วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
ตรวจสอบสะพานมอญพบชำรุดหลายจุดเตรียมซ่อมแซมครั้งใหญ่แต่ติดปัญหางบ-ไม้

ตรวจสอบสะพานมอญพบชำรุดหลายจุดเตรียมซ่อมแซมครั้งใหญ่แต่ติดปัญหางบ-ไม้

วันจันทร์ ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566, 19.52 น.
Tag : กาญจนบุรี สะพานมอญ สะพานไม้ สังขละบุรี
  •  

นายอำเภอสังขละบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เทศบาลตำบลวังกะ ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้าฯ ตชด.134 เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ลงตรวจสอบความแข็งแรงสะพานมอญพบชำรุดหลายจุด เช่น พื้นที่ปูเป็นทางเดิน เสา คาน รวมทั้งแกงแนงที่เป็นส่วนสำคัญในการยึดสะพาน จำเป็นทำการซ่อมใหญ่ แต่ติดปัญหาเรื่องงบประมาณและไม้ที่จะนำมาซ่อมจะใช้วิธีควบคุมมจำนวนนักท่องเที่ยวบนสะพาน และเร่งหาเจ้าภาพสร้างสะพานลูกบวบเพื่อลดปริมาณนักท่องเที่ยวบนสะพานฯในช่วงปีใหม่


เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (20 พ.ย.66) นายสุทธิพร ศิวเวทพิกุล นายอำเภอสังขละบุรี พระมหาสุชาติ สิริปัญโญ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม นำนายภักดี หาญพัฒนะนุสรณ์ วิศวกรโยธาชำนาญพิเศษ สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง สำนักงานโยธาธิการ จังหวัดกาญจนบุรี ผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลตำบลวังกะ ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า ตชด.134 ลงตรวจสอบสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ หลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 4.0 ริกเตอร์ เมื่อเวลา 03.07 น.ของเช้าวันที่ 19 พฤศจิกายน 2566 ในพื้นที่ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

การตรวจสอบเริ่มจากการลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพเสาสะพาน รอยต่อต่างๆของสะพาน ไม้แกงแนงที่เป็นส่วนสำคัญในการยึดโครงสร้าง (เสา) สะพานและโครงสร้างอื่นๆของสะพานฯ รวมทั้งตะปูและน็อตต่างๆ โดยเริ่มจากฝั่งชุมชนบ้านวังกะ ม.2 ตำบลหนองลู ก่อนจะเดินขึ้นสะพาน ตรวจสอบคานไม้ และไม้พื้นที่ปูเป็นทางเดิน รวมทั้งราวสะพาน ต่อด้วยการตรวจสอบเสาสะพาน และโครงสร้างด้านล่างของสะพานในฝั่งเทศบาลตำบลวังกะ ม.3 ตำบลหนองลู ซึ่งจากการตรวจสอบในครั้งนี้พบว่า เสาสะพานส่วนใหญ่เริ่มชำรุด บางต้นเริ่มผุ ตามการเวลาเนื่องจากต้องผ่านการจมอยู่ใต้น้ำในฤดูฝน และโดนแดดแผดเผา และน้ำฝนทำลาย ในช่วงที่โผล่พ้นน้ำ ตลอดช่วงระยะเวลากว่า 10 ปี ที่มีการซ่อมแซมครั้งใหญ่ ก่อนจะโดนน้ำป่าพัดขาด 

ขณะที่อุปกรณ์ยึดที่เป็นตะปูและน็อต ขนาดต่างๆ เริ่มมีการขึ้นสนิมและผุกร่อนตามกาลเวลา ไม้แกงแนงซึ่งเป็นส่วนสำคัญเริ่มมีร่อยรอยการแตกและหักไปบางส่วน  ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความแข็งแรงของโครงสร้างสะพาน ขณะที่ในส่วนของพื้นไม้ที่ปูเป็นทางเดินพบว่าเริ่มมีการผุและหายไปในบางช่วง ขณะตะปูที่ใช้ตอกยึดพื้นสะพานเริ่มสั่นคลอน และหลุดในบางช่วง ซึ่งเป็นไปตามสภาพการใช้งานที่ผ่านมากว่า 10 ปี  ซึ่งหากต้องมีการซ่อมจำเป็นต้องทำการซ่อมใหญ่(ซ้อมทั้งหมด)ซึ่งต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ขณะที่ปัจจุบันวัดวังก์วิเวการาม ซึ่งมีสถานะเป็นเจ้าของยังไม่มีงบประมาณดำเนินการ รวมทั้งแหล่งไม้ที่จะนำมาซ่อมสะพานซึ่งต้องใช้ไม้จำนวนมหาศาลก็เป็นอีกปัญหาที่ท้าทาย

ภายหลังการตรวจสอบนายภักดี หาญพัฒนะนุสรณ์ วิศวกรโยธาชำนาญการ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าเดิมทีสะพานฯถูกสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์สำหรับการสัญจร ซึ่งในอดีตจำนวนผู้ใช้สัญจรไม่ได้มากนัก ขณะที่ปัจจุบันสะพานกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นมาวันละนับร้อยคน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะเพิ่มจำนวนนับพันคนต่อวัน และในช่วงเวลาดังกล่าวทุกคนจะมายืนออกันอยู่บนสะพาน ทำให้สะพานต้องรองรับน้ำหนักจำนวนมา เมื่อเวลาผ่านไปจึงเริ่มส่งผลต่อโครงสร้างของสะพานอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยจึงจำเป็นต้องมีการควบคุมจำนวนคุณที่จะมาเดินหรือยืนอยู่บนสะพาน ซึ่งจำนวนที่เหมาะสมอาจจะอยู่ที่400 คน หรือหากเป็นไปได้ก็ควรมีจำนวนที่น้อยกว่า ส่วนโครงสร้างสะพานที่จำเป็นต้องเปลี่ยนก็เริ่มตั้งแต่ในส่วนของเสาสะพานทั้งหมด

ขณะที่นายสุทธิพร ศิวเวทพิกุล นายอำเภอสังขละบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าอำเภอสังขละบุรีจำเป็นต้องใช้มาตรการควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะลงเดินบนสะพานฯในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง โดยจะจัดระเบียบให้ลงเดินเป็นรอบ รอบละไม่เกิน 400 คนเพื่อความปลอดภัย โดยจะดำเนินการร่วมกับฝ่ายตำรวจ ทหาร เทศบาลตำบลวังกะ ฝ่ายปกครอง ที่สำคัญจะขอความช่วยเหลือจากเทศบาลตำบลวังกะจัดสรรงบประมาณในการสร้างสะพานลูกบวบขึ้นมา เพื่อให้เป็นทางเลือกและช่วยลดความแออัดของนักท่องเที่ยวบนสะพาน ซึ่งจะพยายามทำให้ทันใช้งานในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ซึ่งหากทำได้จะกลายเป็นจุดขายทางการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมา ซึ่งในอดีตทางวัดวังก์วิเวการามเคยสร้างสะพานลูกบวบขึ้นมาเพื่อลดปัญหาการสัญจรให้กับประชาชนในพื้นที่ในช่วงการซ่อมสะพาน จนกลายเป็นที่สนใจดึงดูดนักท่องให้เดินทางมาท่องเที่ยวสะพานฯ จนกลายเป็นกระแสการเที่ยวสะพานมอญฯมาจนถึงทุกวันนี้

สำหรับสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ (สะพานมอญ) เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยมีความยาว 850 เมตร และป็นสะพานไม้ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็งในประเทศพม่าใช้ข้ามแม่น้ำซองกาเลียสร้างขึ้นโดยดำริของหลวงพ่ออุตตมะ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ระหว่าง พ.ศ.2529 - พ.ศ.2530 เพื่อให้คนไทย กระเหรี่ยงและมอญได้สัญจรไปมาหาสู่กัน นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเยี่ยมชมสะพานเพื่อชมแสงสีทองของพระอาทิตย์ยามเช้ารวมถึงวิถีชีวิตของชาวไทยและชาวมอญ

ต่อมาในเวลา 18.30 น.วันที่ 28 กรกฏาคม 2556 เกิดน้ำป่าไหลหลากจากแม่น้ำซองกาเลีย พัดพาขยะจำนวนมากมาสะสมบริเวณสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ ที่เชื่อมระหว่างพื้นที่หมู่ 2 กับหมู่ 3 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ความแรงของน้ำได้พัดจนสะพานขาด เป็นระยะทางยาวกว่า 30 เมตร

ก่อนที่จะมีการดำเนินการซ่อมโดยชาวบ้านและทหารช่าง จากกองทหารราบที่ 9 จนแล้วเสร็จ และเปิดใช้งานอีกครั้งเมื่อ 18 ต.ค.2557 ปัจจุบันสะพานไม้อุตตมานสรณ์ หรือสะพานมอญ  กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอสังขละบุรีที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่ปีละหลายร้อยล้าน - 003

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สุดทึ่ง! สาขาวิชาเทคโนโลยีการอาหาร ม.มหิดล ค้นพบคุณค่าเปปไทด์จากโปรตีนแมลงจิ้งหรีด สุดทึ่ง! สาขาวิชาเทคโนโลยีการอาหาร ม.มหิดล ค้นพบคุณค่าเปปไทด์จากโปรตีนแมลงจิ้งหรีด
  • \'หนุ่มชุมพร\' สุดทึ่งใช้ \'สมุนไพรหมอเณร\' รักษาเบาหวานหายโดยไม่ต้องตัดขา 'หนุ่มชุมพร' สุดทึ่งใช้ 'สมุนไพรหมอเณร' รักษาเบาหวานหายโดยไม่ต้องตัดขา
  • ฝุ่นจากการเผาป่าเกิดจากไหน? แก้ยังไง? \'รศ.ดร.เอริกา พฤฒิกิตติ\' ม.มหิดลวิทยาเขตกาญจน์มีคำตอบ? ฝุ่นจากการเผาป่าเกิดจากไหน? แก้ยังไง? 'รศ.ดร.เอริกา พฤฒิกิตติ' ม.มหิดลวิทยาเขตกาญจน์มีคำตอบ?
  • ระทึก! สาวเหยียบคันเร่งหวังให้พ้นช้างป่าหากินริมทางช้างตกใจหันหลังกลับวิ่งพุ่งใส่รถ ระทึก! สาวเหยียบคันเร่งหวังให้พ้นช้างป่าหากินริมทางช้างตกใจหันหลังกลับวิ่งพุ่งใส่รถ
  • เผยผลการวิจัยค้นพบกลไกการปรับปรุงการปลูกข้าวภายใต้สภาวะภัยแล้ง เผยผลการวิจัยค้นพบกลไกการปรับปรุงการปลูกข้าวภายใต้สภาวะภัยแล้ง
  • พบช้างป่าแม่ลูกบาดเจ็บ จนท.อุทยานทองผาภูมิ-สัตวแพทย์ติดตามรักษาใกล้ชิด พบช้างป่าแม่ลูกบาดเจ็บ จนท.อุทยานทองผาภูมิ-สัตวแพทย์ติดตามรักษาใกล้ชิด
  •  

Breaking News

'รมว.ยุติธรรม'เป็น ปธ.มอบเงินเยียวยาให้เหยื่อตึก สตง.ถล่ม

ตลาดสี่มุมเมืองจัดงานเอ็กซ์โป ขายทุเรียนเริ่มต้นพูละ 5 บาท แจกทุเรียนกว่า 200 ลูก

ตัวมัมพันธุ์ใหม่!!! ได้ทีกระทืบซ้ำ‘สายสีน้ำเงิน’ สอนมารยาททางการเมือง

'ไพบูลย์'เชื่อมติแพทยสภา เป็นหลักฐานสําคัญ ชี้ชะตา'ทักษิณ' 13 มิ.ย.วันศาลไต่สวน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved