มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดตัว “ระบบแจ้งเตือนไฟป่าผ่านดาวเทียมและโครงข่ายสื่อสารระยะไกล” ใช้แก้ไขปัญหาหมอกควันไฟในพื้นที่ป่าลึกไม่มีสัญญาณ สามารถรับข้อมูลจุดความร้อนอย่างแม่นยำ ส่งผลให้เข้าควบคุมไฟป่าได้ทันท่วงที ลดความเสี่ยงในการปฏิบัติหน้าที่ของหน้าที่ ระบบนี้พัฒนาจากความร่วมมือที่เข้มแข็งที่ วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำโดย ผศ.ดร.ภูดินันท์ สิงห์คำฟู อาจารย์ประจำสาขาวิศวกรรมซอฟต์แวร์ (นานาชาติ) ร่วมมือกับ สำนักงานคณะรัฐมนตรี ประเทศญี่ปุ่น และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์กรมหาชน) หรือ GISTDA เริ่มนำร่องในพื้นที่อุทยานแห่งชาติศรีลานนาครอบคลุม 3 อำเภอ ได้แก่ แม่แตง เชียงดาว และ พร้าว เริ่มติดตั้งระบบ Sensor ไปแล้วมากกว่า 10 จุด
การทำงานของระบบแจ้งเตือนไฟป่าผ่านดาวเทียมแสดงให้เห็นถึงความรวดเร็วของการสื่อสาร โดยโครงการฯ ได้ดำเนินการภายใต้หน่วยวิจัยเพื่อการจัดการพลังงานและเศรษฐนิเวศ (3E) สถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับความร่วมมือจากทีมวิศวกร Sony ซึ่งใช้ระบบสังเกตการณ์ไร้สายระยะไกล ELTRST ที่มีความเสถียรและแม่นยำสูง และ NTT Data ประเทศญี่ปุ่นออกแบบทางด้านการส่งข้อมูลผ่านดาวเทียม ร่วมกับ เทคโนโลยีเซ็นเซอร์จากโครงการ Dust Boy จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยรองศาสตราจารย์ ดร.เศรษฐ์ สัมภัตตะกุล และทีมงาน เพื่อทดสอบการตรวจจับ การส่งสัญญาณระยะไกล ส่งคำเตือนผ่านระบบดาวเทียมมิซิบิกิ (Michibiki) หรือดาวเทียม QZSS สถานีรับดาวเทียมภาคพื้นดินประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นระบบบอกพิกัดของประเทศญี่ปุ่น สามารถส่งสัญญาณไปยังบริเวณนอกเมือง และบริเวณที่ปกคลุมไปด้วยภูเขา มีความแม่นยำสูง โดยการแจ้งเตือนจะปรากฏเป็นข้อความแบบสั้นบนสมาร์ทวอทช์และสมาร์ทโฟนส่งตรงถึงเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเพื่อค้นหาจุดต้นตอของไฟโดยระบบ GPS นำทาง ซึ่งเทคโนโลยีระบบแจ้งเตือนผ่านดาวเทียมเพื่อจัดการไฟป่านี้ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถรับข้อมูลจุดความร้อนและประเมินสถานการณ์ได้รวดเร็วในพื้นที่ป่าลึกไม่มีสัญญาณติดต่อสื่อสารชนิดอื่น ส่งผลต่อการควบคุมไฟป่าได้ทันท่วงที ช่วยลดปัญหาการเกิดไฟป่า อันก่อให้เกิดหมอกควันและฝุ่น PM2.5 รวมไปถึงช่วยลดความเสี่ยงในการปฏิบัติหน้าที่ของหน้าที่ดับเพลิง โดยได้ติดตั้งระบบ Sensor ไปแล้วกว่า 10 จุด และเพื่อความต่อเนื่อง ทีมผู้พัฒนามีแผนในการเพิ่มจำนวน Sensor มาติดตั้งเพิ่มเติมในพื้นที่นำร่อง อุทยานแห่งชาติศรีลานนาอีกราว 50 จุดในปี 2567-2568 และจะได้มีการขยายโครงการอย่างเป็นรูปธรรมภายใต้กรอบการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด กับสำนักงานคณะรัฐมนตรีประเทศญี่ปุ่น และ GISTDA ต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาและเรียนรู้ระบบแจ้งเตือนไฟป่าผ่านดาวเทียมให้ดียิ่งขึ้น ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภูดินันท์ สิงห์คำฟู ได้ส่งนักศึกษาระดับปริญญาโท หลักสูตร Data science ซึ่งเป็นหลักสูตรร่วมระหว่างวิทยาลัยฯ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ไปฝึกงานทางด้าน Edge AI และ IoT ที่ SONY Semiconductor Tokyo ในประเทศญี่ปุ่น เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึงเมษายน 2567 โดยโดยบริษัทเป็นผู้สนับสนุนทุนดังกล่าว
ภายในงานเปิดตัวเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2567ที่ผ่านมา ณ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล จังหวัดเชียงใหม่ วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภูดินันท์ สิงห์คำฟู อาจารย์ประจำสาขาวิศกรรมซอฟต์แวร์ (นานาชาติ) ร่วมมือกับ สำนักงานคณะรัฐมนตรี ประเทศญี่ปุ่น สำนักพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ., GISTDA) NTTDATA Japan Corporation Sony Group Corporationบริษัท พาสโค ประเทศไทย (PASCO Thailand) นักศึกษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ทีม TAF) และอุทยานแห่งชาติศรีลานนา โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ดำรงค์ฤทธิ์ เนียมหมวดรองผู้อำนวยการ สำนักพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ., GISTDA) กล่าวเปิดงานในครั้งนี้ โดยมี นายเคนทาโร นากาอิ เลขานุการเอก สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมเกียรติ น่วมนา ผู้ช่วยคณบดี วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี เข้าร่วมสังเกตการณ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี