วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
สกู๊ปแนวหน้า : ‘ครัวเรือน’ไทยไม่เหมือนเดิม  ถึงครา‘รัฐ-สังคม’ปรับกลไกรับ

สกู๊ปแนวหน้า : ‘ครัวเรือน’ไทยไม่เหมือนเดิม ถึงครา‘รัฐ-สังคม’ปรับกลไกรับ

วันอาทิตย์ ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2566, 10.18 น.
Tag : สกู๊ปแนวหน้า
  •  

“ครัวเรือน” หรือ “ครอบครัว” หน่วยย่อยเล็กที่สุดแต่เป็นพื้นที่ที่มนุษย์ใช้ชีวิตอยู่ด้วยมากที่สุด ซึ่งนอกจากครอบครัวที่เป็นภาพจำหลักของสังคม ที่มีพ่อ-แม่-ลูก หรือที่เป็นครอบครัวขยายที่มีปู่ย่าตายายรวมอยู่ด้วย ปัจจุบันยังมีครัวเรือนรูปแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นหลายประเภท ดังที่ รศ.ดร.ศุทธิดา ชวนวัน ประธานหลักสูตร ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิจัยประชากรและสังคม (หลักสูตรไทย) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล บอกเล่าในการบรรยายหัวข้อ “รูปแบบการอยู่อาศัยในแต่ละช่วงชีวิตของประชากรไทย” อันเป็นส่วนหนึ่งของงานประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 17 “ประชากรและสังคม 2566 หลากมิติ ในหนึ่งชั่วชีวิต” เมื่อเร็วๆ นี้

เรื่องเล่าดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของ “โครงการวิจัยประเทศไทยในอนาคต” โดยในทางประชากรศาสตร์ จำนวนและความสัมพันธ์ของบุคคลที่อยู่ร่วมกันในครัวเรือน เรียกว่า “รูปแบบการอยู่อาศัย (Living Arrangement)” หรือองค์ประกอบของครัวเรือน รูปแบบการอยู่อาศัยมีความสำคัญต่อบทบาทในการสนับสนุนซึ่งกันและกัน และการสนับสนุนข้ามรุ่นอายุ (Inter-generational Support) ภายในครัวเรือน ซึ่งเป็นทรัพยากรเชิงครอบครัว (Familial Resources) ที่สำคัญ


“ตอนนี้เราอยู่กับใคร? นิยามของคำว่าอยู่กับใคร หรือในทางประชากรศาสตร์เรียกว่า Living Arrangement หรือ รูปแบบการอยู่อาศัย ในทางประชากรเราพูดถึงจำนวนและลักษณะของความสัมพันธ์ในครัวเรือนว่าอยู่กับใครบ้าง ซึ่งบางคนอาจอยู่คนเดียว อยู่ 2-3 คน เป็นสามี-ภรรยา อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ หรืออยู่กับสัตว์เลี้ยงก็อาจเป็นหนึ่งในครอบครัวที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต ซึ่งเรื่องของการอยู่อาศัยนี้เองก็จะมีความสำคัญต่อเรื่องของการสนับสนุนหรือพึ่งพากันในครัวเรือน ถ้าเรามีคนอาศัยอยู่ด้วย” รศ.ดร.ศุทธิดา กล่าว

เมื่อแบ่งตามช่วงวัย พบว่า “วัยเด็ก (อายุแรกเกิด-14 ปี)” เป็นช่วงวัยที่มีพัฒนาการทางกายภาพและจิตใจ มีความเสี่ยงต่อพฤติกรรมต่างๆ วัยนี้มักอยู่กับพ่อแม่ อยู่กับพ่อหรือแม่ในลักษณะครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว หรืออยู่กับคนอื่น “วัยรุ่นจนถึงวัยทำงาน (อายุ 15-59 ปี)” เป็นตั้งแต่วัยเรียนจนถึงวัยทำงานสร้างครอบครัวมีรูปแบบชีวิตที่หลากหลาย ตั้งแต่อยู่กับพ่อแม่ อยู่กับเพื่อนอยู่กับสามี-ภรรยา (อาจมีหรือไม่มีลูก) อยู่คนเดียว ฯลฯ และ “วัยสูงอายุ (อาบุ 60 ปีขึ้นไป)” เป็นวัยเกษียณ ต้องการการดูแล การสนับสนุนด้านการเงิน อาจอยู่คนเดียว อยู่กับลูกหลาน ฯลฯ

งานวิจัยนี้ทำการศึกษาสถานการณ์รูปแบบการอยู่อาศัยในแต่ละช่วงชีวิตของประชากรไทยที่เปลี่ยนแปลงไป มีกลุ่มตัวอย่างเป็นประชากรอายุตั้งแต่ 15 ปี ไปจนถึงมากกว่า 80 ปี(มีข้อจำกัดที่ทำให้ไม่สามารถศึกษาประชากรวัยเด็กได้เพราะฐานข้อมูลที่ใช้ไม่ได้แบ่งกลุ่มไว้ชัดเจน) ใน 2 ช่วงเวลา เปรียบเทียบกับช่วงอดีตคือ 1.สำรวจภาวะการทำงานของประชากร พ.ศ. 2553 สำหรับวัยทำงาน กับ 2.สำรวจประชากรสูงวัยประเทศไทย ปี 2554 สำหรับวัยสูงอายุ ส่วนปัจจุบันคือปี 2566 ใช้วิธีการฉายภาพประชากรโดยวิธีอัตราส่วน (Ratio Method)

มีการแบ่ง “รูปแบบครัวเรือน” ในการศึกษาจำนวน 6 รูปแบบ คือ 1.ครัวเรือนคนเดียว อยู่ตามลำพัง 2.ครัวเรือนสามี-ภรรยา อยู่กับคู่สมรสแต่ไม่มีบุตร 3.ครัวเรือนพ่อ-แม่-ลูก อยู่กับคู่สมรสและมีบุตร 4.ครัวเรือน 3 รุ่นอายุ มีทั้งเด็ก วัยทำงานและผู้สูงอายุ (บุตร-พ่อแม่-ปู่ย่าตายาย) 5.ครัวเรือนเลี้ยงเดี่ยว พ่อหรือแม่เลี้ยงดูบุตรเพียงลำพัง และ 6.ครัวเรือนข้ามรุ่น หมายถึงพ่อแม่ไม่ได้เลี้ยงดูบุตรเอง แต่ให้ผู้สูงอายุที่เป็นปู่ย่าตายายเลี้ยงหลาน

“การคาดประมาณสัดส่วนครัวเรือนไทยระหว่างปี 2563-2583” พบว่า ปัจจุบันครัวเรือนที่มีพ่อ-แม่-ลูก มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ครัวเรือน 3 รุ่นอายุ ครัวเรือนเลี้ยงเดี่ยวครัวเรือนข้ามรุ่น และครัวเรือนคนเดียว มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่หากมองอนาคตอีกประมาณ 20 ปีข้างหน้า ครัวเรือนคนเดียว และครัวเรือนที่มีเพียงสามี/ภรรยาอยู่กันโดยไม่มีบุตร จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งหากตีความอีกมุมหนึ่ง นั่นหมายถึงเวลานั้นจำนวนผู้สูงอายุที่อยู่ลำพัง หรืออยู่กับคู่สมรส (ปู่-ย่า หรือ ตา-ยาย อยู่ด้วยกันเพียง 2 คน) ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วย

“ในปี 2566 จะพบว่าประชากรในครัวเรือนพ่อ-แม่-ลูก เราจะพบว่าในแต่ละช่วงวัยมีจำนวนมากที่สุดโดยเฉพาะในวัยทำงาน ช่วง 40-49 ปี ก็อาจจะเป็นช่วงกำลังสร้างครอบครัว กำลังมีลูก ก็ทำให้ในช่วงนี้มีจำนวนครัวเรือนพ่อ-แม่-ลูก อยู่ในจำนวนมากที่สุด สำหรับประชากรในครัวเรือนสามี-ภรรยาโดยเฉพาะในช่วง 30-59 ปี ก็จะมีจำนวนเพิ่มสูง แล้วก็จะลดลงเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ เช่นเดียวกับประชากรในครัวเรือนคนเดียวและครัวเรือนข้ามรุ่น

สำหรับประชากรวัยทำงานในครัวเรือนเลี้ยงเดี่ยว จะเห็นว่ามีลักษณะขึ้นๆ ลงๆ สำหรับในครัวเรือน 3 รุ่นอายุ ก็คือจะมี 3 Generations อยู่ในครัวเรือน เราจะเห็นว่าเริ่มมีจำนวนเพิ่มขึ้นหลังอายุ 40 ปีขึ้นไป แล้วพอเข้าสู่วัยสูงอายุจะมีแนวโน้มลดลง อันนี้ฉายภาพให้เห็นในปีปัจจุบัน ปี 2566 รูปแบบการอยู่อาศัยของประชากรไทยเป็นอย่างไร” รศ.ดร.ศุทธิดา ระบุ

ผลการศึกษานำไปสู่ข้อเสนอแนะ 4 ประการ 1.ประชากรในครัวเรือนคนเดียวและครัวเรือนสามี-ภรรยา มีความเปราะบางด้านการไม่มีผู้ดูแล ดังนั้นควรวางแผนทั้งด้านสุขภาพ การเงิน ที่อยู่อาศัย ฯลฯ ขณะที่ภาครัฐและหน่วยงานท้องถิ่นควรเตรียมการสนับสนุนที่จำเป็น 2.ผลักดันให้เกิดกลไกทางสังคมเพื่อการสนับสนุนด้านจิตใจ และความช่วยเหลือการดูแลสมาชิกในครอบครัวของประชากรอายุ 50-59 ปี และอายุ 60-69 ปี

3.ผู้สูงอายุในครัวเรือนข้ามรุ่นจะมีความเปราะบางและขาดทรัพยากรในการดูแลหลาน จึงควรได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษในด้านองค์ความรู้ในการเลี้ยงดูเด็กเล็กและวัยรุ่น และ 4.ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรให้ความสำคัญและสนับสนุนนโยบายเรื่อง Aging in Place เพื่อออกแบบและพัฒนาชุดบริการทางสังคมที่จำเป็น โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ไม่มีลูกหลาน ไม่มีคนดูแล

“ผู้สูงอายุที่ไม่มีลูกหลานหรือไม่มีคนดูแล การที่จะคาดหวังให้ครอบครัวดูแล เราอาจจะต้องเปลี่ยน Mindset (วิธีคิด) ว่าอาจจะต้องเป็นชุมชนมาดูแลคนกลุ่มนี้หรือเปล่า?” รศ.ดร.ศุทธิดาฝากทิ้งท้าย


SCOOP@NAEWNA.COM
 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สกู๊ปแนวหน้า : ‘โครงสร้างประชากร’ ระเบิดเวลาสังคมไทย สกู๊ปแนวหน้า : ‘โครงสร้างประชากร’ ระเบิดเวลาสังคมไทย
  • สกู๊ปแนวหน้า : ลดความสูญเสียบนถนน เป้าที่ท้าทายของ‘ปราจีนบุรี’ สกู๊ปแนวหน้า : ลดความสูญเสียบนถนน เป้าที่ท้าทายของ‘ปราจีนบุรี’
  • สกู๊ปแนวหน้า : ‘เหลื่อมล้ำ’ด้านการศึกษา ปัจจัยมากกว่าระบบโรงเรียน สกู๊ปแนวหน้า : ‘เหลื่อมล้ำ’ด้านการศึกษา ปัจจัยมากกว่าระบบโรงเรียน
  • สกู๊ปแนวหน้า : ‘ลมแดด’ภัยหน้าร้อน ‘ไรเดอร์’อีกอาชีพเสี่ยง สกู๊ปแนวหน้า : ‘ลมแดด’ภัยหน้าร้อน ‘ไรเดอร์’อีกอาชีพเสี่ยง
  • สกู๊ปแนวหน้า : ปั้นครีเอเตอร์ไทยสู่ผู้ประกอบการ เสริมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน สกู๊ปแนวหน้า : ปั้นครีเอเตอร์ไทยสู่ผู้ประกอบการ เสริมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
  • สกู๊ปแนวหน้า : เส้นทางสู่ความยั่งยืน  อุตสาหกรรมการบินของไทย สกู๊ปแนวหน้า : เส้นทางสู่ความยั่งยืน อุตสาหกรรมการบินของไทย
  •  

Breaking News

'DSI'ลงนามด่วนถึง'ผบ.ตร.-ปลัด มท.' ร่วมมือสอบสวนเอาผิดฟอกเงินคดีฮั้วเลือก สว.

'รมว.ยุติธรรม'เป็น ปธ.มอบเงินเยียวยาให้เหยื่อตึก สตง.ถล่ม

ตลาดสี่มุมเมืองจัดงานเอ็กซ์โป ขายทุเรียนเริ่มต้นพูละ 5 บาท แจกทุเรียนกว่า 200 ลูก

ตัวมัมพันธุ์ใหม่!!! ได้ทีกระทืบซ้ำ‘สายสีน้ำเงิน’ สอนมารยาททางการเมือง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved