ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเผยนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้า 15 ล้านคนแล้ว คาดทั้งปีทะลุเป้าหมาย ระบุส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรองดันยอดเที่ยวเพิ่ม คาดการเมืองไม่กระทบแม้เปลี่ยนรัฐบาลใหม่ 

8 มิ.ย.67 นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ของการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยตั้งแต่ต้นปี 2567 เป็นต้นมาว่า จำนวนของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทาบมาตั้งแต่ช่วงปีใหม่ 2567 ถึงวันนี้ ที่ผ่านมามีจำนวนสูงถึง 15 ล้านคน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่มีการประมาณการณ์ไว้ในตั้งแต่แรก

“ต้องขอบคุณนายกที่ผลักดันนโยบายเรื่องฟรีวีซ่าตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งซึ่งในขณะนี้เป็นที่น่าดีว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมากถึง 15,000,000 คน ภาคเอกชนหวังว่านับจากนี้ไปอีก 6 เดือนหลังครึ่งปีนี้ผมมั่นใจว่าท่านนายกฯได้คลิกออฟนโยบายลดภาษีให้กับเมืองท่องเที่ยวรองซึ่งเรื่องนี้สามารถช่วยผู้ประกอบการได้มากเช่นกัน และในวันนี้ผมคิดว่ายังมีปัญหาและอุปสรรคอีกสองประการอยากจะฝากท่านนายกรัฐมนตรีช่วยแก้ไขให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยว ใน 2 ประการ คือ 

หนึ่งคือการซ่อมสร้างทั้งคนหรือบุคลากร และ สอง แหล่งท่องเที่ยวซึ่งมีส่วนสำคัญเนื่องจากการท่องเที่ยวเป็นการแปรรูปการส่งออกหากเขาเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้วมีความสุข ก็จะมีการบอกต่อก็จะเกิดพลังเพิ่มมากขึ้นเช่นปี 2566 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยจำนวน 28,000,000 คนหาก 25,000,000 คนได้ไปบอกต่อเพื่อนนักท่องเที่ยวด้วยกันก็จะเพิ่มขึ้นถึง 50,000,000 คนแล้วฉะนั้นเป้าหมายที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้ตั้งไว้ 3.5 ล้านล้านบาทจะเป็นไปได้ไหมผมตอบได้เลยว่าเป็นไปได้แน่นอนแต่ต้องมีเรื่องของการขับเคลื่อนอีกหลายอย่างตามมา ก็คือ เช่นภาคเอกชนหรือผู้ประกอบการท่องเที่ยวเสนอว่าหากมีทัวร์ทั่วไทยแบบรถบัสเข้าไปบวกกันเนื่องจากชั่วโลว์ซีซั่นเป็นช่วงที่ลำบากที่นักท่องเที่ยวจะเดิน เติมเข้ามา ทางเข้ามา จะทำให้ยอดรายได้รายได้เข้าประเทศจำนวน 3.5 ล้านล้านบาทจะเป็นไปได้แน่นอน“

นายชำนาญ กล่าวอีกว่า ส่วนในเรื่องของเสถียรภาพของรัฐบาลหากนายกรัฐมนตรีต้องถูกถอดถอนและออกจากตำแหน่งนั้น มองว่าการท่องเที่ยวไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง ซึ่งเชื่อว่าไม่ว่าใครจะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยนโยบายของประเทศไทยก็ต้องใช้การท่องเที่ยวเป็นนโยบายหลักในการหารายได้เข้าประเทศซึ่งเป็นจุดแข็งของประเทศไทยอยู่แล้ว แต่ดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไปจะเห็นได้ว่าสถานการณ์การเมืองที่ผ่านมาของประเทศไทยแต่การปิดถนนการชุมนุมประท้วงที่มีปัญหามาอย่างต่อเนื่องแต่สถานการณ์ท่องเที่ยวของประเทศไทยก็ยังมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามาซึ่งจะเห็นได้จากรายได้รายได้ที่เข้ามามายังประเทศไทยไม่ได้ลดลงไปตามสถานการณ์ของบ้านเมืองมากนักและทั่วโลกก็เชื่อแบบนี้

.-008