ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดงาน CRA open House โครงการเปิดบ้านแนะแนวการศึกษา โดยได้รับเกียรติจาก ศ.พญ.ยุวเรศมคฐ์ สิทธิชาญบัญชา รักษาการรองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมเปิดเผยว่า โครงการจัดขึ้นเพื่อสร้างความสัมพันธ์ภาคีเครือข่ายสถานศึกษาพร้อมขับเคลื่อนพันธกิจของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในด้านการผลิตบัณฑิตการแพทย์ พยาบาลและการสาธารณสุข ที่มีคุณภาพทางวิชาการและสมรรถนะทางวิชาชีพ ตลอดจนประชาสัมพันธ์หลักสูตรสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ เพื่อเป็นทางเลือกในการเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาของนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายต่อไป

ผศ.นพ.วิสุทธิ์ ล้ำเลิศธน รักษาการรองคณบดีวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน กล่าวว่า การสร้างแพทย์สมัยใหม่ในแบบของ CRA Doctor ได้เปิดรับสมัคร 2 หลักสูตร คือ หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต ซึ่งตอนนี้เปิดรับสมัคร“รอบโควตา” นักเรียนชั้น ม.6 จาก รร.วิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ถึงวันที่ 18 เม.ย. 2567 และ รอบที่ 3 Admission ใช้คะแนนสอบกลางเปิดรับสมัครตามประกาศของ ทปอ. ช่วงวันที่ 6-12 พ.ค. 2567 และ หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาข้อมูลสุขภาพ เหมาะสำหรับนักเรียนที่มีความสนใจด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพและมีความสามารถทางด้านการใช้คอมพิวเตอร์ ตอนนี้เปิดรับสมัคร “รอบโควตา” นักเรียน ม.6 จาก รร.วิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยและรร.ดรุณสิขาลัย ถึงวันที่21 เม.ย. 2567 และ รอบที่ 3 Admission ใช้คะแนนสอบกลาง เปิดรับสมัครตามประกาศของ ทปอ. ช่วงวันที่ 6-12 พ.ค. 2567 เช่นเดียวกัน

ศ.พญ.จิรพร เหล่าธรรมทัศน์ คณบดีคณะเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์สุขภาพ กล่าวว่า คณะเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์สุขภาพ มีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ที่ใช้ในการเรียนการสอนในสาขาวิชารังสีเทคนิค สาขาวิชาฉุกเฉินการแพทย์ และสาขาวิชาวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหวและสุขภาพ โดยทุกหลักสูตรจะดำเนินการเรียนการสอนโดยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา ทั้งรังสีวินิจฉัยรังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์ โดย “หลักสูตรรังสีเทคนิค” นักศึกษาจะมีโอกาสได้เรียนภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติกับเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ได้แก่ เครื่องเอกซเรย์ เครื่องตรวจอัลตราซาวนด์แมมโมแกรมในระบบดิจิทัล เครื่อง MRI 1.5 เทสลาและเครื่อง MRI ขนาด 3 เทสลา และมีเครื่อง MRI แบบพิเศษ คือ MRI Upright และ MRI HIFU นอกจากนี้ในส่วนของเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือ CT ยังมีเทคโนโลยีการสร้างภาพรูปแบบ Spectral Imaging ที่มีความทันสมัย รวมถึง Mobile CTที่พร้อมให้นักศึกษาไปเรียนรู้และฝึกงาน

ส่วนทางด้าน “เวชศาสตร์นิวเคลียร์” นักศึกษาจะได้มีโอกาสไปเรียนรู้และฝึกปฏิบัติ ณ ศูนย์ไซโครตรอนและเพทสแกนแห่งชาติ ซึ่งมีเครื่องมือที่ทันสมัย ได้แก่ เครื่องถ่ายภาพ Digital PET/CT เครื่องแรกของประเทศไทยจำนวน 2 เครื่อง และเครื่อง PET/MRI เครื่องแรกและเครื่องเดียวของประเทศไทย เครื่อง Cyclotron และ Module สำหรับการผลิตสารเภสัชรังสีต่างๆ และนอกจากนี้ด้าน “รังสีรักษา” นักศึกษาจะได้มีโอกาสเรียนรู้เครื่องมือและฝึกปฏิบัติ ณ งานรังสีรักษามะเร็งวิทยา โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ที่มีเครื่องมือที่ทันสมัยนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้เพื่อช่วยแพทย์

ทั้งนี้ โรงเรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์ หลักสูตรฉุกเฉินการแพทย์ จะมุ่งเน้นผลิตบัณฑิตให้มีความรู้ความชำนาญ และทักษะด้านฉุกเฉินการแพทย์โดยเฉพาะ เพื่อผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตได้รับการผดุงชีวิตรวมทั้งป้องกันการเสียชีวิต หรือการรุนแรงขึ้นของการบาดเจ็บหรืออาการป่วยนั้นได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ทางหลักสูตรยังมีการสอดแทรกองค์ความรู้และทักษะการบริหารสาธารณภัยให้แก่นักศึกษาทั้งในรูปแบบของกิจกรรมการเรียนการสอน กิจกรรมนอกหลักสูตร และโอกาสในการศึกษาเฉพาะทางต่อต่างประเทศ

โรงเรียนวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหวและสุขภาพ หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหวและสุขภาพ เป็นหลักสูตรแรกของประเทศไทย ใช้เวลาศึกษา 4 ปี ใน “ภาคทฤษฎี” ประกอบด้วยวิชาหลักที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว เช่น กายวิภาคศาสตร์ ชีวกลศาสตร์สรีรวิทยาการออกกำลังกาย จิตวิทยา โภชนาการ เป็นต้น ในส่วนการฝึก “ภาคปฏิบัติ” จะเริ่มฝึกประสบการณ์ในการทำงานจริงตั้งแต่ชั้นปีที่ 3 โดยนักศึกษาต้องมีงานวิจัยเพื่อสร้างนวัตกรรมและปฏิบัติงานจิตอาสาเพื่อชุมชนในระหว่างการศึกษาด้วย

รศ.ดร.ทัศนา บุญทอง คณบดีวิทยาลัยพยาบาลศาสตร์อัครราชกุมารี กล่าวว่า ทุกหลักสูตรนักศึกษาจะได้เรียนรู้จากคณาจารย์ผู้สอนที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เฉพาะสาขาและลงปฏิบัติงานจริงในหอผู้ป่วยของโรงพยาบาลและในชุมชน โดยผู้สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยฯ จะมีความรู้ความสามารถและทักษะของวิชาชีพ มีศิลปะทางการพยาบาล บนพื้นฐานของการดูแลคนด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์และสัมพันธภาพที่เอื้ออาทร คุณธรรมจริยธรรม สร้างสรรค์ประโยชน์ต่อสังคม ภายใต้อัตลักษณ์ รอบรู้ พัฒนา จิตอาสา นำพาความสุข ก้าวสู่การเป็นพยาบาลวิชาชีพอย่างภาคภูมิใจ สู่ความเป็นเลิศเพื่อทุกชีวิต

รศ.ดร.จตุพร กระจายศรี ประธานหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชานวัตกรรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า สาขาวิชานวัตกรรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นหลักสูตรใหม่ที่จะผลิตบัณฑิตให้มีความรู้ ทักษะและสมรรถนะทางการวิจัย นวัตกรรม ด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อต่อยอดเป็นผู้ช่วยวิจัยหรือนักวิจัยได้อย่างเต็มตัวในอนาคต โดยอาชีพที่สามารถประกอบได้หลังสำเร็จการศึกษา 1.บุคลากรวิจัยด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ 2.นักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ในหน่วยงานภาครัฐหรือภาคเอกชน 3.นวัตกรด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ 4.บุคลากรทางด้านการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ ในสถาบันการศึกษา 5.เจ้าของธุรกิจหรือผู้ประกอบการด้านการแพทย์ โดยเปิดรับสมัครนักศึกษารุ่นแรก ปี 2567 จำนวน 30 คน แบ่งเป็น 3 รอบ รอบที่ 1 Portfolio จำนวน 5 คน เสร็จสิ้นตามเป้าหมายแล้ว รอบที่ 2 การรับแบบโควตา จากโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย จํานวน 20 คน เปิดรับสมัคร วันที่ 1-31 มี.ค. 2567 และรอบที่ 3 การรับแบบAdmission จำนวน 5 คน ตามประกาศของ ทปอ. รับสมัคร วันที่ 6-12 พ.ค. 2567