ย้อนสัมพันธ์คู่พ่อลูก‘ชิน-ฮุน’ บนปมร้อน‘พิพาท’ชายแดนกับเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด

ท่ามกลางสถานการณ์ระอุ “ไทย-กัมพูชา” ว่าด้วยปมร้อน...

พิพาทชายแดน!!!

เสียงปืนที่ดังสนั่น “ช่องบก อุบลราชธานี” จุดไฟขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศลุกลาม ซึ่งอันที่จริงเหตุปะทะที่ “ช่องบก” ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ในมุมคนไทยรู้สึกว่า “เขมรห้าว” ป่วนไม่เลิก

เพราะก่อนหน้านี้มีภาพปรากฏการกระทบกระทั่งที่ “ปราสาทตาเมือนธม”

ทว่า...“ช่องบก” ดูจะลุกลามหนักขึ้น และดูเหมือน “กัมพูชา” จะสบช่องใช้ประเด็นพิพาท “พื้นที่อ้างสิทธิ์” ครั้งนี้ขึ้นสู่ “ศาลโลก”

“ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา บอกว่า “เขมร” จะยื่นฟ้องศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เพื่อชี้ขาดกรณีพิพาทพื้นที่แนวชายแดนที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ พื้นที่ที่อยู่ในข้อพิพาท ประกอบด้วย

1.ปราสาทตาเมือนธม

2.ปราสาทตาเมือนโต๊ด

3.ปราสาทตาควาย

4.พื้นที่ “สามเหลี่ยมมรกต”

ในขณะที่ไทย โดยเฉพาะ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี และ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนากรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยังเป็นประเภท “แผ่นเสียงตกร่อง” ท่องแต่คำว่าใช้การเจรจา และสันติสุข แต่ “กัมพูชา” ไม่รอ…

ชิงลงมือ!!!   

ที่สำคัญกับกรณี “กองทัพ” พบว่ากัมพูชาเพิ่มกำลังทหารและอาวุธหนักเข้าพื้นที่ “ช่องบก” ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ และหัน “กระบอกปืนใหญ่” เข้าหาฝ่ายไทย และแจ้งไปยัง “รัฐบาล” ว่า จุดที่ทหารกัมพูชารุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ฝ่ายไทย ทำให้เกิดความไม่สบาย จึงขอประกาศ “ปิดด่าน” ชายแดนไทย-กัมพูชา ตลอดแนว เพื่อกดดันและตอบโต้ แต่...

นายกฯ-บิ๊กอ้วน แตะ“เบรก”!!!!

ท่ามกลางรายงานที่ว่า “พล.อ. เตีย เซ็ยฮา” รองนายกฯและรมว.กลาโหมกัมพูชา โทร.หา “บิ๊กอ้วน” ร้องขออย่า “ปิดด่าน” เพราะกังวลว่าจะกระทบการค้าขายตามแนวชายแดน และซ้ำเติม “วิกฤตเศรษฐกิจ” ขอให้รอผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee – JBC)ไทย-กัมพูชา

ทุกๆการกระทำที่เกิดขึ้นจาก “ฝั่งเขมร” ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่มองว่า “รัฐบาล” ล่าช้ากว่าเขมรไปหลายก้าว และไหนว่า “แน่นแฟ้น” กันหนักหนา

“ชินผู้ลูก” ก็เคยเดินทางไปกัมพูชา และจับมืออย่างแน่นแฟ้นกับ “ฮุนผู้ลูก” มาแล้ว

แต่หากยังจำกันได้ เมื่อครั้งที่ “ชินผู้บิดา” ทักษิณ ชินวัตร กลับมาประเทศไทย “ฮุนผู้บิดา” ฮุน เซน ก็แสดงความยินดี

ยิ่งไปกว่านั้น “ฮุน เซน” ยังเดินทางมาที่ประเทศไทย และเข้าเยี่ยม “ทักษิณ” ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ในฐานะ “เกลอรัก”

“ฮุน เซน” เคยพูดว่า “ทักษิณ" เป็นเหยื่อการเมือง ผมเคารพและชอบเขามากกว่าตอนที่เขาเป็นนายกรัฐมนตรี เขาจะมาเยือนกัมพูชาตอนไหนก็ได้ ผมพร้อมจัดเตรียมบ้านพักให้เขาในช่วงที่อยู่ในกัมพูชา ผู้คน (ทั่วโลก) พูดถึง ออง ซาน ซูจี ในเมียนมา ทำไมพวกเขาจะพูดถึงทักษิณบ้างไม่ได้”

“ฮุน เซน” กล่าวยกย่อง ทักษิณ ภายหลังปฏิเสธคำขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน โดยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในปี 2009

“ผมต้องการปกป้องกัมพูชาและปกป้องคนดีในประเทศไทย ผลประโยชน์ที่กัมพูชาได้รับจากทักษิณและรัฐบาลยิ่งลักษณ์คือ สันติภาพและการพัฒนาตามแนวชายแดน”

ฮุน เซน กล่าวถึง ทักษิณ ในปี 2013 ตอบโต้ความเห็นจาก “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตนายกรัฐมนตรีและผู้นำฝ่ายค้านในขณะนั้น กรณีข้อพิพาท “ปราสาทพระวิหาร” และพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา โดยเตือนไม่ให้ดึง “กัมพูชา” เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองไทย และทำให้ความสัมพันธ์กับรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เสียหาย

นี่กระมังที่ทำให้ “ทักษิณ” มั่นอกมั่นใจว่า “ไทย-กัมพูชา” เคลียร์จบ

ถึงขั้นบอกว่ากับ “ฮุน เซน” คุยกันเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่มีอะไร เรื่องที่กระทบกระทั่งกันบริเวณชายแดน แทนที่จะยิงกัน ก็เปลี่ยนมาเป็นเตะ “ตะกร้อ” กันตอนเย็น ก็ไม่มีอะไรแล้ว

แต่ “ท่วงที” ของกัมพูชา ที่ดำเนินการโดยพ่อลูก "ตระกูลฮุน” เกี่ยวกับข้อพิพาทชายแดนที่กำลังเกิดขึ้น อาจจะบอกได้ว่างานนี้พ่อลูก “ตระกูลชิน” เสียเปรียบ

 เพราะ “แพทองธาร” และรัฐบาล ถูกประชาชนมองว่า “ชักช้า” ทำได้เพียงการ “รอ” และกังวลว่าไทยจะ “เสียดินแดน”

ขณะที่ “ทักษิณ” จะว่ากันไปเที่ยวนี้ถือว่า “เสื่อมศรัทธา” ไปไม่น้อย

เพราะทุกท่าทีของ “ฮุน เซน” เล่นเอา “ทักษิณ” เสียรังวัดไปไม่น้อย เข้าตำรา...

เพื่อนรัก...หักเหลี่ยมโหด!!!

#ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์