วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
ปลื้มงานวิจิตร@นครพนมเงินสะพัดกว่า 500 ล้านแฉผู้ประกอบการฉวยโขกค่าบริการนักท่องเที่ยว

ปลื้มงานวิจิตร@นครพนมเงินสะพัดกว่า 500 ล้านแฉผู้ประกอบการฉวยโขกค่าบริการนักท่องเที่ยว

วันพฤหัสบดี ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2566, 11.09 น.
Tag : ท่องเที่ยว ททท. เงินสะพัด แม่น้ำโขง นครพนม
  •  

ททท.ปลื้มงานวิจิตร @ นครพนม 9 คืน เงินสะพัดกว่า 500 ล้านบาท แฉมีกลุ่มผู้ประกอบการบางประเภท บางรายฉวยโอกาสโขกราคาค่าบริการ เอาเปรียบนักท่องเที่ยว 

จากการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดนครพนม (กรอ.นครพนม) ครั้งที่ 3/2566 โดยมี นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธาน พร้อมกับหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานภาคเอกชน ณ ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ณ ศาลากลางจังหวัดนครพนม ซึ่งการประชุมครั้งนี้มีด้วยกัน 7 หัวข้อ คือ 1.สภาวะเศรษฐกิจไทย 2.สถานการณ์การค้าชายแดน 3.การท่องเที่ยว 4.สินค้าทางการเกษตร 5.การก่อสร้างศูนย์การค้าชายแดน 6.ความคืบหน้าเขตเศรษฐกิจพิเศษ และ 7.ความพร้อมในการจัดงานบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะจาก หอการค้าจังหวัดนครพนม สภาอุตสาหกรรมฯ สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวฯ และ ชมรมผู้ปะกอบการโรงแรม-อาหาร ฯลฯ


โดยนางสาว กนกวรรณ ดุงศรีแก้ว ผอ.ททท.สำนักงานนครพนม ได้เปิดเผยข้อมูลของงานวิจิตร@นครพนม ระหว่างวันที่ 27 พค.-4 มิย.66 ที่ผ่านมา รวม 9 วัน 9 คืน ว่า งานนี้สร้างกระแสจริงๆ โดยจากการรวบรวมข้อมูลพอสรุปได้ดังนี้ มีคนเข้าพื้นที่เดิมมีเป้าหมายอยู่ประมาณ 35,000 คน ปรากฏว่ามีคนเข้าพื้นที่มากถึง 173,215 คน แยกเป็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงราว 716 คนและเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 172,499 คน ซึ่งมีตัวเลขที่น่าสนใจตรงที่ในอาทิตย์เดียวกัน เราจัดงานนี้พร้อมกับจังหวัดระยอง โดยระยองมีคนเข้าพื้นที่ 190,000 คน มากกว่านครพนม แต่สัดส่วนของคนในพื้นที่กับนอกพื้นที่ นครพนมสัดส่วนคนในพื้นที่ 111,000 คน แต่เป็นคนต่างจังหวัดที่เข้าพื้นที่เรา 61,000 คน ขณะที่ระยองมีคนเข้าพื้นที่แค่ 40,000 กว่าคน นอกจากนั้นเป็นคนในจังหวัด

ผอ.ททท.นครพนม กล่าวต่อว่า มาถึงเรื่องของรายได้ เบื้องต้นคาดหวังเอาไว้ว่า เราอยากได้ 120 ล้านบาท ปรากฏว่าตัวเลขที่ได้คือ 540 ล้านบาทใน 9 วัน และอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 79.13% นั่นหมายความว่าใน 100 ห้อง มีคนเข้าพัก 79 ห้อง อันนี้โดยเฉลี่ยทั้งจังหวัด ทั้งนี้ กระแสตัวเลขที่เข้ามาและข้อมูล ยืนยันว่าคนรับรู้จากการประชาสัมพันธ์ 91 กว่าเปอร์เซ็นต์ ที่รู้ว่ามีงานนี้และตั้งใจมา มีเพียงแค่ประมาณ 8 เปอร์เซ็นต์กว่าๆ ที่เพิ่งรู้ว่ามีงานนี้ตอนมาเที่ยวนครพนม

“สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดว่าที่ได้แน่ๆ คือ ได้มีการสอบถามนักท่องเที่ยวเรื่องรถเช่า ปกติส่วนใหญ่จะมีในเรื่องที่พัก ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก แต่ครั้งนี้มีนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจบินมาจากกรุงเทพฯ พอลงสนามบินก็ได้เช่ารถตู้และขับรถเอง อย่างที่บอกเราได้ทำงานร่วมกันกับ ททท.โฮจิมินห์ (เวียดนาม) จึงทำให้มีการประสานความร่วมมือ โดยทางโฮจิมมินห์กระตุ้นบริษัทนำเที่ยวที่อยู่ในลาวขายทัวร์เข้ามา อันนี้เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวลาวที่เข้ามาในพื้นที่ และในครั้งนี้มีสื่อมวลชนรวมถึงบริษัทนำเที่ยวจากโฮจิมินห์เดินทางมาด้วย ซึ่งจะส่งผลต่อว่าจะขายทัวร์ให้นักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม มาสร้างประสบการณ์ที่นครพนมในครั้งต่อไป

มีประเด็นที่เป็นข้อกังวลคือ นักท่องเที่ยวที่ไม่สามารถขับรถเข้าไปถึงจุดถ่ายรูปได้ก็จะใช้บริการรถสามล้อเครื่อง ปัญหาที่ตามมาคือในเรื่องของการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว รถสามล้อเครื่องเรียกเก็บเงินเกินราคา รวมไปถึงบางโรงแรมคิดค่าบริการนักท่องเที่ยวส่งจากโรงแรมไปสนามบินราคา 700 บาทต่อเที่ยวถือว่าสูงมาก โดยได้ข้อมูลจากคนใกล้ตัวบอกเล่าว่า รถสามล้อเครื่องคิดคันละ 400 บาท ในเมื่อบรรยากาศบ้านเราเรื่องการท่องเที่ยวกำลังไปได้ดี ทำอย่างไรในส่วนของการเป็นเจ้าบ้านที่ดี สร้างความประทับใจ ไม่ควรมีบรรยากาศแบบนี้เกิดขึ้น อาจมีผลที่จะตามมาภายหลัง

อีกอย่างนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ เขายินดีที่จะเช่ารถขับเอง แต่สิ่งหนึ่งที่บ่นคือค่าตั๋วเครื่องบินแพง เที่ยวหนึ่ง 5,000 บาท ซึ่งถ้าราคาเป็นอย่างนี้นักท่องเที่ยวบอกว่าไปเที่ยวต่างประเทศดีไหม” นางกนกวรรณ ดุงศรีแก้ว ผอ.ททท.นครพนม กล่าว

มีรายงานเพิ่มเติมว่า ททท.นครพนม ได้ร่วมกับ ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้นำผู้ประกอบการในกลุ่มจังหวัดสนุก (สกลนคร-นครพนม-มุกดาหาร) เดินทางไปที่แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว โดยนำผู้ประกอบการทั้ง 3 จังหวัด ไปหารือเพื่อทำงานร่วมกัน ถึงตอนนี้การท่องเที่ยวจะไม่ทำเฉพาะในประเทศอย่างเดียว ถ้าตะเข็บชายแดนถ้าสามารถเชื่อมโยงทางการท่องเที่ยวด้วย ก็จะแตะมือทำงานร่วมกันระหว่างประเทศฯ

ด้านนายธนพัต ทีฆธนานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม กล่าวว่า หลังเสร็จสิ้นงานวิจิตร@นครพนม น่าจะมีการถอดบทเรียนเพื่อเตรียมช่วงงาน WINTER FESTIVAL 2024 ในอีก 6 เดือนข้างหน้า ว่ากิจกรรมประเภทไหนสามารถดึงดูดคนได้เยอะ จึงต้องอาจหยิบเคสนี้ขึ้นมาหารือกันฯ

ทั้งนี้ ททท.ได้เปิดโครงการวิจิตร 5 ภาค ชวนเที่ยวชมงาน แสง สี เสียงตระการตา ในพื้นที่จัดงานทั้ง  5 ภูมิภาค หวังกระตุ้นการท่องเที่ยว และขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทยในการสร้างประสบการณ์ทรงคุณค่าและมุ่งสู่ความยั่งยืน โดยมีการจัดในสถานที่ท่องเที่ยวใน 5 ภูมิภาค ได้แก่ 1.ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร 2.ภาคใต้ นครศรีธรรมราช 3.ภาคเหนือ เชียงราย 4.ภาคตะวันออก ระยอง และ 5.ภาคอีสาน นครพนม เพื่อหวังกระตุ้นการท่องเที่ยว และขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทยในการสร้างประสบการณ์ทรงคุณค่าและมุ่งสู่ความยั่งยืน

โดยจังหวัดนครพนมได้รับเกียรติจาก ททท.จัดงานวิจิตร 5 ภาค @ นครพนม ภายใต้แนวคิด “วิจิตรนครพนม นครแห่งความสุขริมฝั่งโขง” ระหว่างวันที่ 27 พ.ค.-4 มิ.ย.66 รวม 9 วัน เพื่อนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ผ่านการเล่าเรื่องด้วยการใช้เทคนิคของแสง สี เสียง ด้วยระบบ 3 D Projection Mapping และ Lighting รวมทั้งสิ้น 15 จุดที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ท้องถิ่น มีระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร

โดยแยกเป็น 8 ลานกิจกรรม 1.ลานแสงสิงแก้ว 2.ลานพนมนาคา 3.ลานจันทร์ส่องหล้า 4.ลานกินลมชมวิว 5.ลานตะวันเบิกฟ้า 6.ลานตรงข้ามโรงเรียนสุนทรวิจิตรนครพนม 7.ลานตรงข้ามรองอาสนวิหารนักบุญอันนา 8.ลานสวรรค์ชายโขง

ส่วน 7 อาคาร ประกอบด้วย 1.หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ 2.โรงแรมรชาโขง หรือเดิมชื่อโรงแรมเฟิร์ส 3.ศาลจังหวัดนครพนม 4.สํานักงาน ททท.นครพนม 5.จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม 6.รองอาสนวิหารนักบุญอันนา หนองแสง และ 7.หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ

โดยทั้ง 15 จุดนั้น ล้วนมีเรื่องราวจากอดีตถึงปัจจุบันควรค่าแก่การศึกษายิ่งนัก เช่น ลานแสงสิงแก้วริมแม่น้ำโขง หน้าวัดพระอินทร์แปลง มีต้นฉำฉ่า (จามจุรี) ที่แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมให้ความร่มรื่นแก่ผู้เข้าไปอาศัยร่มเงามานานอายุกว่า 200 ปี ซึ่งอยู่ในยุคอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์รุ่งเรือง

หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ ก่อสร้างเมื่อปี 2503 โดยเมื่อครั้งสงครามอินโดจีน ชาวเวียดนามได้อพยพหนีภัยสงครามเข้ามาอาศัยร่มพระโพธิสมภาร หลังประธานโฮจิมินห์ประกาศอิสรภาพเป็นผลสำเร็จ ชาวเวียดนามส่วนหนึ่งจึงเดินทางกลับมาตุภูมิ โดยได้ร่วมกันสร้างหอนาฬิกาแห่งนี้ไว้เป็นอนุสรณ์ และเสียงนาฬิกายังดังกังวานอยู่ถึงทุกปัจจุบัน

ส่วนโรงแรมรชาโขง เดิมชื่อโรงแรมเฟิร์สอยู่ใกล้กับหอนาฬิกาฯ มีความเป็นมาที่น่าสนใจ นอกจากเป็นโรงแรมที่อยู่คู่กับจังหวัดนครพนมมาอย่างยาวนานแล้ว โดยตัวตึกออกแบบให้สอดคล้องกับหอนาฬิกา และช่วงที่กองทัพสหรัฐใช้จังหวัดนครพนมตั้งฐานทัพ ทำสงครามกับเวียดนาม ทหารอเมริกันหรือจีไอ ก็ใช้โรงแรมแห่งนี้เป็นที่พักผ่อนขณะเข้ามาเที่ยวในตัวเมือง

ศาลจังหวัดนครพนม (หลังเก่า) สร้างขึ้นเมื่อปี 2460 ใช้พิพากษาคดีความต่างๆ และเมื่อปี พ.ศ. 2483 ประเทศไทยมีกรณีพิพาทกับอินโดจีนฝรั่งเศส อาคารศาลได้ถูกกระสุนปืนและลูกระเบิด ทำให้ผนังแตกร้าว 40 กว่าแห่ง จึงทำการซ่อมแซมพร้อมดัดแปลงใต้ถุนอาคารศาลเป็นห้องขังนักโทษ และใช้งานเป็นที่ทำการศาลจังหวัดนครพนมมาจนถึงวันที่ 3 มีนาคม 2506 จึงย้ายที่ทำการไปยังศาลจังหวัดนครพนมหลังปัจจุบัน

จวนผู้ว่าราชการฯหลังเก่า สร้างขึ้นประมาณปี 2457 โดยพระยาพนมนครานุรักษ์ (อุ้ย นาครทรรพ) วันที่ 12-13 พฤศจิกายน 2498 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระราชินีฯได้เสด็จฯ เยี่ยมราษฎรจังหวัดนครพนม โดยประทับแรมที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  กระทั่งถึงปี 2527 อาคารหลังนี้ถูกปิดตาย เนื่องจากความเก่าและทรุดโทรม และในปี 2548 อาคารถูกยกเป็นโบราณสถานของกรมศิลปากร ดำเนินการบูรณะในปีถัดมาและจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ในที่สุด

หอสมุดแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถนครพนม เป็นอาคารสามชั้นสไตล์โคโลเนียล สีเหลือง เดิมเป็นอาคารศาลากลางจังหวัด สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชการที่ 5 สมัยที่เกิดกรณีพิพาทไทย-ฝรั่งเศส ตึกหลังนี้เคยถูกฝรั่งเศสยิงปืนใหญ่จากเมืองท่าแขกที่อยู่ฝั่งตรงข้ามมาถล่มจนพรุน ภายหลังปรับปรุงซ่อมแซมใช้เป็นหอสมุดเพื่อให้เป็นศูนย์รวมแห่งการเรียนรู้ที่จะเอื้อประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้าแก่นักเรียน นักศึกษา ประชาชนในจังหวัดนครพนม และจังหวัดใกล้เคียง

สำหรับรองอาสนวิหารนักบุญอันนา ชุมชนหนองแสง สร้างมาเมื่อปี 2469 และถือเป็นโบสถ์คริสต์ที่มีความเก่าแก่สวยงามมากแห่งหนึ่งของไทย จุดโดดเด่นที่มองเห็นและสะดุดตาคงหนีไม่พ้นหอคอยคู่สูงอยู่ด้านบนของโบสถ์ส่วนหน้า โบสถ์แห่งนี้เป็นอาคารที่สร้างขึ้นมาใหม่ภายหลังจากโบสถ์เดิมที่อยู่ด้านข้างโดนระเบิดเสียหายไปในสมัยสงครามอินโดจีน จึงมีการร่วมใจกันสร้างโบสถ์ใหม่ขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์รวมใจและสัญลักษณ์ของการอยู่ร่วมกันระหว่างคนหลายเชื้อชาติไม่ว่าจะชาวไทย เวียดนาม จีน ลาว เป็นต้น - 003

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘สส.อนันต์’ร่วมเปิด D-HOPE ท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ‘สส.อนันต์’ร่วมเปิด D-HOPE ท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก
  • บึงกาฬปั้นต้นคล้าเป็นประติมากรรมศรัทธาเชื่อมตำนาน \'พญานาค\' ดัน Soft Power ท่องเที่ยว บึงกาฬปั้นต้นคล้าเป็นประติมากรรมศรัทธาเชื่อมตำนาน 'พญานาค' ดัน Soft Power ท่องเที่ยว
  • ททท.จัดฉ่ำๆ เอาใจสายมู 3 หมอดู 3 ศาสตร์ \'ไพ่ท่าโร่-ลายมือ-ตัวเลข\'ดูดวงฟรี ททท.จัดฉ่ำๆ เอาใจสายมู 3 หมอดู 3 ศาสตร์ 'ไพ่ท่าโร่-ลายมือ-ตัวเลข'ดูดวงฟรี
  • ฮือฮา! ฟักทองพันธุ์ไทยแท้น้ำหนัก 10 กิโลกรัมโผล่กลางงานลิ้นจี่ของดีขามเฒ่า ฮือฮา! ฟักทองพันธุ์ไทยแท้น้ำหนัก 10 กิโลกรัมโผล่กลางงานลิ้นจี่ของดีขามเฒ่า
  • นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนไทยแล้วกว่า11ล้านคน ช่วงต้นปี’68 นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนไทยแล้วกว่า11ล้านคน ช่วงต้นปี’68
  • ตรังจัดใหญ่\'Trang Seafood Festival\' ยกระดับอาหารถิ่นสู่ท่องเที่ยวคุณภาพสูง ตรังจัดใหญ่'Trang Seafood Festival' ยกระดับอาหารถิ่นสู่ท่องเที่ยวคุณภาพสูง
  •  

Breaking News

'DSI'ลงนามด่วนถึง'ผบ.ตร.-ปลัด มท.' ร่วมมือสอบสวนเอาผิดฟอกเงินคดีฮั้วเลือก สว.

'รมว.ยุติธรรม'เป็น ปธ.มอบเงินเยียวยาให้เหยื่อตึก สตง.ถล่ม

ตลาดสี่มุมเมืองจัดงานเอ็กซ์โป ขายทุเรียนเริ่มต้นพูละ 5 บาท แจกทุเรียนกว่า 200 ลูก

ตัวมัมพันธุ์ใหม่!!! ได้ทีกระทืบซ้ำ‘สายสีน้ำเงิน’ สอนมารยาททางการเมือง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved