สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2568 ระบุว่า คณะทำงานสนับสนุนการสร้างความเข้มแข็งและบทบาทของเครือข่ายผู้ป่วยในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ นำโดย นพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ ประธานคณะทำงานฯ ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมการดำเนินงาน “ศูนย์ฝึกผู้ไร้กล่องเสียง โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี” โดยการมีส่วนร่วมของเครือข่ายผู้ป่วยมะเร็งกล่องเสียง เมื่อปลายเดือน มิ.ย. 2568 ในการดูแลสุขภาพผู้ป่วยกลุ่มเฉพาะ
เพื่อเตรียมเสนอคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กำหนดให้เป็น ขึ้นทะเบียนเป็น “หน่วยบริการที่คณะกรรมการฯกำหนดเพิ่มเติม” ตามมาตรา 3 " ตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 รวมทั้งเยี่ยมชม“การบำบัดฟื้นฟูโดยชุมชนเป็นฐาน (CBTx)” ที่ชุมชนบ้านมาลาอี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่พร้อมเป็นต้นแบบในการดูแลฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดครบวงจร
ลงพื้นที่เยี่ยมชมการดำเนินงาน “ศูนย์ฝึกผู้ไร้กล่องเสียง โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี” นายวันชัย บานแย้ม นายกสมาคมผู้ไร้กล่องเสียงในประเทศไทย ได้ให้ข้อมูลการฝึกพูดผ่านหลอดอาหารสำหรับผู้ที่ไม่มีกล่องเสียง และแนวทางดำเนินงาน ระบุว่า ในผู้ป่วยมะเร็งกล่องเสียง การรักษาทางการแพทย์เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากผู้ป่วยต้องได้รับการผ่าตัดกล่องเสียงซึ่งทำให้ต้องเผชิญกับภาวะสูญเสียความสามารถในการพูดอย่างถาวร ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อทั้งสภาพจิตใจ คุณภาพชีวิตและการเข้าสังคม
ซึ่งสิ่งที่ผู้ป่วยต้องการอย่างแท้จริง นอกจากการฟื้นฟูเพื่อกลับมาพูดได้อีกครั้ง คือ การให้กำลังใจ ในรูปแบบเครือข่ายมิตรภาพบำบัด “เพื่อนช่วยเพื่อน-ผู้ป่วยช่วยผู้ป่วย" ซึ่งมีความรู้สึกและเข้าใจ ในการช่วยประคับประคองร่างกายและจิตใจในการดำเนินชีวิตต่อไปได้ ซึ่งปัจจุบันมีเครือข่ายที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ อย่างไรก็ดี เพื่อให้เกิดประสิทธิผล จำเป็นต้อง มีวิทยากรที่มีทักษะในการให้คำแนะนำและร่วมดูแลให้กำลังใจผู้ป่วยที่มาจากผู้มีประสบการณ์ตรงด้านการเจ็บป่วยจึง
โดยในส่วนนี้ หากในการดำเนินงาน ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐด้านสุขภาพ เช่น สปสช. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคเอกชนงเข้ามาร่วมสนับสนุนอย่างจริงจัง ในการฝึกอบรมวิทยากรให้มีมาตรฐานและได้รับการรับรองอย่างเป็นระบบ รวมถึงการยกระดับศูนย์ฝึกผู้ไร้กล่องเสียงฯ ก็จะสามารถเสนอเพื่อให้คณะกรรมการหลักฯ ประกาศกำหนดให้เป็น“หน่วยบริการที่คณะกรรมการฯกำหนดเพิ่มเติม” ตามมาตรา 3 ในระบบบัตรทอง ซึ่งจะทำให้ได้รับการจ่ายชดเชยค่าบริการ ที่สนับสนุนการดำเนินงานของเครือข่ายให้ยั่งยืนได้
ขณะที่การลงพื้นที่ “ชุมชนบำบัด CBTx บ้านมาลาอี” นายอดุลย์ มาลาอี ผู้นำชุมชนบ้านมาลาอี กล่าวให้ข้อมูลว่า ในการฟื้นฟูผู้ใช้ยาเสพติดโดยมีชุมชนเป็นศูนย์กลาง เรายึดหลัก "ผู้เสพคือผู้ป่วย" และมุ่งนำผู้เกี่ยวข้องเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาทางสาธารณสุข แทนที่จะใช้การลงโทษทางกระบวนการยุติธรรม เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนอย่างแท้จริง ช่วยให้ผู้เคยหลงผิดได้มีโอกาสฟื้นฟูตนเองทั้งร่างกายและจิตใจ และสามารถกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติ
ซึ่งความต่อเนื่อง ยืดหยุ่น และการมีส่วนร่วมของชุมชนอย่างแท้จริง เป็นจุดเด่นของชุมชนบำบัด CBTx บ้านมาลาอี ไม่ได้จบลงแค่การบำบัดระยะสั้น แต่เป็นการติดตามดูแลจนผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรี ขณะเดียวกันก็มีความยืดหยุ่นสูง เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมยังคงใช้ชีวิตกับครอบครัวได้ตามปกติ ทำให้ไม่รู้สึกถูกตีตราว่าเป็นผู้กระทำผิด ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของคนทั้งชุมชน ทั้งนี้ กระบวนการจะเริ่มต้นจากการสร้างความเข้าใจร่วมกัน ผ่านการจัดประชาคมหมู่บ้าน เพื่อให้ทุกครัวเรือนตระหนักและมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง
โดยมีคณะทำงานในพื้นที่ซึ่งประกอบด้วย คณะกรรมการกองทุนแม่ของแผ่นดิน, อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ทำงานร่วมกับหน่วยงานระดับอำเภอ เช่น ฝ่ายความมั่นคง และ ป.ป.ส. โดยผู้บำบัดจะต้อง ไม่พบสารเสพติดในปัสสาวะเป็นเวลา 40 สัปดาห์ โดยระหว่างนั้นสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่มารายงานตัวกับคณะทำงานทุกวันจันทร์ เพื่อตรวจร่างกาย ประเมินโภชนาการ และเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มที่เน้นสร้างแรงจูงใจ (MI) รวมถึงการให้คำปรึกษาทางจิตใจด้วยหลักคำสอนทางศาสนา
ด้าน รศ.ดร.ภญ.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ทั้ง 2 แห่งนี้ ทางคณะทำงานฯ ได้รับทราบข้อมูลและจะทำ การสรุปข้อมูลเพื่อพัฒนาเป็นนโยบาย พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของเครือข่ายผู้ป่วยและชุมชนบำบัด CBTx ใน ทั้ง 2 พื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ในการจัดบริการรูปแบบต่างๆ ทั้งนี้ เพื่อการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรครวมถึงการฟื้นฟูสมรรถภาพ แก่ประชาชนอย่างกว้างขวางต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี