สถานการณ์การแพร่ระบาดของบุหรี่เถื่อนในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง โดยเฉพาะใน จังหวัดสงขลา สตูล พัทลุง นครศรีธรรมราช และภูเก็ต ซึ่งติดอันดับ 5จังหวัดที่มีการระบาดของบุหรี่เถื่อนมากที่สุดในประเทศมาตลอดหลายปี กำลังถึงจุดวิกฤตอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ด้วยตัวเลขการระบาดที่ยังคงสูงอย่างน่าตกใจถึง 70-97% ของตลาดบุหรี่ทั้งหมดในบางพื้นที่สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลว ในการควบคุมและปราบปรามของหน่วยงานที่รับผิดชอบหลัก

การระบาดของบุหรี่เถื่อนทั่วประเทศเฉลี่ย 1 ใน 4 ของตลาด ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายมหาศาลต่อรายได้ภาษีของรัฐเกือบ 3 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งรวมถึงรายได้ท้องถิ่น เช่น รายได้ภาษี อบจ. รายได้ภาษีมหาดไทย ซึ่งเป็นงบประมาณสำคัญในการดูแลความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ แต่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอย่างรุนแรง เนื่องจากบุหรี่เถื่อนไม่มีการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานที่ชัดเจน

ที่น่าเป็นห่วงกว่านั้นคือ ข้อเท็จจริงที่ว่า การแพร่ระบาดของบุหรี่เถื่อนอยู่ในระดับที่ “ประชาชนรู้”และ “เห็นได้ชัด” แต่กลับกลายเป็นว่าเจ้าหน้าที่บางส่วนไม่รู้ หรือทำเป็นไม่รู้ ปล่อยให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอย่างต่อเนื่อง

สิ่งที่ตอกย้ำถึงความไร้ประสิทธิภาพในการทำงานคือ การที่หลายครั้งที่ผ่านมา การจับกุมบุหรี่เถื่อนรายใหญ่ในพื้นที่เหล่านี้ กลับเป็นผลงานของเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางเช่นชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองไม่ใช่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ควรจะรู้และเข้าใจปัญหาในพื้นที่ของตนเองดีที่สุด

คำถามคือ เหตุใดเจ้าหน้าที่ในพื้นที่บางกลุ่ม ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการจัดเก็บภาษีและปราบปรามสินค้าหนีภาษี จึงไม่สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร หรือกำลังมี “การปล่อยปละละเลย” เกิดขึ้นอย่างชัดเจน หรือว่ากำลังไม่พอมีงานอื่นจนล้นมือ??

แหล่งข่าวในพื้นที่หลายรายต่างสะท้อนความรู้สึกอัดอั้นตันใจที่เห็นบุหรี่เถื่อนวางขายกันอย่างโจ่งแจ้ง ราวกับเป็นเรื่องปกติ ทั้งที่ทุกคนรู้ดีว่าผิดกฎหมาย แต่กลับไม่มีการปราบปรามที่จริงจัง จนทำให้ผู้ค้ารายย่อยและขบวนการค้าบุหรี่เถื่อนไม่เกรงกลัวกฎหมายอีกต่อไป หรือบางครั้ง มีการเข้าไปจับกุมสั่งปิดร้าน แต่เพียงไม่กี่วันร้านเหล่านั้นก็กลับมาเปิดร้านทำธุรกิจได้ตามเดิม

ถึงเวลาแล้วที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา สตูล พัทลุง นครศรีธรรมราช และภูเก็ต รวมถึงอธิบดีกรมสรรพสามิต จะต้องเข้ามาดูแลและเร่งรัดการปราบปรามบุหรี่เถื่อนในพื้นที่ของตนเองอย่างจริงจังและเด็ดขาด หากยังคงปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่เพียงแต่ความเสียหายทางเศรษฐกิจและสุขภาพจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังรวมถึงความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อหน่วยงานภาครัฐก็จะลดต่ำลง

ประชาชนในพื้นที่ต่างตั้งคำถามอย่างตรงไปตรงมาว่า หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ หรือยังคง “มองไม่เห็น” การระบาดของบุหรี่เถื่อนที่เกิดขึ้นอย่างโจ่งแจ้ง รวมทั้งของเถื่อนสารพัดชนิด ก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องพิจารณาหา “คนอื่น”ที่มีความสามารถพิเศษและจริงจังกว่าเข้ามาทำหน้าที่แทน เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติและสุขภาพของประชาชนอย่างแท้จริง ก่อนที่ภาคใต้จะกลายเป็นศูนย์กลางการค้าบุหรี่เถื่อนอย่างสมบูรณ์