เมื่อเร็วๆ นี้ ณ ห้องโสตทัศนศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาปัตตานี จังหวัดปัตตานี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน จัดกิจกรรมสัญจรลงพื้นที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาต้นแบบยกระดับสู่สถานศึกษาลดปัจจัยเสี่ยงเพิ่มปัจจัยบวก
ภายใต้โครงการพัฒนาเครือข่ายและหนุนเสริมศักยภาพครูและแกนนำนักศึกษาอาชีวศึกษา ป้องกันปัจจัยเสี่ยง (เหล้า บุหรี่) ในสถานศึกษา ระยะที่ 2 เพื่อขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติและพัฒนากลไก ลดปัจจัยเสี่ยง เพิ่มปัจจัยบวกในการส่งเสริมสุขภาวะ และช่วยเหลือกลุ่มเสี่ยงต่อพฤติกรรมที่เป็นปัญหาในนักเรียน นักศึกษาระดับอาชีวศึกษา โดยกิจกรรมครั้งนี้มีตัวแทนนักศึกษาจากภาควิชาต่างๆ 10 สาขา จำนวนกว่า 100 คน เพื่อร่วมกันแลกเปลี่ยน เรียนรู้ถึงพิษภัย รวมถึงแนวทางการแก้ปัญหาในระยะยาว
นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผอ.สำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. กล่าวว่า สถานการณ์การสูบบุหรี่ในพื้นที่ภาคใต้ยังน่าเป็นห่วง แม้สถิติจะลดลงหากเทียบกับปีก่อนหน้านี้ แต่หากพิจารณาจากข้อมูลของกองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ รายงานพฤติกรรมการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเยาวชนไทย ปี 2566 พบว่า เยาวชนสูบบุหรี่ไฟฟ้า 9.1% และมีข้อมูลการสำรวจของสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทยที่ไปเก็บข้อมูลเชิงลึกจากศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนและสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน 39 แห่งทั่วประเทศ ยืนยันว่าเยาวชนก่อนต้องโทษคดียาเสพติดเคยสูบบุหรี่มวน 95.4% และเคยสูบบุหรี่ไฟฟ้า79.3% ยืนยันว่าบุหรี่เป็นประตูนำสู่ยาเสพติดอื่น
ดังนั้น กิจกรรมสัญจรลงพื้นที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาต้นแบบยกระดับสู่สถานศึกษาลดปัจจัยเสี่ยงเพิ่มปัจจัยบวก จะเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจให้กลุ่มเป้าหมายมีความตระหนักถึงพิษภัยบุหรี่ ที่จะส่งผลกระทบกับพวกเขาในระยะยาว และต้องหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน
พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา ที่ปรึกษา รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ระบุว่า ปัญหาการสูบบุหรี่ในพื้นที่ภาคใต้ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเข้ามาแก้ไข เพราะบุหรี่ถือเป็นภัยร้ายสำคัญที่ทำลายชีวิตคนไทยจำนวนมาก การที่ สสส. ลงพื้นที่มายังสถานศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษา ในการดำเนินโครงการยกระดับสู่สถานศึกษาลดปัจจัยเสี่ยงเพิ่มปัจจัยบวก ถือเป็นแนวทางที่ดีที่จะทำให้เยาวชนได้ตระหนักถึงพิษภัย และยังเป็นกระบอกเสียงไปยังกลุ่มบุคคลอื่นที่ยังมีพฤติกรรมสูบบุหรี่อีกด้วย
“หากดูจากสถิติของสำนักงานสถิติแห่งชาติ จะพบว่าพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการสูบบุหรี่จำนวนมาก โดยที่จังหวัดปัตตานีมีจำนวนผู้สูบบุหรี่ 18,196 คน คิดเป็นร้อยละ 16.3 จังหวัดยะลา จำนวนผู้สูบบุหรี่ 8,324 คน คิดเป็นร้อยละ 11.1 และจังหวัดนราธิวาส มีจำนวนผู้สูบบุหรี่ 13,273 คนคิดเป็นร้อยละ 11.9 นอกจากนี้ สิ่งที่น่ากังวลคือปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า เพราะปัจจุบันผู้ผลิตได้พัฒนารูปแบบและกลิ่นใหม่ๆ ออกมาจำนวนมาก อาจเป็นสิ่งกระตุ้นเยาวชนให้อยากทดลอง ดังนั้นการสร้างความเข้าใจจึงเป็นส่วนสำคัญ” พญ.เพชรดาวกล่าว
ด้าน นายวิทยา ตั่นยืนยง ผอ.วิทยาลัยอาชีวศึกษาปัตตานี กล่าวขอบคุณ สสส. และภาคีเครือข่าย ที่ให้ความสำคัญในการจัดกิจกรรมโครงการพัฒนาเครือข่ายและหนุนเสริมศักยภาพครูและแกนนำนักศึกษาอาชีวศึกษา เพราะที่ผ่านมาวิทยาลัยได้ร่วมกับนักศึกษาทำโครงการป้องกันการสูบบุหรี่ในพื้นที่วิทยาลัยมาโดยตลอด และด้วยความร่วมมือจาก สสส. ที่มาให้ความรู้ ยิ่งทำให้แกนนำนักศึกษามีความเข้าใจเพิ่มขึ้นจากเดิม โดยทางวิทยาลัยมองว่าการสร้างองค์ความรู้ให้กับเยาวชนเสมือนเป็นการสร้างอาวุธในการต่อสู้กับปัจจัยเสี่ยงทุกรูปแบบ ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างแกนนำเยาวชน เพื่อให้พวกเขานำความรู้ที่ได้ไปเผยแพร่ต่อยังกลุ่มเพื่อนๆ ตลอดจนคนในชุมชนที่พวกเขาอาศัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี