วันเสาร์ ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
รายงานพิเศษ : กัญชาทางการแพทย์ โจทย์ที่ต้องตอบ...คุมได้จริงหรือ?

รายงานพิเศษ : กัญชาทางการแพทย์ โจทย์ที่ต้องตอบ...คุมได้จริงหรือ?

วันอาทิตย์ ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag :
  •  

ปัญหาเรื่องกัญชาทางการแพทย์กับกัญชาเสรี กัญชาเพื่อนันทนาการเป็นประเด็นถกเถียงในสังคมทุกระดับทั้งฝ่ายการเมืองที่ต่อสู้กันอย่างถึงพริกถึงขิง คนนักธุรกิจที่ลงทุนทำธุรกิจในรูปแบบต่างๆ ไปไม่น้อย รวมไปถึงคนที่ห่วงใยผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน

เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ที่โรงแรมแมนดารินกรุงเทพมหานคร, มูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ (มสส.) โดยการสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดประชุมโฟกัสกรุ๊ปเรื่อง “ทิศทางแนวโน้มกัญชาเพื่อการแพทย์...ทำได้จริงหรือ?” โดยมี จิระ ห้องสำเริงสื่อมวลชนอาวุโส เป็นผู้ดำเนินรายการ


ก่อนงานจะเริ่มต้น วิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ด้านการสื่อสารมวลชน เปิดประเด็นว่าการใช้ประโยชน์และอันตรายจากการใช้กัญชายังเป็นที่ถกเถียงของคนทั่วโลก หลายประเทศให้ใช้กัญชาเพื่อนันทนาการแล้ว เช่น อุรุกวัย แคนาดา เม็กซิโก มอลตา ลักเซมเบิร์ก แอฟริกาใต้ เยอรมนี แต่ประเทศไทยยังมีความเห็นที่แตกต่างกันเรื่องการใช้กัญชาเพื่อนันทนาการและทางการแพทย์

สสส.นั้นมีจุดยืนชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการใช้กัญชาเพื่อนันทนาการและการนำไปผสมในผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพเนื่องจากยังไม่มีมาตรการกำกับและควบคุมชัดเจน สสส.สนับสนุนทั้งการวิจัยสร้างองค์ความรู้เรื่องการใช้กัญชาทางการแพทย์ ผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งระดับบุคคลและสังคม รวมทั้งการสื่อสารรณรงค์ให้ความรู้กับเด็ก เยาวชนและสังคมให้รับทราบถึงอันตรายของการใช้กัญชาในทางที่ไม่เหมาะสม

ด้าน วัชรพงศ์ พุ่มชื่น ผู้จัดการมูลนิธิศูนย์วิชาการสารเสพติด หนึ่งในองค์กรที่ร่วมเสนอร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ...ให้ข้อมูลกับผู้ร่วมประชุมว่าหลังประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 พ.ศ.2565 กำหนดให้ทุกส่วนของกัญชาไม่ถือเป็นยาเสพติดและสารสกัดกัญชาที่มีสาร THC หรือ CBD ไม่เกิน 0.2% ไม่ถือเป็นยาเสพติด และการที่รัฐสภามีมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดพ.ศ.2564 โดยการถอดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด เป็นการเปิดเสรีทางกัญชาอย่างไม่มีข้อจำกัด ประชาชน คนไทยจึงอยู่กับสถานการณ์เสรีกัญชามากกว่า 3 ปี มีทั้งคนที่ได้ประโยชน์และได้รับผลกระทบจากกัญชา ปัญหาคือเด็กเยาวชนหาซื้อได้ง่ายใช้กัญชาผสมกับสารเสพติดประเภทอื่นบางคนกลายเป็นผู้ป่วยจิตเวช ถึงเวลาต้องมีกฎหมายที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันและลดผลกระทบจากการใช้กัญชาในทางที่ผิด

“การใช้กัญชาในทางสร้างสรรค์คือ การใช้กัญชาทางการแพทย์ที่มาจากฐานงานวิจัยเน้นความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นสำคัญ เช่น การรักษาโรคลมชักรักษายากในเด็กด้วยสารสกัดกัญชา CBD สูง การใช้กัญชาทางการแพทย์ในกลุ่มแคนนาบิไดออล(Cannabidiol) เป็นยาเสริมการรักษาโรคพาร์กินสันจึงอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับ
ผู้ป่วย หรือกรณีการดูแลผู้ป่วยมะเร็งแบบประคับประคองผ่านคลินิกกัญชาทางการแพทย์ เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วยมะเร็ง ลดอาการไม่พึงประสงค์ระหว่างการรักษา ไม่ได้มุ่งผลการรักษาต่อก้อนมะเร็งโดยตรง” นายวัชรพงศ์ กล่าว

ส่วน ธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน (ขสย.) กล่าวว่าสังคมไทยต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันใช้ประโยชน์จากกัญชาอย่างปลอดภัย การมีพระราชบัญญัติควบคุมกัญชาจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง

ขณะนี้เครือข่ายนักวิชาการ ภาคประชาสังคม และประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 17,343 คน ได้ร่วมกันเสนอ ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ... ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร สาระสำคัญคือการใช้กัญชาทางการแพทย์ ไม่ส่งเสริมการขายหรือใช้กัญชาเพื่อนันทนาการ มีคณะกรรมการกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ที่ชัดเจน มีการออกใบอนุญาตกัญชาแยกออกจากกัญชง การป้องกันและควบคุมการใช้กัญชาไม่เหมาะสม ควบคุมการโฆษณาการสื่อสารการตลาดกัญชาหรือผลิตภัณฑ์กัญชา

นอกจากนี้ จะส่งเสริมการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์การปรับปรุงพันธุ์ที่มีคุณภาพ ให้สถานพยาบาลปลูกกัญชาเพื่อนำไปใช้รักษาผู้ป่วยได้ ผู้ป่วยปลูกกัญชาได้ถ้าปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด รวมทั้งการคุ้มครองเด็กเยาวชน โดยเชื่อว่าจะทำให้คนไทย อยู่ร่วมและใช้ประโยชน์จากกัญชาได้อย่างปลอดภัย โดยส่วนตัวเห็นว่าเราควรจะมีกฎหมายควบคุมกัญชาเป็นการเฉพาะเพื่อให้เกิดการควบคุมอย่างจริงจัง ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเสนอกฎหมาย โดยประชาชนสามารถร่วมแสดงความเห็นได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (https://www.
parliament.go.th/section77/survey_detail.php?id=474) ถึงวันที่ 6 สิงหาคม 2568 นี้

สื่อมวลชนที่ร่วมวงประชุมวันนั้นได้รู้ข้อเท็จจริงว่าเวลานี้ผู้เสพกัญชารายใหม่ในเมืองไทยเพิ่มมากขึ้น นักโทษคดียาเสพติดล้นคุก มีเด็กเรียนไม่เก่งหรือเด็กหลังห้องหลุดออกจากระบบโรงเรียนไปรวมตัวกันเสพกัญชาและกลายเป็นพ่อค้าขายกัญชา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวเมืองไทยเพราะคิดว่าสูบกัญชาได้เสรี มิหนำซ้ำหลายคนขนกัญชาออกจากเมืองไทยเพราะคิดว่าไม่ผิดกฎหมายแล้วไปโดนจับติดคุกที่ประเทศอังกฤษหลายคน

และยังได้รู้ว่าการลงทุนปลูกกัญชาทางการแพทย์นั้นไม่ง่าย ลงทุนสูง เมล็ดพันธุ์ก็แพง ต้องปลูกในโรงเรือนที่เป็นระบบปิด มีการควบคุมอุณหภูมิที่พอเหมาะ ส่วนพันธุ์
กัญชาที่ชาวบ้านทั่วไปปลูกนั้นเป็นกัญชาเพื่อนันทนาการ นำไปเสพ ผสมอาหารและใส่หม้อก๋วยเตี๋ยวเท่านั้น ส่วนการใช้ทางการแพทย์ต้องมีการวิจัยทางคลินิกในกลุ่มโรคที่มีหลักฐานหนักแน่นว่าสามารถใช้กัญชารักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ควรจำกัดใบอนุญาตและกำหนด Zoning ให้เป็นพื้นที่ควบคุม รวมทั้งห้ามนำกัญชาไปผสมในสูตรอาหารต่างๆด้วย

บทสรุปวันนั้นคือสังคมยังขาดองค์ความรู้ที่ถูกต้องอีกมาก

ก่อนปิดประชุม อภิวัชร์ เกตุทัต ประธานมูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ ทิ้งท้ายว่ากัญชาเป็นได้ทั้งพระเอกและผู้ร้าย ใช้เพื่อการแพทย์หรือสุขภาพเป็นความหวังของผู้ป่วยอาจจะมีส่วนสร้างรายได้ แต่ทางสังคมก่อให้เกิดผลกระทบตามมานานัปการ
แต่ที่แน่ๆ กัญชาเสรีเพื่อนันทนาการ ผสมสูตรอาหารและยาเสพติดมีโทษมหันต์อย่างแน่นอน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘อิทธิพลคนรอบข้าง’ วิจัยชี้‘มีผล’ตัดสินใจ ‘อิทธิพลคนรอบข้าง’ วิจัยชี้‘มีผล’ตัดสินใจ
  • เล่นเอากัมพูชาผวา! \'หลวงตาสุจย์\'ถูกมองเป็นสายข่าวให้ไทยหลังกระแสโซเชียลร้อนระอุ เล่นเอากัมพูชาผวา! 'หลวงตาสุจย์'ถูกมองเป็นสายข่าวให้ไทยหลังกระแสโซเชียลร้อนระอุ
  • ‘โซเชียลปั่นเกลียดชัง’น่าห่วง ‘แรงงานข้ามชาติ’กลางขัดแย้ง ‘โซเชียลปั่นเกลียดชัง’น่าห่วง ‘แรงงานข้ามชาติ’กลางขัดแย้ง
  • สกู๊ปพิเศษ : ‘ลำไย’บ้านร้องขุ้ม-เชียงใหม่ หวานละมุนด้วยนิเวศเกษตร สกู๊ปพิเศษ : ‘ลำไย’บ้านร้องขุ้ม-เชียงใหม่ หวานละมุนด้วยนิเวศเกษตร
  • บทความพิเศษ : ‘ตื่นเถิดชาวไทย อย่าหลับใหลลุ่มหลง’ บทความพิเศษ : ‘ตื่นเถิดชาวไทย อย่าหลับใหลลุ่มหลง’
  • ‘สปสช.’เล็งเพิ่มหน่วยบริการ ตามมาตรา3ในระบบบัตรทอง ‘สปสช.’เล็งเพิ่มหน่วยบริการ ตามมาตรา3ในระบบบัตรทอง
  •  

Breaking News

ฟันเปรี้ยง! ‘เขากระโดง’เอฟเฟกต์เขย่า‘สีน้ำเงิน’ ดันเรตติ้ง‘ลุงป้อม-พปชร.’

นายจ้างไล่ออกแล้ว! คนงาน 'เขมร' ทำคลิป ดูหมิ่นคนไทย-ธนบัตรไทย

‘จิรายุ’เผยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาสงบ วันนี้ไม่มีเหตุปะทะ

‘ทหาร’ขอมา! จัดให้‘หนังสติ๊ก’ยิงทหารเขมร-โดรนก่อกวน สุดว้าวลงอาคมฝาก‘ฮุน เซน-เจ๊มาลี’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved