เก็บตกงาน “The Love เลือกได้ รักให้เป็น” เนื่องในวันแห่งความรัก หรือ “วันวาเลนไทน์” ซึ่งเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง มูลนิธิเด็ก เยาวชน และครอบครัว สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)จัดขึ้นเพื่อสื่อถึงทุกๆ คนให้ “เลือกที่จะรักให้เป็น” และมีรักที่ดีในทุกๆ วัน ไม่เฉพาะวันที่ 14 กุมภาพันธ์เท่านั้น
คำว่ารักที่ดีคือต้อง “ไม่ท็อกซิก” ในความสัมพันธ์ทุกรูปแบบ โดย วิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ กรรมการ สสส. ระบุว่า ความรักมีหลายมิติมีหลายมุม แต่ที่สำคัญที่สุดคือการรักตัวเอง การรักตัวเอง จะทำให้เรามองเห็นว่าแท้ที่จริงแล้วแม้เราจะไปรู้จักใคร ไปคบกับใคร แต่ถึงที่สุดตัวเองก็คือสิ่งสำคัญที่สุด จากนั้นถึงเผื่อแผ่ความรักสู่คนใกล้ตัว พ่อ แม่ ครอบครัว เพื่อน สังคม คนรัก ดังนั้น สสส. ขอเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างกระแสให้สังคมรับรู้ว่าความสัมพันธ์ที่ดี เลือกได้ รักให้เป็น โดยเฉพาะการสร้างความตระหนักให้เยาวชนใช้ชีวิตที่ห่างไกลปัจจัยเสี่ยง อาทิ เหล้ายาเสพติด พนัน ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้ความรักเป็นพิษ
“หลายคนอาจตั้งคำถามว่า ทำไมวันแห่งความรักถึงเกี่ยวข้องกับการลดปัจจัยเสี่ยง ก็เพราะว่าจากการที่ สสส.ได้ทำงานขับเคลื่อนกับภาคีเครือข่าย พบข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2564 พบเยาวชนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 1.9 ล้านคน คิดเป็น 20.9% และยังเป็นกลุ่มอายุที่เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากที่สุด ขณะที่ข้อมูลศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ปี 2566 พบกลุ่มอายุ 15-25 ปี เล่นพนันออนไลน์ 32.3% หรือ 2.9 ล้านคน โดย 1 ใน 4 หรือ 739,000 คน เสี่ยงเป็นนักพนันหน้าใหม่ ขณะที่มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เก็บข้อมูลปี 2566พบรายงานข่าวความรุนแรงผ่านสื่อ 1,086 ข่าว มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยกระตุ้น 316 ข่าว คิดเป็น 29.1% และยาเสพติด 283 ข่าว คิดเป็น 26.1%” กรรมการ สสส. ระบุ
ขณะที่ผลสำรวจของเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยงสำรวจเยาวชน ล่าสุดเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 พบว่าปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดปัญหาระหว่างคู่รักได้มากที่สุดคือ ยาเสพติด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การพนัน บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้าตามลำดับ ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาเยาวชนแก้ไขด้วยการเลิกกันพูดคุยปรับความเข้าใจ ให้โอกาสปรับตัว แจ้งตำรวจ ที่น่าสนใจคือ 85.7% เห็นด้วยกับการจัดให้มีพื้นที่รับฟัง ให้คำแนะนำ ปรึกษาปัญหาวัยรุ่นจากผู้เชี่ยวชาญหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริเวณพื้นที่ที่วัยรุ่นรวมตัวกัน อาทิ สยาม หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เป็นต้น ซึ่งอันนี้ดี เพราะตนเชื่อว่าหลายคน ผ่านประสบการณ์เวลามีปัญหาคับข้องใจตัดสินใจอะไรไม่ได้คิดไม่ออกจะทำอย่างไร ทางเลือกแรกเลือกปรึกษาเพื่อนแน่นอน แต่เพื่อนก็มีทั้งดีและไม่ดี ซึ่งอาจทำให้ปัญหาแย่ลง ดังนั้นการมีพื้นที่รับฟังจึงน่าสนใจ และสสส.ก็พร้อมสนับสนุน
“เทศกาลแห่งความรักปีนี้ สสส. และภาคีเครือข่าย ขอสานพลังให้ทุกคนอยู่ร่วมในสังคมด้วยความเกื้อกูล ดูแล ส่งความรักที่ดีให้แก่กันในทุกความสัมพันธ์ ทั้งคู่รัก พ่อแม่ ลูกหลานญาติสนิท เพื่อนพ้องพี่น้อง เพื่อนบ้าน รวมถึงเพื่อนร่วมโลก เห็นถึงคุณค่าของตนเอง ให้เกียรติซึ่งกันและกัน มีความเข้าใจเรื่องความสัมพันธ์ และสัญญาณเตือนของความสัมพันธ์ที่อาจนำไปสู่การใช้ความรุนแรง ขอให้ทุกคนช่วยกันส่งเสริมให้เดือนแห่งความรักนี้ใช้ชีวิตห่างไกลจากปัจจัยเสี่ยงทุกรูปแบบ” นายวิเชษฐ์ กล่าว
ด้าน “ปาลิณี ต่างสี” ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง เปิดเผยผลสำรวจ “วาเลนไทน์ 68 The Love เลือกได้...รักให้เป็น” กลุ่มตัวอย่าง อายุ 13-25 ปี จำนวน 2,200 คน ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และต่างจังหวัดบางพื้นที่เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 พบว่า คู่รักมีการทะเลาะกันบ้างนานๆ ครั้ง 49.6% ทะเลาะบ่อย 25.3% บ่อยมาก 16.1% ส่วนเรื่องที่ทะเลาะกันมากที่สุดคือ พูดไม่เข้าใจ 45% พฤติกรรมส่วนตัว 39.8% ไม่ใส่ใจกัน 34.1% พฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิม 28% หึงหวง 26.6% ติดเพื่อน 23.3% นอกใจ คบซ้อน 13.6% และนอกใจเลย 4% โดยทั้งนี้ หากทะเลาะแล้วมีการใช้ความรุนแรง วิธีแก้ปัญหาคือ เลิก 48% พูดคุยปรับความเข้าใจ 14.5 % ให้โอกาสปรับตัว 13.5% และ แจ้งตำรวจ 8.7%
สำหรับปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดปัญหาระหว่างคู่รักมากที่สุด คือ ยาเสพติด 46.1% เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24.5% การพนัน 22.1% บุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า 7.3%
กรณีที่มีการปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาความรัก จะเลือกคุยกับเพื่อน 22.5% เงียบๆ คนเดียว 20.3% ถามแชท GPT 14.4% คิดไม่ออก 13.4% ไลฟ์โค้ช 11.2% พ่อกับแม่ 5.5% อินเตอร์เนต 5.4% หมอจิตวิทยา 3.7% ครูและนักเรียน 0.3% หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง 0.1% ส่วนหน่วยงานไหนที่รู้จักว่าให้คำปรึกษา พบว่า รู้จักแชทบอทใจดี 33.2% กรมสุขภาพจิต (สายด่วน 1323) 20.4% ไม่รู้จักหน่วยงานใดเลย 27.7% กรมกิจการเด็กและเยาวชน (สายด่วน 1300) 8% และมูลนิธิแพททูเฮลท์ 3.8% ทั้งนี้กว่า 85.7 % เห็นด้วยกับการจัดให้มีพื้นที่รับฟัง ให้คำแนะนำ ปรึกษาปัญหาวัยรุ่นจากผู้เชี่ยวชาญหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นางสาวบี นามสมมุติ กล่าวว่า ช่วงที่อายุ 21 ปี ได้มีการพูดคุยศึกษากับชายหนุ่มคนหนึ่งปีกว่าๆ เห็นว่าเป็นผู้ชายที่ดีจึงตกลงคบหาเป็นคนรัก แต่หลังจากคบกันเข้าประมาณเดือนที่ 4 ก็เริ่มท็อกซิก ชายหนุ่มมักจะห้ามไม่ให้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนห้ามเรื่องการแต่งกาย ห้ามไปทำงาน และชอบข่มขู่ว่าหากไม่เปลี่ยนหรือไม่ทำตามจะเลิก มีการใช้คำพูดหยาบคาย ซึ่งตนอดทนมาตลอดจนสุดท้ายตัดสินใจขอเลิก ทำให้ชายหนุ่มโมโหทำลายข้าวของ ใช้มีดปอกผลไม้กรีดคอตุ๊กตา รู้สึกกลัวมากได้โทร.ไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อน แต่ก็ถูกแย่งโทรศัพท์มือถือไปขว้างทิ้ง แต่สุดท้ายก็เลิกกัน ซึ่งผู้ชายพยายามง้อขอคืนดีอยู่กว่า 2 เดือน แต่ตนไม่กลับไปคืนดีด้วย และบล็อกการติดต่อทุกช่องทาง เพราะไม่อยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม
นางสาวบี เล่าต่อไปว่า ตอนนี้ยังไม่กล้ามีความรักครั้งใหม่เพราะภาพความรุนแรงยังฝังใจ แต่หากจะมีรักอีกครั้ง ขอคนที่ไม่ทำร้ายเราทั้งวาจา ร่างกาย ไม่บังคับเรา และขอเตือนคนที่กำลังมีความรักว่าอย่าลืมรักตัวเองให้มากๆ เพราะมีแค่เราเองที่จะสามารถช่วยตัวเองได้ ถ้ารักเขามากจนยอมเดินตามหลังเขาตลอด สุดท้ายตัวเราเองที่เป็นคนเจ็บ และอาจจะเกิดความรุนแรงมากขึ้นไปอีก การออกจากความรักที่ทำร้ายเราจึงเป็นทางเลือกที่ดีของชีวิต แม้มันจะไม่ง่ายก็ตาม
ขณะที่ แนท-อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ MissUniverse Thailand 2015 นางแบบ นักแสดง ก็เล่าประสบการณ์ว่า ตนได้รับการสอนจากคุณตาคุณยายว่าอย่าเพิ่งรีบมีแฟน ให้ตั้งใจเรียนก่อน ทำให้ประสบการณ์วัยเด็กที่แอบรักรุ่นพี่เป็นความชอบแบบที่อยากเห็นเขาเติบโตขึ้นไป ต่อมาพอเข้ามัธยมมีเพื่อนในกลุ่มเกิดท้องก่อนวัยเรียน ซึ่งเพื่อนอยากเก็บเด็กไว้ เราก็ซัพพอร์ตจิตใจเพื่อน ทางบ้านของเพื่อนก็มีความพร้อมในการดูแล ในขณะที่ฝั่งผู้ชายไม่รับผิดชอบอะไรเลย
จากนั้น พอเข้ามาอยู่กรงเทพฯ ก็มีแฟน แต่อยู่บนพื้นฐานของการรักตัวเองจึงมีความระมัดระวังตัว แต่กลับถูกมองว่าไม่เต็ม 100% กับความรักจนสุดท้ายก็เลิกกัน ทำให้เราเสียใจมาก ไม่กินอะไร ร้องไห้กว่า 2 เดือนจนไม่มีน้ำตาจะไหล จนคิดได้ว่าคุณตาคุณยายเลี้ยงเรามาขนาดนี้ ทำไมถึงยอมให้คนที่เพิ่งรู้จักกันได้ 8 เดือน ย่ำยีชีวิตเราได้ถึง 2 เดือน หลังจากนั้นจึงพัฒนาตัวเองและประกวดนางงามเพื่อทำให้ตัวเองมั่นคงสามารถดูแลคุณตา คุณยายได้เร็ว เพราะท่านแก่มากแล้ว และทำให้ทุกวันเป็นวันที่พิเศษเสมอ ไม่ใช่วาเลนไทน์เท่านั้น
“ทุกการตัดสินใจเราต้องยอมรับผลที่ตามมาด้วย เราไม่ได้ห้ามเด็กไม่ให้มีความรัก เพราะตัวเองก็มีเหมือนกัน ความรักเป็นสิ่งสวยงาม แต่สุดท้ายต้องยืนอยู่บนหลักการ ยืนอยู่บนฐานที่เราต้องรักตัวเอง อยู่บนพื้นฐานของการมีอนาคตที่ดี สุดท้ายถึงเราไม่มีเขาก็ยังมีตัวเราอยู่กับเรา เชื่อว่าอนาคตเราจะเจอใครสักคนที่เหมาะสมและดีกับเรา ถึงแม้ว่าจะไม่เจอใครคนนั้น แต่เราอยู่ได้ด้วยตัวเราเองนั่นคือสิ่งที่มหัศจรรย์และวิเศษที่สุดแล้วและอย่าปล่อยให้เกิดความรุนแรงถ้ามีครั้งแรกครั้งที่ 2,3 ก็จะตามมาดังนั้นถอยออกมา” แนท-อนิพรณ์ ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี