นักท่องเที่ยวสายลุยสุดว้าวชมวิวมุมสูงผานาคีภูลังกาตื่นตาหินพญานาค 9 เศียร สายมูไม่พลาดแห่ขอพรคึกคัก
วันที่ 19 ก.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานจากอุทยานแห่งชาติภูลังกา อ.บ้านแพง จ.นครพนมว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงฤดูฝน ยังคงคึกคักไปด้วยประชาชน นักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่พลาดไม่ได้คืออุทยานแห่งชาติภูลังกาที่ครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ 1.นครพนม 2.บึงกาฬ โดยก่อนนี้เมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ทางอุทยานฯ ได้ปิดการท่องเที่ยวและพักแรมในอุทยานฯประจำปี เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อให้การบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสภาพอากาศในแต่ละฤดูกาล เปิดโอกาสให้ทรัพยากรธรรมชาติได้ฟื้นตัว รวมทั้งมีความปลอดภัยต่อการท่องเที่ยว
โดยทางอุทยานเปิดให้ประชาชนเข้าไปท่องเที่ยว ชื่นชมความสวยงามทางธรรมชาติได้ตามปกติตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2566 ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ กลับมาคึกคักอีกครั้ง มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ สัปดาห์ละหลายพันคน
โดยเฉพาะจุดท่องเที่ยวสำคัญ ถือเป็นอันซีน (unseen) คือถ้ำนาคี รวมถึงผานาคี มีความอัศจรรย์ธรรมชาติทางธรณีวิทยา ที่พื้นผิวของหินเกิดการกัดกร่อนไปตามปรากฏการณ์ซันแครก (sun crack) ทำให้มีลวดลายคล้ายเกล็ดปลาหรือเกล็ดงู ประกอบกับการโค้งตัวของหินทำให้รูปร่างโดยรวมคล้ายกับการขดตัวของงูยักษ์หรือพญานาค มีลักษณะคล้ายเศียรพญานาค รวมถึง 9 จุดด้วยกัน
ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติภูลังกา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตั้งอยู่บ้านนาโพธิ์ หมู่ 3 ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง จ.นครพนม ถือว่ากำลังเป็นที่นิยม มีประชาชน นักท่องเที่ยว เดินทางเข้ามาเที่ยวชม เพื่อชมความสวยงาม และความอัศจรรย์ของหินที่เกิดจากธรรมชาติ บวกกับตำนานเรื่องเล่าเชื่อมโยงกับถ้ำนาคา ทางฝั่ง จ.บึงกาฬ รวมถึงถ้ำนาคี ฝั่ง อ.บ้านแพง จ.นครพนม ที่ตั้งอยู่บนเขาลูกเดียวกัน ทำให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ประชาชน นักท่องเที่ยว ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
สำหรับเส้นทางการท่องเที่ยว เริ่มจากการเดินเท้าแนวผจญภัยจากที่ตั้งสำนักงานอุทยานแห่งชาติภูลังกา ไปตามเส้นทางเลาะป่าเขา ชมความสวยงามทางธรรมชาติ และความอุดมสมบูรณ์ของป่าดิบชื้น อีกทั้งเป็นการทดสอบสภาพร่างกาย เดินป่าแนวแอดเวนเจอร์ (adventure) ระยะทาง ประมาณ 2 กิโลเมตรเศษ ตลอดเส้นทางจะต้องมีการปีนเขา ไต่บันไดสูงชัน สลับไปมา เพื่อชมความอัศจรรย์ของหินที่คล้ายเกล็ดงู และคล้ายเศียรพญานาคถึง 9 จุด ซึ่งนอกจากจะได้ชมความสวยงาม ถ่ายภาพจุดเช็คอินเพื่อเป็นที่ระลึกแล้ว นักท่องเที่ยวสายมูยังมีโอกาสขอพรตามความเชื่อความศรัทธา เนื่องจากพื้นที่เทือกเขาภูลังกา มีตำนานเรื่องเล่า ว่า เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และเป็นเมืองเมืองลับแล เชื่อกันว่าเป็นที่อาศัยของบรรดาพญานาค และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่สำคัญเป็นเส้นทางปฏิบัติธรรมของพระเกจิอาจารย์สายวิปัสสนา กรรมฐานชื่อดังหลายรูป อาทิ หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่ชา หลวงปู่โง่น ฯลฯ
นอกจากนี้ประชาชน นักท่องเที่ยว ยังได้เดินผจญภัยท่ามกลางแมกไม้น้อยใหญ่ โดยตลอดทางเดินก็ได้ชมความสวยงามของหินภูเขา เศียรพญานาค ถ้ำนาคี น้ำตกหินบนผาสูง ก็ยังจะได้ชื่นชมความสวยงามบนชะง่อนหินของผานาคี หากยืนถ่ายภาพมุมสูงยิ่งเพิ่มความสวยงาม โดยบริเวณนี้สามารถชื่นชมธรรมชาติ เทือกเขาภูลังกาแบบ 360 องศา รวมถึงมองเห็นแนวลำน้ำโขงฝั่งลาวสวยงาม ตื่นตา จึงกลายเป็นจุดเช็คอิน และจุดเซลฟี่เป็นที่ระลึกกันคึกคัก ถือว่าเป็นจุดสูงสุดที่ประชาชน นักท่องเที่ยว จะต้องขึ้นไปพิชิต หากนัดท่องเที่ยวมีโอกาสไปเที่ยวถ้ำนาคี จะต้องไม่พลาดไปยังจุดชมวิวผานาคีแห่งนี้แน่นอน
นายประทีป ไชยภูวงค์ หัวหน้าฝ่ายบริหารอุทยานแห่งชาติภูลังกา อ.บ้านแพง จ.นครพนม เปิดเผยว่า สำหรับถ้ำนาคีถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ต้องเดินทางลุยป่าจากที่ตั้งสำนักงานอุทยานแห่งชาติภูลังกา ขึ้นไปบนเขาประมาณ 2 กิโลเมตร โดยมีการค้นพบหินภูเขาที่มีรูปร่างคล้ายเกล็ดงู ไม่แตกต่างจากถ้ำนาคา ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่อยู่ทางฝั่ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ แต่เป็นเทือกเขาลูกเดียวกัน สามารถเดินบนยอดเขาไปชมความงามของสองถ้ำได้ มีระยะทางห่างกันราว 7 กิโลเมตร ส่วนไฮไลท์ของถ้ำนาคี นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวชม จะสามารถชื่นชมความสวยงามของถ้ำนาคี ที่มีหินคล้ายหัวพญานาค นับได้มีถึง 9 เศียร นอกจากนี้ยังมีหินที่คล้ายงูจงอางแผ่พังพาน และมีหินเหมือนเกล็ดงูขนาดใหญ่ขดคดเคี้ยวไปมา จึงได้ตั้งชื่อถ้ำแห่งนี้ว่าถ้ำนาคี ที่สำคัญยังมีความสวยงามไม่แพ้ถ้ำนาคา
อีกทั้งยังเชื่อมโยงกับตำนานเรื่องเล่าความเชื่อของถ้ำทั้งสองแห่งนี้ คือพญานาคหรืองูยักษ์ที่ถูกสาปให้กลายเป็นหิน เพราะมีรูปร่างลักษณะเป็นงูยักษ์มีเกล็ดหินสวยงามลงตัว คดเคี้ยวไปตามหุบเขา โดยนักท่องเที่ยวจะได้ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติประมาณ 9 จุด ได้แก่ วังนาคี ผานาคี หินสาลึคึ ลานธรรม หินพญาศรีสัตตนาคราช ไข่พญานาค หินโลมา เจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ และเศียรพญานาค ตลอดเส้นทางยังได้ชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติดอกไม้ป่านานาพันธุ์
ทั้งนี้ยังมีจุดเช็คอินที่สำคัญ คือ ผานาคี นับเป็นจุดชมวิวสวย ที่สามารถชื่นชมความสวยงามของเทือกเขาภูลังกาได้ 360 องศา สามารถมองเห็นแม่น้ำโขงและป่าเขาที่ล้อมรอบแบบพาโนรามา ยิ่งในช่วงฤดูหนาวเหมาะแก่การท่องเที่ยวชมความสวยงามทางธรรมชาติเป็นอย่างมาก สำหรับการเข้าท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่เก็บค่าบริการ คนไทยคนละ 20 บาท ต่างชาติคนละ 50 บาท ส่วนไกด์อาสาแล้วแต่ความสมัครใจของนักท่องเที่ยวจะสนับสนุน ในช่วงนี้ถือว่าคึกคักเป็นอย่างมาก สามารถเข้าชมได้ตลอดโดยไม่ต้องจองล่วงหน้า - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี