เปิดวีรกรรม 'สมรภูมิช่องบก' ที่เคยเป็นบทพิสูจน์ความกล้าหาญของเหล่าวีรชนทหารไทย
"ชายแดนช่องบก" หรือที่รู้จักกันในนาม "สามเหลี่ยมมรกต" เป็นพื้นที่รอยต่อสำคัญที่เชื่อมโยงไทยกับลาวและกัมพูชา ตั้งอยู่ในอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นดินแดนสุดตะวันออกของสยามประเทศ พื้นที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงจุดผ่านแดนทั่วไป แต่ยังเป็นผืนแผ่นดินที่จารึกประวัติศาสตร์อันเข้มข้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะ สมรภูมิช่องบก ที่เคยเป็นบทพิสูจน์ความกล้าหาญของเหล่าวีรชนทหารไทย
คำว่า "ช่องบก" สื่อถึงลักษณะภูมิประเทศที่เป็นช่องทางสัญจรไปมาตั้งแต่สมัยโบราณ มักเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างพื้นที่ต่ำและพื้นที่สูง เช่นเดียวกับ "ปากช่อง" หรือ "ช่องตะโก" อย่างไรก็ตาม ความสำคัญของช่องบกไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การเป็นเส้นทาง แต่ยังเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่นำมาซึ่งความขัดแย้งหลายครั้ง
เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ชื่อ "ช่องบก" ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ชาติไทยคือ สมรภูมิช่องบก ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2528-2530 (บางข้อมูลระบุเริ่มตั้งแต่ ม.ค. 2528 ถึง ธ.ค. 2530) ในช่วงเวลานั้น กองทัพเวียดนามซึ่งยึดครองกัมพูชาอยู่ได้รุกล้ำเข้ามาในพื้นที่อ้างสิทธิ์ของไทย กองทัพไทย โดยเฉพาะกองกำลังสุรนารี ได้เข้าทำยุทธการเพื่อผลักดันและขับไล่กองกำลังต่างชาติออกไปจากแผ่นดินไทย
การสู้รบในสมรภูมิช่องบกเป็นไปอย่างดุเดือดและยากลำบาก เนื่องจากภูมิประเทศที่เป็นป่าทึบ เขาสูงชัน และมีทุ่นระเบิดอยู่เป็นจำนวนมาก ทหารไทยต้องเผชิญกับการต่อสู้ที่ต้องใช้ความกล้าหาญและความเสียสละอย่างสูง แม้จะประสบความสำเร็จในการขับไล่ทหารเวียดนามออกไปได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการสูญเสียกำลังพลจำนวนมาก โดยมีทหารไทยเสียชีวิตถึง 109 นาย และบาดเจ็บ 664 นาย นับเป็นบทบันทึกวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของทหารไทยในการปกป้องอธิปไตยของชาติ
แม้สมรภูมิช่องบกจะสิ้นสุดลง แต่ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่ซับซ้อน และปัญหาการปักปันเขตแดนที่ไม่ชัดเจนในอดีต ทำให้พื้นที่บริเวณช่องบกยังคงเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อน และเกิดความขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ ขึ้นเป็นระยะ แผนที่ที่ใช้ในการปักปันเขตแดนในอดีตนั้นขาดความแม่นยำและไม่สอดคล้องกันอย่างสมบูรณ์ ทำให้ทั้งไทยและกัมพูชาต่างหยิบยกขึ้นมาอ้างสิทธิ์ในพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งกลายเป็นชนวนความขัดแย้งที่ยังคงปรากฏให้เห็นจนถึงปัจจุบัน
ดังเช่นเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ก็ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะขึ้นอีกครั้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี ตามการเปิดเผยของกองทัพบก โดย พลตรีวรินทร์ วัฒนพรโชค รองโฆษกกองทัพบก รายงานว่า เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อเวลา 05.30 น.เมื่อทหารกัมพูชาเข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงจัดชุดประสานงานเข้าพูดคุยเจรจา แต่กลับถูกทหารกัมพูชาส่วนระวังเหตุเข้าใจผิดและใช้อาวุธ ทำให้เกิดการตอบโต้ประมาณ 10 นาที ต่อมาในเวลา 05.55 น. รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ได้ประสานงานกับรองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เพื่อยุติเหตุการณ์และตรึงกำลังบริเวณจุดปะทะ ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคีเพื่อหาแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติอย่างสันติ
เหตุการณ์นี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาเขตแดนอย่างต่อเนื่องและสันติวิธี
ภายหลังจากความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน อำเภอน้ำยืนและช่องบกได้ถูกพัฒนาฟื้นฟู มีโครงการพระราชดำริและส่งเสริมอาชีพเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และธรรมชาติ เช่น อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย และจุดชมวิวสามเหลี่ยมมรกต เพื่อให้ผู้คนได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และชื่นชมความงามของธรรมชาติ
ชายแดนช่องบกจึงไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ แต่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์และจิตวิญญาณของชาติ ที่สะท้อนถึงความเสียสละของบรรพบุรุษในการปกป้องผืนแผ่นดินไทย และความพยายามอย่างต่อเนื่องในการสร้างสันติสุขและความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน - 001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี