ไปเที่ยวเบตงต้องกิน "กล้วยทอดเจ๊หยง" ตำนานความอร่อยของชอบชาวมาเลย์ เผยถึงน้ำตาลจะขึ้นราคาแต่ "เจ๊หยง" ขายราคาเดิม

"กล้วยทอดเจ๊หยง" เป็นร้านขายกล้วยทอดร้านเด็ดที่ได้รับการกล่าวขานมานานกว่า 36 ปีในเรื่องของรสชาติที่อร่อย หวานน้อย กรอบ หอม มัน เป็นที่ติดอกติดใจของคนที่ได้ชิมลิ้มลอง ร้านกล้วยทอด เจ๊หยง ในตำนานแห่งนี้ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเบตง บนถนนสุขยางค์ แถวสี่แยกหอนาฬิกา ติดกับบ้านอดีตนายกเทศมนตรีเมืองเบตง คนในพื้นที่เรียกว่า "ร้านกล้วยทอดข้างบ้านนายกฯ" 

ใครที่ผ่านไปผ่านมาจะเห็น เจ๊หยง ในวัย 70 ปี ยืนขายกล้วยทอดเป็นเอกลักษณ์ เรียกว่าเห็นมาแต่ไกลและเห็นมายาวนานกว่า 36 ปีแล้ว ร้านกล้วยทอดเจ๊หยง ต้องบอกว่า เจ๊หยง แกใส่ใจและทำด้วยใจเป็นกล้วยทอดจากความร่วมแรงร่วมใจของคนในครอบครัวเล็กๆ

"เจ๊หยง" เป็นผู้ที่ออกมาขายเองหน้าบ้านทุกวัน และลงมือทอดเองกับมือ ลูกค้าจะพบเจอกับ เจ๊หยง ทุกครั้งจะเห็นแกยืนขายอยู่ด้านหน้าร้านทุกวัน และคอยส่งยิ้มหวานอย่างเป็นกันเองคอย ทักทายลูกค้าทั้งชาวไทยและมาเลย์ อย่างเป็นมิตร

"เจ๊หยง" นับว่าเป็นมือฉมังด้านการทอดกล้วยและ เป็นผู้ควบคุมความร้อนของกระทะกับน้ำมัน เจ๊หยง บอกถึงเคล็ดลับความอร่อยว่า กล้วยที่ใช้ทอดจะใช้กล้วยนางยา (กล้วยนางพญา) เพราะจะมีรสชาติหอม หวาน มัน อร่อย ตัวเนื้อกล้วยจะนิ่ม ๆ เพราะใช้กล้วยนางยาที่สุกงอม นำมาทอดเคลือบด้วยแป้งข้าวเจ้าและแป้งหมี่ทอด โดยมีส่วนผสมเป็นกะทิมะพร้าว คั้นน้ำกะทิด้วยมือ ทำกันสดๆ ทุกวันและมีส่วนผสมของไข่ไก่ น้ำตาล เกลือ ใส่น้ำปูนขาวนิดหน่อย เพื่อให้ตัวกล้วยแข็ง กรอบ ไม่อ่อนนิ่มจนเกินไป ด้านนอกมีงาโรย “เคล็ดลับก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากที่อื่น ที่เพิ่มเติมคือความพิถีพิถัน การควบคุมความร้อนของน้ำมันในการทอดให้กรอบนอกนุ่มใน รวมถึงความใส่ใจในการปรุงแป้ง การควบคุมความสะอาด ที่สำคัญน้ำมันต้องใส ต้องเหลืองทุกครั้งที่ทอด

เจ๊หยง บอกอีกว่า กล้วยทอดของทางร้านจะทอดกรอบๆ เลย รสชาติไม่หวานมากนัก จึงเป็นอีกหนึ่งเมนูของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย เมื่อมาท่องเที่ยวเมืองเบตง หากมาเป็นรถบัสก็ต้องมาเหมาจองยกกระทะกันเลยทีเดียว ด้วยความอร่อยที่รสชาติไม่เหมือนของในมาเลย์ เพราะกล้วยทอดมาเลย์จะใช้กล้วยน้ำว้า รสออกจืดๆ แถมมีเม็ดมากด้วย และไม่ใส่มะพร้าว มีแต่แป้งข้าวเจ้าอย่างเดียว ทำให้ไม่ชวนกิน“ไม่เหมือนกล้วยทอดของไทยเราอร่อยกว่า ใช้กล้วยนางยา สุกจนงอม แล้วนำมาทอด เจ๊หยง บอกว่า ส่วนราคาราคากล้วยทอดขาย อยู่ที่ 7 ชิ้น 20 บาท 

แม้ปัจจุบันราคาของวัตถุดิบและส่วนผสมต่างๆ จะทะยานขึ้น รวมทั้งแก๊ส น้ำตาล โดยเฉพาะน้ำตาล ล่าสุด ที่มีการปรับราคาขึ้นใหม่ โดยน้ำตาลทรายขาว จากเดิม กก. ละ 19 บาท เป็นราคา กก.ละ 23 บาทน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ จากเดิม กก.ละ 20 บาท เป็น กก. ละ 24 บาท ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.66 ที่ผ่านมา

ถามว่ากระทบในการขายหรือเปล่า เจ๊หยง บอกว่า กระทบแน่นอนและไม่ใช่เฉพาะร้านเจ๊ นะ ร้านที่ใช้น้ำตาล เป็นวัตถุหลักต่างก็ได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้าโดยเฉพาะที่ร้านเห็รนได้ชัด เพราะที่ร้านใช้น้ำตาลในแต่ละวันตกวันละ 2 กก.ต่อวัน เมื่อก่อนซื้อเป็นกระสอบ 50 กก.ราคาอยู่ที่กระสอบละ 1,060 บาท แต่ตอนนี้ปรับราคาขึ้นเป็น 1,390 บาทต่อ 1 กระสอบขนาด 50 กก.เห็นว่าจะปรับขึ้นอีก 

อย่างไรก็ตาม "เจ๊หยง" บอกว่าก็ยังคงขายราคาเดิมหากจะไปเพิ่มราคาก็เห็นใจลูกค้าที่ต้องซื้อแพงขึ้น อยากให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาเรื่องปากท้องและราคาสินค้าให้สมเหตุสมผลกับสถานการณ์ปัจจุบัน

เจ๊หยง บอกอีกว่า ที่ร้านไม่ได้มีแค่เมนูกล้วยทอด แต่ยังมีเมนูอื่นด้วย อย่าง มันทอด และฟักทองทอด ที่อร่อยไม่แพ้กัน ลูกค้าชาวมาเลย์ขาประจำร้านเจ๊หยง บอกว่า เวลาเดินทางเข้ามาเที่ยวที่ อ.เบตง ก็จะแวะมาซื้อกล้วยทอดเจ๊หยงเป็นประจำเพราะกล้วยทอดเจ๊หยง มีรสชาติแตกต่างจากในประเทศเขา เพราะมีแต่แป้ง ส่วนรสชาติกล้วยทอดเจ๊หยงที่เบตงฝีมือในการทำจัดว่าอยู่ในขั้นเทพ แถมรสชาติเด็ดไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน แม้จะซื้อทิ้งไว้นานกว่า1- 2 ชั่วโมง ก็ยังกรอบอยู่ ไม่นิ่ม เหมือนกล้วยทอดที่อื่น ด้วยสูตรเฉพาะของที่ร้าน กินกี่ครั้งก็ยังกรอบนอก นุ่มใน หวานกลมกล่อมกำลังดี กล้วยที่นำมาทอดก็ไม่นิ่มไม่แข็งจนเกินไป ขายดีจนต้องเข้าคิวรอซื้อกันเลยทีเดียว 

ในแต่ละวันหากมองมาที่ร้าน เจ๊หยง เห็นหน้าร้านไม่มีลูกค้าขอบอกว่า ไม่ใช่ไม่มีลูกค้า แต่ลูกค้าจะมาสั่งเอาไว้แล้วค่อยเวียนมารับอีกครั้ง  เพราะทอดเสร็จก็หมด ซึ่งเมือก่อนตอนสามียังมีชีวิตอยู่ทอดในแต่ละวันไม่ต่ำกว่า 10-15 กระทะในแต่ละวัน แต่ปัจจุบันทำคนเดียว บางครั้งก็มีน้องสาวมาช่วย จนปัจจุบันทอดอยู่วันละ 5 – 6 กระทะ หรือไม่ก็ ทำจนกล้วยหมด คือ กล้วยทอดเจ๊หยง นับเป็นสุดยอดความอร่อยขั้นเทพจริงๆเพราะในวันนี้ยังมีลูกค้าชาวมาเลย์ ขาประจำมาสั่งแถมยัง ชมไม่ขาดปาก - 003