สาวงามผู้ไทเรณู สวยสมคำร่ำลือ ร่วมรำบวงสรวงถวายองค์พญาศรีสัตตนาคราช ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม โชว์เอกลักษณ์ประจำชนเผ่า ส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวสุดคึกคัก
เข้าสู่วันที่ 5 ของงานสมโภชพญาศรีสัตตนาคราช ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 7-13 กรกฎาคม รวม 7 วัน 7 คืนยังคงคึกคักไปด้วยประชาชนทั้งชาวไทย ชาวลาว และนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ ที่ยังคงเดินทางมาทำบุญกราบไหว้ขอพรองค์นาคาธิบดีสีสัตตนาคบาดาล ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม ถือเป็นที่ประดิษฐานพญานาคศักดิ์สิทธิ์ โดยตั้งตระหง่านมาตั้งแต่ปี 2559 เพื่อเป็นการอนุรักษ์ วัฒนธรรม ประเพณี และความเชื่อเกี่ยวต่อเรื่องพญานาคของชาวไทยและชาวลาว ที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง อีกทั้งยังต้องการยกระดับ แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เชื่อมโยงการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าจังหวัดชายแดน จึงได้มีการจัดงานสมโภชและพิธีบวงสรวงขึ้นทุกวันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปี
ในทุกวันระหว่างจัดงาน จะมีการจัดรำบวงสรวงของนางรำจาก 9 ชนเผ่าหรือ 9 ชาติพันธุ์ ที่มาพึ่งพระบรมโพธิสมภารนานนับร้อยปี ซึ่งแต่ละชนเผ่าต่างมีประเพณี วัฒนธรรมเป็นอัตลักษณ์ และเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความเชื่อความศรัทธาต่อพญานาคผู้ปกปักษ์รักษาในลุ่มแม่น้ำโขง ได้พร้อมใจกันแต่งชุดประจำเผ่า โชว์ความโดดเด่นของวัฒนธรรมประเพณีตลอดทั้ง 7 วัน โดยผลัดเปลี่ยนมารำบวงสรวงตามพระธาตุประจำวันเกิด ที่ประดิษฐานในพื้นที่ชนเผ่า
ซึ่งวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมาเป็นวันจันทร์ พระธาตุประจำวันเกิดคือ พระธาตุเรณูนคร อ.เรณูนคร เป็นอำเภอที่มีชนเผ่าผู้ไทหรือผู้ไทยอยู่หนาแน่น ถือเป็น 1 ใน 9 ชนเผ่า ที่ขึ้นชื่อเรื่องวัฒนธรรมประเพณีที่โดดเด่น มีชุดพื้นเมือง รวมถึงภาษาเป็นของตัวเอง มีประวัติบันทึกไว้ว่ามีถิ่นฐานเดิมอยู่ในแคว้นสิบสองจุไทย และอาณาจักรล้านช้าง มีการเคลื่อนย้ายอยพยพข้ามแม่น้ำโขง ปักหลักอยู่ในพื้นที่ อ.เรณูนครเป็นส่วนใหญ่ สิ่งหนึ่งที่ชนเผ่าภูไทได้รับคำร่ำลือว่าเป็นชาติพันธุ์มีสาวสวยประทับใจแก่ผู้พบเห็น เพราะสาวผู้ไทยจะมีผิวพรรณงาม อีกทั้งมีการสืบทอดขนบธรรมเนียมประเพณีมาจากอดีตถึงปัจจุบัน จึงกลายเป็นเสน่ห์ที่ถูกนำไปอยู่ในบทเพลงดังคือหนาวลมที่เรณู และเป็นอำเภอท่องเที่ยวสำคัญของ จ.นครพนม ในเวลาต่อมา
โดยในงานบวงสรวงองค์พญาศรีสัตตนาคราช กลุ่มชาติพันธุ์ภูไทนับเป็น 1 ใน 9 ชนเผ่า ที่ได้ร่วมรำบวงสรวง และโชว์การแสดงฟ้อนรำผู้ไทย ถือเป็นการรำที่มีความสวยงาม เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นที่สืบสานมาจากบรรพบุรุษ รวมถึงสอดแทรกวัฒนธรรมประเพณีของชนเผ่าอยู่ในการละเล่น โดยการร่ายรำจะจับคู่หนุ่มสาว คล้ายการรำเกี้ยวสาว โดยฝ่ายชายจะมีท่วงท่าลีลาที่เลียนแบบมาจากลีลาท่ารำมวย อาทิ ท่าเสือลากหาง จระเข้ฟาดหาง ถวายพระยาแถน เป็นต้น โดยมีกฎสำคัญระหว่างร่ายรำว่า ห้ามถูกเนื้อต้องตัวฝ่ายหญิงเด็ดขาด มิเช่นนั้นฝ่ายชายจะต้องถูกปรับเรียกว่าเสียผี โดยท่ารำดังกล่าวนี้มีเฉพาะในกลุ่มชนผ่าผู้ไทยเท่านั้น ถือเป็นหนึ่งเดียวของ จ.นครพนม นับเป็นการสร้างสีสัน ความสนุกสนาน รวมถึงโชว์ถึงความอ่อนช้อยสวยงามของสาวงามชนเผ่าผู้ไท ที่สร้างความประทับใจให้กับประชาชน นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี