พบสารหนูในน้ำบ่อขุดแม่สายสูงลิ่ว ชาวบ้านผงะหลังใช้อุปโภคในครัวเรือน-ผื่นขึ้นตามตัว นักวิชาการ มฟล.ใช้ชุดตรวจ IQUAN ขณะที่ว่าที่สท.เวียงพางคำโอดชาวแม่สายมีชีวิตอยู่บนมะเร็ง ชาวบ้านหวั่นชลประทานผันน้ำแม่สายไปใช้ทำเกษตรกรรม
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 ผศ.ดร.สุรพล วรภัทราทร หัวหน้าศูนย์วิจัยปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีก่อกำเนิด มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้ลงพื้นที่แม่น้ำสาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อตรวจโลหะหนักในน้ำ (สารหนู-As) โดยใช้ชุดตรวจแบบรู้ผลทันที( IQUAN) ซึ่งเป็นชุดที่เคยตรวจไปแล้วก่อนหน้านี้ (30 เมษายน 2568) โดยใช้จุดเดิมในการตรวจเพื่อศึกษาหาแนวโน้มของปริมาณสารหนูว่ามีความเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เนื่องจากประชาชนต้องการรู้และติดตามสถานการณ์การปนเปื้อนสารหนูว่ามีค่าเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้เป็นความร่วมมือกับหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น ศูนย์จัดการภัยพิบัติเพื่อนพึ่ง (ภา) เทศบาลตำบลเวียงพางคำ
ทั้งนี้ในการตรวจน้ำที่หัวฝาย พรมแดนไทยพม่า มีประชาชนมารอสังเกตการณ์การตรวจกว่า 10 คน ผลการตรวจเบื้องต้น จุดที่ 1 แม่น้ำสายที่หัวฝาย พบสารหนู 0.12 มิลลิกรัม/ลิตร (mg/L) (ค่ามาตรฐานคือ 0.01 mg/L )การตรวจน้ำประปาจากก๊อกน้ำในบ้านเรือนไม่พบเกินค่ามาตรฐาน นอกจากนี้ยังมีประชาชนนำน้ำจากบ่อน้ำตื้น(บ่อเจาะ)ในบ้านประชาชน ห่างจากแม่น้ำสายประมาณ 100 เมตร มาให้ตรวจด้วย ซึ่งตรวจพบสารหนูเกินค่ามาตรฐาน คือ 0.10 mg/L โดยตรวจซ้ำ 3 ครั้ง เกินค่ามาตรฐานสองครั้ง การครั้งสุดท้าย error
นางบุญ ใจวงศ์ เจ้าของบ่อน้ำกล่าวว่า ได้ใช้น้ำจากบ่อน้ำตื้นปั้มขึ้นมาใช้อุปโภคในครัวเรือน และใช้ล้างบ้านจากน้ำโคลนน้ำท่วม พบว่ามีอาการคัน มีผื่นขึ้นตามมือ แขน เท้า เมื่อทราบผลแล้วในวันนี้ก็จะไม่ใช่น้ำบ่อ โดยจะใช้น้ำประปาซึ่งปลอดภัย
“ดีมากที่อาจารย์มาตรวจให้ในวันนี้ ได้รู้ว่าน้ำบ่อของเราปนเปื้อนสารหนู จะได้ไม่ใช้ต่อไป หากไม่รู้ก็จะเสี่ยงอันตรายในระยะยาว” นางบุญ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการรอผลการตรวจใช้เวลาประมาณ 3 นาทีเป็นบรรยากาศที่ลุ้นและมีการแสดงความดีใจเมื่อทราบว่าน้ำประปามีความปลอดภัย
ผศ.ดร.สุรพล กล่าวว่าสรุปได้ว่าน้ำประปายังคงปลอดภัย แต่น้ำในแม่น้ำสายค่าค่อนข้างสูง แต่ที่น่าสนใจคือบ่อน้ำตื้นที่มีความลึก 5-10 เมตร ที่ชาวบ้านนิยมขุดเพื่อนำน้ำใช้ในบ้าน ปรากฏว่าตรวจพบค่าสารหนูเกินมาตฐาน ดังนั้นจึงไม่ควรใช้แล้ว ดังนั้นทางการควรมีการแจ้งเตือนชาวบ้านให้หลีกเลี่ยงการ และสาธารณสุขควรเก็บตัวอย่างน้ำบ่อที่ชาวบ้านใช้ไปตรวจ รวมถึงบ่อบาดาลด้วยว่าปลอดภัยหรือไม่
ในวันเดียวกัน ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลเวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีการจัดประชุมสัมมนากรณีปัญหามลพิษข้ามพรมแดน แม่น้ำกก สาย รวก โขง “ปิดเหมืองต้นน้ำสาย ก่อนทุกอย่างจะสายเกินแก้” มีผู้เข้าร่วมประมาณ 50 คน
ดร.สืบสกุล กิจนุกร อาจารย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวว่าขณะนี้รัฐบาลพูดถึงแค่ปัญหาสารหนูในแม่น้ำกก แต่จริงๆ แล้วลามไปถึง 4 แม่น้ำ โดยแม่น้ำสายคือน้ำพิษ รัฐบาลพูดเฉพาะการแก้ปัญหาน้ำท่วม ต้องการให้ตรวจเร่งด่วน ประชาชนมีแนวปฏิบัติอย่างไร เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปช่วยต้องแต่งกายหรือปฏิบัติตัวอย่างไร ขอเทศบาล รพ.สต. สำรวจว่าใครบ้างโดนน้ำแล้วคัน ห้ามสัมผัสน้ำโดยตรง แต่น้ำท่วมแล้วเราลุยน้ำเราจะต้องมีแนวปฏิบัติให้อย่างไร น้ำท่วมนี้มากับสารโลหะหนัก เป็นน้ำพิษหรือไม่
ดร.สืบสกุลกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดในขณะนี้ เป็นความเสี่ยงสิ่งแวดล้อมระดับโลก เพราะพบภาพเหมืองแร่แรร์เอิร์ทที่ต้นน้ำ ซึ่งเบอร์หนึ่งคือจีน มีแร่นี้ในมือมากที่สุด ทุกอปท.ควรมีการตรวจ เพื่อให้รู้และเป็นแนวทางในการปฏิบัติ การตรวจที่แม่สายที่น่ากังวลคือพบตะกั่ว เกินค่ามาตรฐาน มูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ ทำรายงานเปิดเผยพื้นที่ทำเหมือง และเมื่อดูกูเกิลเอิร์ทก็เห็น
“ใครผลิตแร่ ใครนำเข้าแร่ ปลายทางของแร่อยู่ที่ไหน นอกจากนี้ระบบประปาของเราเปราะบางมาก ทั้งที่แม่สายและอ.เมือง เมื่อน้ำท่วมก็ต้องหยุดการผลิต แหล่งน้ำดิบของเราอยู่ในภาวะเสี่ยง ซึ่งที่แม่น้ำสายมีการตรวจน้ำและตะกอนดินเพียง 1 ครั้งเท่านั้น” ดร.สืบสกุลกล่าว
ชาวบ้านเกษตรกรรายหนึ่งกล่าวว่า น้ำในคลองชลประทานที่มาจากน้ำสาย ชลประทานก็คือน้ำสาย ที่ไหลไปยังพื้นที่เกษตรกว้างไกล เมื่อแม่น้ำสายปนเปื้อน เราจะมีมาตรการว่าขอปิดน้ำสายไม่ให้เข้าคลองชลประทาน เพื่อชะลอสารตกค้างในคลองชลได้หรือไม่ เพื่อยืดเวลาการสะสม
นายจรูญ บาระมีชัย อดีตประธานผู้สูงอายุเทศบาลตำบลแม่สาย กล่าววว่าบ้านของตนอยู่ติดน้ำเหมือง ขี้โคลนที่บ้านยังไม่หมดตั้งแต่น้ำท่วม จะมีชุดตรวจสารโลหะหนักเพื่อให้ประชาชนจะทราบข้อมูลได้อย่าไร อยากรู้ว่าน้ำบ่อที่บ้านตรวจได้หรือไม่ พืชผักในสวน อยากตรวจเพื่อที่จะได้รู้และป้องกันตนเอง
นายบัณฑิตย์ พันธ์พลากร ผู้อำนวยการศูนย์จัดการภัยพิบัติเพื่อนพึ่ง (ภา) และว่าที่สมาชิกสภาเทศบาลเวียงพางคำ กล่าวว่าเราใช้น้ำประปาจากแม่น้ำสายอุปโภคบริโภค แปรงฟัน การตกค้างของสารโลหะจะเป็นอย่างไร ก่อเป็นมะเร็งในวันข้างหน้า เมื่อวันที่ 24 พค. น้ำท่วมที่แม่สาย ตนได้ไปช่วยประชาชนล้างบ้านที่ถ้ำผาจม ปรากฎว่าเป็นผื่นขึ้นที่มือสองข้างจนวันนี้ยังไม่หาย
“ชุมชนติดแม่น้ำสายที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและปนเปื้อนสารพิษแบบนี้ ต่อไปใครจะมาช่วย ต้องใส่ชุดหมี ใส่ถุงมือ หรือสวมชุดอวกาศ คนจะมาช่วยนี่ต้องกล้าหาญมาก ชาวบ้านที่ยังไม่มีข้อมูลว่าสารพิษนี้จะสะสมร่างกายอย่างไร ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตอยู่กับมะเร็งที่จะเกิด คำว่าปลอดภัยในชีวิตของเราอยู่ตรงไหน 40,000 คนที่ใช้น้ำประปา มีความเสี่ยงต่อสุขภาพในอนาคต หากคนแม่สายกันเองยังไม่ปกป้องแม่น้ำที่เราใช้”นายบัณฑิตย์ กล่าว
นายธนวัฒน์ ปวงรังสี ชาวบ้านสายลมจอย กล่าวว่าในอดีตน้ำท่วมไม่ได้มาทุกปี ไม่ได้มาปีละหลายๆ ครั้งแบบนี้ ท่วมแล้วไปเร็ว แต่หลังๆ มานี้สังเกตสีน้ำขุ่น น้ำมาไม่ปกติ เพราะข้างบนเขาทำเหมือง การขุดลอกแม่น้ำสายที่ปลายน้ำแบบนี้จะไปสิ้นสุดตรงไหน ดินพัดมากับน้ำท่วมเยอะมาก เพราะเขาขุดแม่น้ำ ทำเหมืองที่ต้นน้ำของเรา นี่คือสิ่งที่กระทบกับเราจริง
น.ส.เพียรพร ดีเทศน์ เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา (พชภ.) กล่าวว่าปัญหามลพิษข้ามพรมแดนที่เกิดขึ้นกับแม่น้ำกก สาย รวก โขง 4 แม่น้ำ กำลังเป็นปัญหาที่ประชาชนต้องการเห็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ การเปิดหน้าดินทำเหมืองเถื่อนไม่มีกฎหมายใดๆ ที่ต้นน้ำของประชาชนนับล้านคนต้องยุติทันที ทุกวันนี้เราเห็นน้ำแต่เรากลับใช้ไม่ได้ สำหรับปัญหาแม่น้ำสาย ณ เวลานี้รัฐบาลยังไม่มีมาตรการแก้ปัญหาการปนเปื้อนสารโลหะหนัก
.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี