สมาพันธ์คนไร้บ้านไทย (Thai Homeless Confederation) เข้ายื่นหนังสือต่อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) และประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ก่อนการประชุมคณะกรรมกาหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2568 ที่ผ่านมา ณ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
น.ส.อารียา สุปรียาพร แกนนำสมาพันธ์คนไร้บ้านไทย กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่ทำให้สมาพันธ์ฯ เดินทางมายื่นข้อเสนอในวันนี้ มาจากบริการด้านสุขภาพในปัจจุบัน ที่ยังไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของกลุ่มคนไร้บ้าน ซึ่งมีลักษณะการใช้ชีวิตแบบเคลื่อนย้ายตลอดเวลาและไม่อยู่กับที่ จึงเล็งเห็นว่าจำเป็นต้องมีหน่วยงานที่สามารถให้บริการเชิงรุกในพื้นที่ต่างๆ โดยสมาพันธ์ฯ เสนอให้ สปสช. รับบทบาทเป็นกลไกหลักในการจัดบริการสุขภาพเฉพาะกลุ่มสำหรับคนไร้บ้าน เพื่อให้เข้าถึงสิทธิด้านสุขภาพได้อย่างเป็นธรรมและทั่วถึง
น.ส.อารียา กล่าวอีกว่า ภายหลังจากยื่นข้อเสนอต่อ นายสมศักดิ์ แล้วหลังจากนี้จะดำเนินงานแก้ไขปัญหาร่วมกับ สปสช. โดยจะมุ่งเน้นการติดตามและขับเคลื่อน 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1.กลไกการทำงานในระดับพื้นที่ สำหรับกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่ม 2.การลงพื้นที่เชิงรุก เพื่อติดตามปัญหาการเข้าถึงบริการสุขภาพของพี่น้องคนไร้บ้านในแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ สาระสำคัญของข้อเรียกร้องของสมาพันธ์คนไร้บ้าน ที่นำมายื่นหนังสือในครั้งนี้ มีจำนวน 5 ข้อ ประกอบด้วย
1.ให้ สปสช. เป็นเจ้าภาพที่พัฒนากลไกการทำงานร่วมกับสมาพันธ์คนไร้บ้านไทย ในรูปแบบคณะทำงานภายใต้คณะอนุกรรมการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ในการสร้างหลักประกันสุขภาพ เพื่อให้คนไร้บ้านเข้าถึงหลักประกันสุขภาพอย่างเท่าเทียม โดยอาจมีการจัดตั้งบริการด้านสุขภาพที่เฉพาะเจาะจงกับกลุ่มคนไร้บ้านทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ กลุ่มคนไร้บ้านในพื้นที่สาธารณะ, กลุ่มคนไร้บ้านในศูนย์พักฟื้น และ กลุ่มแรงงานย้ายถิ่น
2.ให้ สปสช. ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานส่วนท้องถิ่นในการบริหารจัดการ และดำเนินการให้คนไร้บ้านเข้าถึงบริการการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค โดยไม่จำกัดสิทธิหรือถูกเลือกปฏิบัติ ไม่จำกัดพื้นที่การใช้บริการของหน่วยบริการสุขภาพแบบเฉพาะเจาะจงของเขตบริการสุขภาพ โดยคนไร้บ้านและประชาชนทุกคนที่ไม่ว่าจะมีสัญชาติหรือรูปแบบสิทธิใด จะต้องได้รับการรักษาพยาบาลในกรณีฉุกเฉินทุกรูปแบบ
3.ให้ สปสช. ดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานส่วนท้องถิ่นให้การรับรองและสนับสนุนบริการด้านสุขภาพเพิ่มเติมเฉพาะสำหรับกลุ่มคนไร้บ้าน พร้อมทั้งพัฒนาจุดพักฟื้นฉุกเฉินกลางเมือง เพื่อเป็นการรองรับกลุ่มคนไร้บ้านที่อยู่ในระยะพักฟื้นจากการรักษาระยะยาว โดยเฉพาะภายในศูนย์พักคนไร้บ้าน, จุดประสานงานคนไร้บ้าน และการพัฒนาศักยภาพคนทำงาน
4.ให้ สธ. และ สปสช.เชื่อมโยงและพัฒนาฐานข้อมูลกลางด้านสิทธิการรักษาพยาบาล และประวัติการรักษาจากทุกหน่วยบริการสำหรับผู้มีสิทธิบัตรทองให้เป็นระบบเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้รับสิทธิการบริการที่รวดเร็ว และลดขั้นตอนที่ซับซ้อนของงานเอกสารและภาระเรื่องการเดินทาง
5.ให้ สธ. และกรุงเทพมหานคร ร่วมมือกันสร้างบริการเชิงรุกแก่คนไร้บ้าน โดยให้ศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ออกหน่วยบริการเคลื่อนที่แบบครบวงจร พร้อมกับดำเนินงานร่วมมือกับศูนย์พักคนไร้บ้านและชุมชน ในการคัดกรองและประเมินการใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นในรายบุคคล อาทิ ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ เพื่อให้คนไร้บ้านที่เป็นผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีตามที่ควรเป็น
ขณะที่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในฐานะประธานบอร์ด สปสช. เล็งเห็นว่า ปัญหาการเข้าไม่ถึงบริการสุขภาพของกลุ่มคนไร้บ้าน ส่วนใหญ่มากจากปัญหาเรื่องการยืนยันตัวตน เนื่องจากบางคนไม่มีบัตรประชาชนหรือหลักฐานในการแสดงตัวตน ทั้งยังมีการย้ายที่อยู่ ส่งผลให้เกิดความเหลื่อมล้ำในการเข้ารับบริการ จึงต้องใช้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันแก้ไข อย่างไรก็ดี สปสช. อาจทำหน้าที่ประสานงานเรื่องนี้ไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับกลุ่มคนไร้บ้าน เพื่อให้สามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่ทั่วถึงและเท่าเทียมต่อไป
ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ในกลุ่มประชากรที่เป็นคนไร้บ้าน แม้ว่าสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) จะให้ความคุ้มครองสิทธิ มีหลักประกันสุขภาพในการเข้ารับบริการไม่ต่างจากประชาชนทั่วไป แต่ในทางปฏิบัติอาจยังเป็นปัญหา ด้วยเป็นประชากรที่มีความจำเพาะทั้งการดำเนินชีวิตและที่อยู่อาศัยที่อาจไม่เป็นหลักแหล่ง ดังนั้นในการดูแลเพื่อให้เกิดการเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็น รวมถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค จำเป็นต้องร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง สปสช. จะนำเรื่องที่ได้รับมานี้ มาพิจารณาเพื่อหาช่องทางในการดำเนินการ โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี