'พระศรัณย์ สุธมฺโม' ผ่านการปลุกเสกตนเอง สู่พระหัวใจเพชร เอาชนะใจตนเองบนเส้นทางสมณเพศ
พระดีๆมักไม่ค่อยเป็นข่าว แต่วันนี้เรามีข่าวของพระดี ๆ มาให้อ่าน หนึ่งในนั้นคือ “พระศรัณย์ สุธมฺโม” หนึ่งในพระสงฆ์ที่ถูกปลุกเสกให้เป็นพระที่มีหัวใจแกร่ง สามารถมีอินทรีย์ 5 ที่เข้มแข็ง เอาชนะใจตนเองจนสามารถครองสมณเพศมาจนถึงทุกวันนี้ โดยท่านได้ผ่านการฝึกฝนอบรมมาอย่างเข้มข้นในโครงการ “จาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา” ซึ่งเป็นโครงการที่ “พระครูธีรธรรมปราโมทย์” หรือ “หลวงพ่อสำเริง ธมฺมธีโร” เจ้าอาวาส วัดดอยเทพนิมิต ตำบลป่าซาง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย และ ในฐานะประธานโครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา ได้ตั้งใจให้โครงการนี้พัฒนาพระสงฆ์ให้มีหัวใจที่เข้มแข็ง สามารถฝ่าฟันอุปสรรคที่จะมาเป็นมารบนเส้นทางแห่งสมณเพศได้ด้วยวิธีการเอาชนะใจตนเอง ไปอ่านเรื่องราวของ “พระศรัณย์ สุธมฺโม” ใน “ดีเอ็นเอของพระพุทธเจ้า”
จุดเริ่มต้น...เมื่อ "ครูดนตรี" ผันตัวสู่ร่มกาสาวพัสตร์
อาตมาเติบโตที่จังหวัดสงขลา และสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากเรียนจบ อาตมาได้กลับมาเป็นครูสอนดนตรีที่บ้านเกิด ชีวิตฆราวาสดำเนินไปตามปกติ จนกระทั่งโอกาสแห่งการ "ลาบวช" เปิดขึ้น เมื่อหน่วยงานมีนโยบายอนุญาตให้ลาบวชได้โดยยังคงได้รับเงินเดือนเป็นเวลา 3 เดือน ด้วยเจตนาเดิมที่ต้องการบวชเพื่อตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ตามประเพณี อาตมาจึงตัดสินใจเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์
แต่เมื่อครบกำหนด 3 เดือน แทนที่จะลาสิกขาบท อาตมากลับรู้สึกว่าสิ่งที่ได้รับเป็นเพียงเปลือกนอกของพิธีกรรม ยังไม่เข้าใจถ่องแท้ว่าจะนำหลักธรรมไปดับทุกข์ในใจได้อย่างไร ด้วยความมุ่งมั่นที่จะศึกษาและปฏิบัติธรรมให้ลึกซึ้งขึ้น อาตมาจึงตัดสินใจบวชต่ออีก 1 ปี เพื่อออกแสวงหาและปฏิบัติธรรมในสถานที่ต่างๆ และ 1 ปี ก็ยืดออกไปเป็น 2 ปี 3 ปี และต่อเนื่องมาเรื่อยๆ
แรงดึงดูดสู่แดนพุทธภูมิ...การตัดสินใจที่พลิกผัน
ในระหว่างที่บวชและปฏิบัติธรรม อาตมามีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะได้ไปเห็น 4 สังเวชนียสถานในประเทศอินเดียด้วยตาของตนเองสักครั้ง แต่ด้วยข้อจำกัดด้านปัจจัย ทำให้ความฝันนั้นดูเลือนลาง
กระทั่งได้รับทราบข่าวจากพระรุ่นน้องเกี่ยวกับโครงการ "จาริกธรรม ตามรอยบาทพระศาสดา" ที่วัดดอยเทพนิมิต จังหวัดเชียงราย พูดตามตรงแล้ว ในใจตอนนั้นไม่ได้มีความคิดอยากจะไปเดินจาริกให้ลำบากเลย ความตั้งใจมีเพียงแค่อยากไปเห็น 4 สังเวชนียสถานเท่านั้น แต่เมื่อโครงการนี้เปิดโอกาสให้ไปได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และอาตมาก็ไม่มีปัจจัย นี่จึงเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ความฝันเป็นจริง อาตมาจึงตัดสินใจว่า ต้องอดทนต่อความยากลำบากจากการเดินจาริกให้ได้ เพื่อไปให้ถึงแดนพุทธภูมิ จึงมุ่งหน้าไปเข้าร่วมโครงการที่วัดดอยเทพนิมิต จังหวัดเชียงราย
ประสบการณ์เปลี่ยนชีวิต ณ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ และแรงบันดาลใจในการศึกษาพระธรรม
การฝึกฝนของโครงการนั้นเป็นระบบอย่างยิ่ง ตั้งแต่ช่วงทดสอบและเตรียมตัวที่ประเทศไทย หลวงพ่อและคณะครูบาอาจารย์ก็ได้วางรากฐานสำคัญ โดยเน้นย้ำให้พระภิกษุทุกรูปศึกษาพระไตรปิฎกและพุทธประวัติจากพระโอษฐ์อย่างเข้มข้น เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเป็นแผนที่นำทาง
เมื่อเดินทางมาถึงประเทศอินเดีย ท่านจึงให้เปลี่ยนมาเน้นการภาวนาเป็นหลัก ให้ใช้ประสบการณ์ตรงในสถานที่จริงเป็นเครื่องมือปฏิบัติบูชา ความรู้ที่ได้ศึกษามาจึงไม่ใช่แค่ความจำ แต่กลายเป็นเครื่องมือในการพิจารณาธรรม ดังนั้น เมื่อได้ไปถึง ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ณ พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และหลวงพ่อได้เมตตาสาธยายพระสูตรต่างๆ มันจึงไม่ได้เป็นเพียงตัวหนังสือที่เคยอ่านอีกต่อไป แต่เป็นความจริงที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า ทำให้ซาบซึ้งถึงพระปัญญาธิคุณของพระพุทธเจ้าอย่างสุดหัวใจ การได้มาถึงจุดนี้ด้วยความยากลำบากทำให้เกิดความปีติท่วมท้น และเปลี่ยนความตั้งใจเดิมที่แค่อยากมาเห็น ให้กลายเป็นความปรารถนาที่จะกลับมาที่นี่ให้ครบ 3 ครั้ง
ศรัทธาที่งอกงาม...สู่การเป็นพระธรรมทูต
หลังจากกลับจากอินเดียครั้งแรก ชีวิตของอาตมาก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง อาตมาเกิดศรัทธาอย่างแรงกล้าในการศึกษาพระพุทธศาสนาโดยตรงจากพระไตรปิฎก ซึ่งเป็นความรู้ที่ลึกซึ้งและแตกต่างจากการเรียนนักธรรมทั่วไป การได้ไปสัมผัสสถานที่จริงทำให้เข้าใจและเชื่อมโยงกับพระธรรมคำสอนได้ดียิ่งขึ้น
อาตมาได้นำความรู้และประสบการณ์เหล่านี้มาสอนและพูดคุยกับญาติโยม และยังได้มีโอกาสไปช่วยงานหลวงพ่อที่อินเดียอีก 2 ครั้ง การเดินทางและทำงานที่นั่นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การได้อยู่ท่ามกลางหมู่ สหธรรมิก ที่มีความมุ่งมั่นในทิศทางเดียวกัน ทำให้เกิดเป็น กัลยาณมิตร ที่คอยช่วยเหลือเกื้อกูลกันในยามยากลำบาก การได้พบเพื่อนพระผู้มีอุดมการณ์เดียวกันนี้เอง คืออีกหนึ่งสมบัติล้ำค่าที่ได้รับจากโครงการ
เส้นทางแห่งการเผยแผ่ธรรมะ...สู่สากล
หลังจากการเดินทางไปอินเดียครั้งที่สาม อาตมาได้หยุดพักการเดินทางชั่วคราวเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และได้ใช้เวลาในช่วงนั้นในการสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่วัดนาค ต.บางปะหัน จากนั้น อาตมาได้เข้ารับการอบรมเป็นพระธรรมทูตสายต่างประเทศ และปัจจุบันได้จำพรรษาอยู่ที่ วัดป่าสันติธรรม รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา
ณ ที่แห่งนี้ อาตมาได้นำความรู้ ประสบการณ์ และเรื่องราวที่ได้จากโครงการ "จาริกธรรมฯ" รวมถึงหลักธรรมในพระไตรปิฎก มาเผยแผ่ให้แก่ญาติโยมชาวไทยและชาวต่างชาติได้รับฟัง ทำให้พวกเขาได้เข้าใจถึงความสำคัญของพระพุทธศาสนาและได้สัมผัสถึงคุณค่าของการเดินทางตามรอยบาทพระศาสดา
อาตมาขอกล่าวด้วยความซาบซึ้งใจว่า พระคุณของโครงการ "จาริกธรรม ตามรอยบาทพระศาสดา" โดยการนำพระครูธีรธรรมปราโมทย์ (หลวงพ่อสำเริง ธมฺมธีโร) แห่งวัดดอยเทพนิมิตนั้น ยิ่งใหญ่เกินกว่าจะพรรณนาได้ อาตมาเป็นเพียงผลผลิตหนึ่งจากภิกษุหลายร้อยรูป ที่ได้รับการ "สร้างชีวิต" ในทางธรรมจากโครงการนี้ จากภิกษุที่ยังคลอนแคลน สู่ผู้มีศรัทธามั่นคง และได้ทำหน้าที่พระธรรมทูตในวันนี้ และนั่นคือบทพิสูจน์อันชัดเจนต่อปณิธานของโครงการ ดังคำกล่าวของหลวงพ่อที่ว่า “โครงการนี้เป็นการปลุกเสกพระเป็นๆ เป็นการฝึกพระให้เป็นพระจริงๆ” อาตมาขอขอบพระคุณในความเมตตาของครูบาอาจารย์ทุกท่าน และขอบคุณในมิตรภาพของเพื่อนสหธรรมิกทุกคน ที่ร่วมเดินบนเส้นทางสายนี้ด้วยกัน
ท่านผู้อ่านสามารถอ่านรายละเอียด “ดีเอ็นเอของพระพุทธเจ้า” เพิ่มเติมได้ในหนังสือ “จาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา” ในมูลค่า 400 บาท พร้อมรับหนังสือดูธรรมชาติของจิต เขียนโดย “พระครูธีรธรรมปราโมทย์” โดยสามารถสั่งจองซื้อได้ที่ลิงค์ กูเกิ้ล ฟอร์ม https://forms.gle/UQw7t1w8yYYN5vpm7 ซึ่งจะได้รับหนังสือในช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ.2568 และสามารถโอนปัจจัยสั่งจองหนังสือ "จาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา" ที่บัญชี "กองทุนวัดดอยเทพนิมิต" ธนาคารกสิกรไทย สาขาแม่จัน จ.เชียงราย เลขที่บัญชี 219-2-49081-5 หรือ ร่วมบุญตามกำลังศรัทธา
สำหรับรายได้ทั้งหมดจากการจำหน่ายหนังสือจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา มีวัตถุประสงค์ 4 ด้าน ดังนี้ 1.เพื่อนำปัจจัยเป็นกองทุนให้พระสงฆ์ในโครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา ซึ่งจัดมาเป็นปีที่ 11 แล้ว 2.เพื่อนำปัจจัยบริจาคให้กับพระสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย 3.เพื่อนำปัจจัยในการสร้างโบสถ์ที่วัดดอยเทพนิมิต ตำบลป่าซาง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย และ 4.เพื่อนำปัจจัยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในด้านอื่นๆ เช่น ด้านการศึกษา เป็นต้นสำหรับความคืบหน้าของหนังสือจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา ท่านสามารถติดตามได้ทางเพจเฟสบุ๊ค “งมงายสไตล์หมอบี”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี