วันพฤหัสบดี ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
เตือน!ภาวะความดันตาสูงและโรคต้อหิน ภัยเงียบใกล้ตัว

เตือน!ภาวะความดันตาสูงและโรคต้อหิน ภัยเงียบใกล้ตัว

วันศุกร์ ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2568, 21.44 น.
Tag : กรมการแพทย์ โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ วัดไร่ขิง ภาวะความดันตาสูง โรคต้อหิน ภัยเงียบ ตาบอดถาวร แนวหน้าออนไลน์
  •  

กรมการแพทย์ โดยจักษุแพทย์ รพ.เมตตาฯ แนะนำว่าภาวะความดันตาสูงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคต้อหิน เป็นภัยเงียบที่อาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร อาจเกิดจากความดันในลูกตาที่สูงขึ้นจะมีผลทำให้ประสาทตาถูกทำลาย ปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิด ได้แก่ ผู้ที่มีบุคคลในครอบครัวที่เป็นต้อหิน อายุที่เพิ่มมากขึ้น ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิดที่มีการใช้ยาสเตียรอยด์อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน แนะนำควรพบจักษุแพทย์ตรวจสุขภาพดวงตาอย่างสม่ำเสมอ

นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคต้อหินคือโรคที่ขั้วประสาทตาถูกทำลาย เมื่อขั้วประสาทตาถูกทำลายจะมีผลทำให้สูญเสียลานสายตา เมื่อเป็นมากๆ อาจสูญเสียการมองเห็นในที่สุดเป็นการสูญเสียถาวรไม่สามารถกลับคืนมามองเห็นได้ ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดคือความดันในลูกตาขึ้นสูงผิดปกติ จึงทำให้เกิดภาวะเสื่อมของขั้วประสาทตา นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ อีก


นายแพทย์อาคม ชัยวีระวัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวว่า โรคต้อหินพบได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงผู้สูงอายุ กลุ่มที่พบมาก คือ กลุ่มผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป และมีประวัติคนในครอบครัวเป็นต้อหิน ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดการทำลายขั้วประสาทตาในโรคต้อหิน คือ ความดันตายิ่งสูง ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดต้อหินมากขึ้นและเร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังพบในกลุ่มที่มีโรคการไหลเวียนเลือดไม่ดีทำให้เลือดไปเลี้ยงที่ขั้วประสาทตาลดลง ผู้ที่มีสายตาสั้น หรือยาวมากๆ ก็มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดต้อหินเช่นกัน

แพทย์หญิงอรอร ธงอินเนตร จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านต้อหิน กล่าวเสริมว่า ภาวะความดันตาสูง คือ การเกิดความดันในดวงตาสูงกว่ามากกว่า 21 มิลลิเมตรปรอท ในผู้ที่อายุ 40 ปีขึ้นไป มีภาวะความดันตาสูงมากถึง 9.4 เปอร์เซ็นต์ และภาวะนี้มีแนวโน้มที่จะพบมากในผู้ป่วยต้อหินมุมเปิด ซึ่งเป็นต้อหินชนิดที่พบบ่อย สาเหตุที่ก่อให้ภาวะความดันตาสูงเกิดจากการรบกวนสมดุลปกติของการผลิตน้ำ และการระบายน้ำออกจากลูกตาที่ลดลง ถ้ามีภาวะความดันสูงอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้เส้นประสาทตาที่บอบบางถูกทำลาย และทำให้เกิดโรคต้อหินในที่สุด ผู้ป่วยระยะเริ่มแรกมักไม่มีอาการ เช่น ปวดตา หรือตามัว จะสามารถตรวจพบได้จากจักษุแพทย์เท่านั้น ภาวะความดันตาสูงยังมีความสัมพันธ์กับภาวะตาอื่นๆ เช่น โรคม่านตาอักเสบ โรคเบาหวานจอประสาทตา หากมีปัจจัยเสี่ยงข้างต้นแนะนำให้ปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อตรวจตาและวัดความดันตาอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยปีละครั้ง และในผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นต้อหินก็ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะความดันตาสูงและเป็นต้อหินได้ เช่นเดียวกัน โรคนี้มักไม่มีอาการ จะเริ่มสูญเสียลานสายตา คือ การมองเห็นจำกัดวงแคบลงอย่างช้าๆ จนระยะสุดท้ายอาจสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร ต้อหินบางประเภท เช่น ต้อหินมุมปิดเฉียบพลัน ผู้ป่วยจะมีอาการปวดตามาก ตามัวลง และตาแดง ถือเป็นภาวะเร่งด่วนมากต้องมาพบจักษุแพทย์โดยเร็ว สำคัญที่สุดคือ ผู้ป่วยต้องมาตรวจติดตามอาการ และปฏิบัติตามคำแนะนำของจักษุแพทย์อย่างเคร่งครัด ดังนั้น ในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงดังที่กล่าวมา และผู้ที่มีภาวะผิดปกติของการมองเห็นควรปรึกษาจักษุแพทย์ เพื่อวัดความดันตาและคัดกรองโรคตา และโรคต้อหินอย่างเหมาะสม

- 006

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สบส.เผยผลสำรวจสงกรานต์ 68 คนไทยใส่ใจสุขภาพ วางแผนเลี้ยงฉลองด้วยอาหารสุขภาพ สบส.เผยผลสำรวจสงกรานต์ 68 คนไทยใส่ใจสุขภาพ วางแผนเลี้ยงฉลองด้วยอาหารสุขภาพ
  • นอนละเมอ ท้องผูกเรื้อรัง มือสั่น ภัยเงียบ‘โรคพาร์กินสัน’ นอนละเมอ ท้องผูกเรื้อรัง มือสั่น ภัยเงียบ‘โรคพาร์กินสัน’
  • สปสช.ชวนผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มีความเสี่ยงสูงและญาติสายตรงฯ ทำแบบประเมินความเสี่ยง สปสช.ชวนผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มีความเสี่ยงสูงและญาติสายตรงฯ ทำแบบประเมินความเสี่ยง
  • \'หมอเจด\' เปิด 3 สาเหตุของ \'ตับอักเสบ\' ปล่อยไว้ระวังมะเร็งตับ 'หมอเจด' เปิด 3 สาเหตุของ 'ตับอักเสบ' ปล่อยไว้ระวังมะเร็งตับ
  • \'หมอเจด\'เตือน กินของทอดเยอะ เสี่ยง 5 โรคอันตราย 'หมอเจด'เตือน กินของทอดเยอะ เสี่ยง 5 โรคอันตราย
  • หายใจโล่งขึ้น! กทม.คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกพื้นที่ หายใจโล่งขึ้น! กทม.คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกพื้นที่
  •  

Breaking News

'สารัชถ์' ซีอีโอ กัลฟ์ ได้รับเกียรติ'กาตาร์' เชิญร่วมงานเลี้ยงดินเนอร์ร่วม'ทรัมป์'

'ปิงปอง'โชว์สกิลเทพถอดลุคชุดเดินพรมแดง'ชมพู่ อารยา' เต็มสิบไม่หักเป๊ะยันอินเนอร์

ชาวลุ่มน้ำกกผวาหน้าฝน หวั่นซ้ำรอยโคลนถล่ม เผยรบ.ไม่เคยซ้อมรับมือ

สิ่งที่น่าเสียดายในโลกนี้ จะมีอะไรน่าเสียดายเท่ากับปล่อยวันเวลาผ่านเลยไปโดยเปล่าประโยชน์

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved