคุณภาพลง ทำให้ลูกค้าที่มีรายได้น้อย พ่อค้าและประชาชนแวะอุดหนุนจนคว่ำหม้อ ขายหมดเกลี้ยงทุกวัน
ด้านนางอรอุมา ศรีเทพ อายุ 44 ปี เจ้าของร้านข้าวแกงยี่สิบบาท (เย่สิบบาท) กล่าวว่า เหตุที่ได้ขึ้นป้ายแบบนั้นก็เพราะช่วงนี้เป็นหน้าหาเสียงเลือกตั้ง ว่าที่ สส. นักการเมืองก็ลงพื้นที่หาเสียงกันเยอะ แต่หลังจากได้ตำแหน่งไปแล้ว ก็ไม่เคยมีใครมาเยี่ยมเยียนประชาชน มารับฟังปัญหา มาถามสาระทุกข์ดิบ ไม่เคยมีเลย ก็เลยเป็นที่มาของป้ายนี้ เพราะร้านตัวเองยังคงยืนยันราคาเดิม 20 บาทไม่เคยเปลี่ยนไม่เคยขึ้นราคา ช่วยเหลือประชาชนรากหญ้ามาตลอด
และทราบว่ามีคนสนใจเยอะมากเกือบทุกคนที่เดินผ่านไปผ่านมา หันมาอ่านแล้วอมยิ้มกัน แล้วก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่คือเรื่องจริง และตนจะแขวนป้ายนี้ไปจนกว่าจะเลือกตั้งเสร็จ เมื่อถามว่ามีอะไรติดใจเกี่ยวกับนักการเมืองบ้างหรือไม่ ก็ทราบว่าเมื่อนักการเมืองได้ตำแหน่งไปแล้วช่วยลงมาดูความเป็นอยู่ของประชาชนบ้าง อย่างราคาของทุกอย่างขึ้นหมด ก่อนหน้าเลือกตั้งก็มาถามโน่นนี่แต่พอได้ตำแหน่งแล้วไม่เคยมาอีกเลย จึงอยากให้ทำตัวแบบสม่ำเสมอมากกว่านี้.-008