สาวโรงงานหายปริศนา 5 วัน ญาติหวั่นเกิดอันตราย เปิดข้อพิรุธสำนวนแชท

7 มีนาคม 2567 จากกรณีเพจข่าวสารเมืองปราการv2 โพสต์ภาพตามหาคนหายเป็นหญิงสาวรายหนึ่ง โดยในโพสต์ระบุข้อความว่า “ตามหาคนหาย ! 5 วันแล้วยังไม่พบ ลงโอที่ทำงานไว้ ออกไปทำงาน 6 โมงเช้า แต่ไม่ถึงที่ทำงาน จากนั้นหายไปติดต่อไม่ได้อีกเลย คนหายชื่อ น.ส.สุปราณี XXX อายุ 33 ปี หายออกจากห้องพักย่านตำบลบางเสาธง สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 67 โดยปกติ น.ส.สุปราณี จะออกไปทำงานช่วง 06.00 น. โดยเพื่อนร่วมงานทักมาแจ้งญาติช่วงบ่าย 3 ว่า น.ส.สุปราณี ลงทำโอไว้ แต่ไม่มาทำงาน เห็นว่าผิดปกติจึงแจ้งญาติให้ไปดูที่ห้องพัก แต่เมื่อญาติตามไปดูที่ห้องพักกลับไม่พบ ไม่ทราบว่าหายไปไหน เกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงเดินทางไปแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.บางเสาธง หากใครพบเห็นหรือมีเบาะแส โปรดแจ้งแอดมิน”

ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพูดคุยกับ น.ส.กัญญาภัค อายุ 33 ปี พี่สะใภ้ กล่าวว่า น.ส.สุปราณีหายตัวไป เมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา และเวลาประมาณ  16.00 น. เพื่อนร่วมงานได้ทักมาหาตน และแคปแชทที่คุยกับทางหัวหน้างาน ซึ่งมีการสอบถามว่าทำไม น.ส.สุปราณีไม่มาทำงาน เป็นอะไรหรือเปล่า เพราะมีการลงโอทีไว้ แต่ไม่ได้มาทำงาน ปกติไม่เคยขาดงาน ไม่เคยสาย ตนจึงไปขอกุญแจกับทางเจ้าของตึก เพื่อเปิดห้องเข้าไปดู ก็พบว่าห้องอยู่ในสภาพปกติ ไม่ได้มีการถูกรื้อค้น และเสื้อผ้าก็ถูกซักตากไว้ที่ระเบียงปกติ ตนจึงนั่งรอวันเสาร์-วันอาทิตย์ จนถึงเที่ยงคืน เพราะคิดว่าวันจันทร์ น.ส.สุปราณี จะมาทำงาน แต่ก็ไม่กลับมา จนวันจันทร์ช่วงเย็น ลูกพี่ลูกน้องของ น.ส.สุปราณี ได้ไปแจ้งความที่ สภ.บางเสาธง เพราะติดต่อไม่ได้

ทั้งนี้ ตนได้ไปขอเช็คสัญญาณจากเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ทางเจ้าหน้าที่จึงให้เอกสารเพื่อมาติดต่อขอเช็คสัญญาณมือถือ จากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่ายังจับสัญญาณโทรศัพท์ไม่ได้ และตนได้ไปสอบถามคนในตึกที่พักห้องใกล้เคียงของ น.ส.สุปราณี ได้ข้อมูลมาว่าปกติ น.ส.สุปราณี จะไม่ค่อยออกไปไหน และไม่ค่อยได้พบเจอ น.ส.สุปราณี เนื่องจากไปทำงาน ตนจึงไปขอกล้องวงจรปิดจากเจ้าของตึก ได้คำตอบมาว่ามันดูยากต้องใช้เวลาในการหา

น.ส.กัญญาภัค กล่าวอีกว่า ตนได้รับฟังข่าวลือจากเพื่อนพนักงานโรงงานเดียวกับ น.ส.สุปราณี มาว่ามีการคบหากับชายหนุ่มที่มีครอบครัวอยู่แล้ว และสงสัยว่าตั้งท้อง จนจึงกลัวกว่าภรรยาของชายคนดังกล่าวจะทำร้าย น.ส.สุปราณี หรือไม่ เพราะตัว น.ส.สุปราณี มาอยู่กับตนประมาณ 10 ปี ตั้งใจทำแต่งาน ไม่ค่อยมีเพื่อนที่ไหน พ่อแม่และลูกของ น.ส.สุปราณี ก็อยู่ในความดูแลของตน ส่วนโทรศัพท์ของ น.ส.สุปราณี ยังโทรเข้าได้ปกติ แต่ไม่มีคนรับสาย

ต่อมาตนได้หาข้อมูลทางเฟซบุ๊กของชายคนดังกล่าวที่สงสัยว่าจะคบหากับ น.ส.สุปราณี เกี่ยวกับ ชื่อ สถานที่ทำงาน บ้านเลขที่ และทะเบียนรถที่ขับ ตนจึงได้ข้อมูลว่าชายคนดังกล่าวทำงานอยู่ชลบุรี ใกล้กับที่ทำงานของ น.ส.สุปราณี และได้มีการสอบถามไปยังชายคนดังกล่าวถึงการหายตัวไปของ น.ส.สุปราณี ได้รับเพียงคำตอบว่า รู้ว่ามีการหายตัวไป แต่ไม่รู้จะตามหาอย่างไร แต่ตนก็ยังไม่แน่ใจว่าชายคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของ น.ส.สุปราณี หรือไม่

น.ส.กัญญาภัค กล่าวว่า ไม่รู้ว่า น.ส.สุปราณี มีปัญหาเรื่องเงินหรือเรื่องอะไร เพราะเท่าที่ตนทราบมา ช่วงหลังๆนี้มีปัญหาเรื่องเงินนิดหน่อย ส่วนเรื่องจะหลบหนีไปเรื่องเงิน ตนคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะสิ้นเดือนนี้ก็จะได้รับโบนัสแล้วเป็นเงินหลายหมื่นบาท คงพอที่จะนำไปเคลียร์หนี้สินได้บ้าง ตนอยากฝากถึง น.ส.สุปราณี ว่า ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ อยากให้กลับมาเพราะสงสารแม่และลูก ส่วนตนนั้นก็ไม่ได้พักผ่อนเพราะเป็นกังวลต้องคอยลงไปดูว่า น.ส.สุปราณี กลับมาหรือยัง คอยไปเคาะห้อง คอยดูด้วยความเป็นห่วง และอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เร่งตามให้หน่อย เพราะตนต้องทำงาน ไม่มีเวลาตาม และไม่รู้จะไปตามจากตรงไหน จึงขอความช่วยเหลือจากสื่อให้ช่วยกระจายข่าว เพราะ กังวลว่า น.ส.สุปราณี จะไม่ปลอดภัยหรือถูกทำร้าย

“ที่ตนสงสัยอีกเรื่องคือแชทที่ส่งมาทางติ๊กต๊อกช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม บอกว่าไม่ต้องห่วง สบายใจเดี๋ยวกลับ ซึ่งจากการพิมพ์ตอบกลับมามั่นใจว่าไม่ใช่สำนวนการพิมพ์ของ น.ส.สุปราณี และอีกอย่างที่เคยคุยกันปกติจะเป็นแชททางเฟซบุ๊กมากกว่า ซึ่งทาง น.ส.สุปราณี ก็เคยมีมาปรึกษาเรื่องที่คบกับผู้ชายที่มีครอบครัวอยู่แล้ว จึงค่อนข้างกังวลเรื่องชู้สาวที่อาจจะทำให้น้องสะใภ้ตนไม่ปลอดภัย” น.ส.กัญญาภัค กล่าว

-005