เกษตรกรสองสามีภรรยาชาวอำเภอห้วยยอด ปลูกสละพันธุ์สุมาลีเนื้อที่กว่า 10 ไร่ให้ผลผลิตดีสัปดาห์ละเกือบ 1 ตัน สร้างรายได้กว่า 130,000 บาทต่อเดือน ดีกว่าการทำสวนยางพาราหลายเท่า แถมให้ผลผลิตตลอดทั้งปี เหลือแปรรูปทำน้ำสละและสละลอยแก้วขาย สร้างรายได้อีกทาง

ที่ “สวนปลูกด้วยรัก” ของนายสรายุทธิ์ เจตนาธรรมจิต อายุ 57 ปี และนางธรรมจิต เจตนาธรรมจิต  อายุ 53 ปี เกษตรกรสองสามีภรรยาชาวตำบลลำภูรา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ตัดสินใจตัดโค่นต้นยางพาราเนื้อที่กว่า 10 ไร่เมื่อปี 2561 เพื่อหันมาปลูกสละพันธุ์สุมาลีจำนวน 504 ต้น ที่มีรสชาติหวานนำ เมล็ดเล็กและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ซึ่งใช้เวลาปลูกเพียง 2 ปีก็เริ่มเก็บสละขายได้ทั้งปลีกและส่ง ในราคากิโลกรัมละ 40-60 บาท และยังเป็นสวนสละที่ปลอดภัยจากการใช้สารเคมี จนได้รับการรับรองมาตรฐานสินค้า GAP จากกรมวิชาการเกษตร และเพิ่งได้รับรางวัลชมเชย ประเภทสละสุมาลี ในงานยางพาราแห่งชาติปี 2567

ซึ่งแต่ละสัปดาห์เกษตรกรจะตัดสละสุมาลีขายได้ไม่ต่ำกว่า 800-1,000 กิโลกรัม ทำให้มีรายได้เดือนละ 35,000-40,000 บาทหรือกว่า 130,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเป็นรายได้ที่ดีกว่าการทำสวนยางพาราหลายเท่า โดยเลือกปลูกสละสุมาลีพันธุ์ลูกใหญ่ ให้ผลผลิตแน่น และติดผลตลอดทั้งปี ทำให้ลูกค้าหาซื้อได้ทุกช่วงฤดูกาล

ส่วนหนึ่งเกษตรกรนำมาแปรรูป เป็นสละลอยแก้วและน้ำสละ ขายราคาขวดละ 20-25 บาท และมีการปอกสละแพ็คขายเป็นกล่อง ๆ ละ 50 บาทด้วย  ซึ่งมีลูกค้าทั้งใน จ.ตรังและจังหวัดใกล้เคียง สั่งซื้อจนแทบไม่พอขาย นอกจากจะสร้างรายได้ให้กับครอบครัวแล้ว ยังสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ที่หันมารับจ้างตัดสละสัปดาห์ละ 1 ครั้งด้วย ส่วนใครสนใจติดต่อสอบถามได้ที่เฟสบุ๊ก “สวนปลูกด้วยรัก” หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 089-4249828

ด้านนางธรรมจิต เจตนาธรรมจิต เกษตรกรผู้ปลูกสละสุมาลีกล่าวว่า ผลผลิตตกสัปดาห์ละ 1,000 กิโลบวกลบ ราคาขึ้นลงเป็นบางช่วง บางช่วงก็ราคาดี แต่ช่วงนี้ราคากิโลละ 40-45 บาท มีกินตลอดทั้งปีและเน้นปลอดสารเคมี มีใบรับรอง GAP เพื่อให้ลูกค้าได้กินอย่างมั่นใจ เวลาตัดเราก็จะชิมทุกช่อเพื่อเทสความหวาน ความปลอดภัยทั้งเราและลูกค้า โดยทำเป็นสละลอยแก้วและน้ำสละ น้ำสละขายขวดละ 20 บาท ส่วนลอยแก้วขายส่ง 20 บาท - 003