สารจากนักรบ! 'ร้อยตรี ธนาวุธ เวชสงเคราะห์' เพิ่งเข้าใจความหมายของคำว่า'เสียสละ'

สารจากนักรบ! 'ร้อยตรี ธนาวุธ เวชสงเคราะห์' เพิ่งเข้าใจความหมายของคำว่า'เสียสละ'

วันอังคาร ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 15.19 น.

วันที่ 26 สิงหาคม 2568 เพจเฟซบุ๊ก "กองบัญชาการกองทัพไทย Royal Thai Armed Forces Headquarters" โพสต์ข้อความว่า  "สารจากนักรบ" 

บทความนี้อาจจะยาวสักหน่อยนะครับ กระผม ร้อยตรี ธนาวุธ เวชสงเคราะห์ 


ผู้บังคับหมวดปืนเล็ก กองร้อยอาวุธเบา กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 16 นักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 61 และนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 72  

สมัยผมเป็นนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ผมเคยได้รับฟังคำสอนมากมายสมัยเป็นนักเรียนแต่ตอนนั้นผมเองได้แค่ฟังแต่ก็ยังไม่เคยเข้าใจ จนวันนึงที่ผมต้องพาลูกน้องตบเท้าเข้าสนามรบทำให้ผมนั้นได้เข้าใจอะไรหลายอย่างอย่างลึกซึ้ง ผมได้เข้าใจความหมายของคำว่า "เสียสละ" ซึ่งมีค่ามากกว่าคำว่า "หน้าที่" เมื่อเราต้องไปเผชิญความเหนื่อยยากลำบากหรือภัยอันตราย ที่ทั้งรู้ว่าอาจจะเกิดการสูญเสียหรือทุพพลภาพ เราสามารถตัดสินใจได้ว่าเราจะไปหรือไม่ไป เราสามารถละทิ้งหน้าที่ได้ด้วยการหนีหรือถอยหลังกลับแต่เมื่อเราตัดสินใจที่จะไปนั่นคือ "เสียสละ" 

คำว่า "กล้าหาญ" คือการตัดสินใจไม่ใช่ผลการปฏิบัติ เพราะเมื่อประเมินสถานการณ์แล้วรู้ว่าเรากำลังจะไปตายหรือสูญเสียแต่เราก็ยังคงจะไปไม่ว่าผลการปฏิบัติจะเป็นอย่างไร ตอนนั้นคุณคือคนที่กล้าหาญ 

ความอุ่นใจเกิดขึ้นเมื่อในสนามรบไม่มีเราคนเดียวแต่มีกำลังพล นายสิบ  น้องพลทหาร ที่อยู่เคียงข้างดังนั้นเราต้องรักเขาเหมือนที่เรารักชีวิตตัวเอง

เราเป็นผู้นำในตำแหน่งได้แต่ลูกน้องจะตามหรือไม่ตามเรานั้นมันอยู่ที่ "ความเชื่อมั่น" ดังนั้นความเป็นผู้นำมีความหมายและจิตวิญญาณที่ลึกซึ้ง เหมือนที่พี่บุ๊คบอก (ร้อยตรี เกียรติวงศ์  สถาวร) ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่จนได้สูญเสียขาจากการเหยียบกับระเบิดเพื่อเจาะทางในการยึดพื้นที่บริเวณปราสาทตาควาย" ถ้าเราไม่เข้าลูกน้องก็ไม่ตามถ้าลูกน้องไม่ตามภารกิจก็ไม่สำเร็จ "แต่ความจริงแล้วแม้เราจะเข้าแต่ลูกน้องก็เลือกได้ที่จะไม่ตามเราแต่ที่ลูกน้องเขาตามเราเพราะเขาเชื่อมั่นในตัวของผู้นำ" 

เมื่อเราตัดสินใจตบเท้าออกจากบังเกอร์หรือที่มั่นหรือผ่านแนวลวดหนามฝ่ายเราออกไป เข้าในพื้นที่ของอริราชศัตรูเราได้ทำใจ และเตรียมตัวที่จะตายไปแล้ว 100% ถ้าพิการหรือรอดกลับมาคือ กำไรและความโชคดี 

เหรียญเชิดชูเกียรติ และเหรียญกล้าหาญ จริง ๆ แล้วไม่ได้มีค่ากับคนที่เสียชีวิตไปแล้วเพราะเขาคงไม่รับรู้ แต่มีค่ากับคนที่สูญเสียอวัยวะร่างกาย และครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกครั้งที่เศร้าหรือเสียใจ อย่างน้อยเมื่อมองย้อนมามันคือเครื่องเตือนใจว่าการจากไปหรือความสูญนี้เพื่อประเทศชาติซึ่งเต็มไปด้วยความกล้าหาญ และเสียสละ  ความทุกข์ความเศร้านั้นก็จะเบาบางลง (คนที่ออกไปรบจริง ๆ ผมเชื่อว่าจะคิดเหมือนผมทุกคนนะครับ ไม่อยากได้เงิน 10 ล้านหรือเหรียญกล้าหาญอะไรหรอกขอแค่เราไปทำภารกิจเพื่อประเทศชาติให้สำเร็จ และรอดปลอดภัยกลับมาหาครอบครัวมีค่ามากกว่า) เพราะผมรอดจากเหตุการณ์ปะทะที่ช่องอานม้าคืนวันที่ 28 กรกฎาคม 2568  ก่อนจะยุติการยิงเหมือนผมได้มีชีวิตใหม่ผมจึงมองว่าสิ่งอื่น ๆ เป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลย 

วันที่ผมกับลูกน้องตัดสินใจจะปฏิบัติหน้าที่ร่วมกัน ผมไม่เคยคิดที่จะไปฆ่าหรือตัดหัวใครผมคิดแค่เพียงว่าผมมาทำหน้าที่ ทหารกัมพูชาบางคนเขาก็มีครอบครัวเขาก็ไม่ได้อยากให้เกิดสงครามแต่เขาก็ต้องทำตามคำสั่งผู้นำ และทำเพื่อประเทศชาติของเขา และทำตามสิ่งที่เขาเชื่อ  

"ความสามัคคี" คือหัวใจสำคัญของ "ชัยชนะ" ในการรบปัจจุบันนั้นเราต้องปฏิบัติการทางการเมืองตั้งแต่ระดับรัฐบาล ทางการทหาร  การข่าว หรือสิ่งต่าง ๆ ควบคู่กัน ความรักความสามัคคีจึงเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จ ดังนั้นเราต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน  การปฏิบัติที่สอดคล้องกัน และไปในทิศทางเดียวกันนั่นคือ "ความสามัคคี" 

ผมขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่เป็นแนวหลังที่ส่งกำลังใจให้ทหารไทยพร้อมทั้งช่วยเหลือหรือสนับสนุนทุกสิ่งทุกอย่างในการปฏิบัติหน้าที่ มันคือความสามัคคีและเสียสละที่มีค่ามากกว่าสิ่งใด
การรบย่อมมีการสูญเสียไม่ว่าจะมากหรือน้อยเป็นสิ่งที่ทหารทุกคนรับรู้และเข้าใจแต่ขอให้การสูญเสียนั้นไม่สูญเปล่า ไม่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ส่วนตนของผู้หนึ่งผู้ใด เป็นการสูญเสียเพื่อประเทศชาติและอธิปไตยย่อมเป็นการสูญเสียที่มีคุณค่า สมเกียรติและภาคภูมิใจอย่างสูงสุดของทหาร 

“เมื่ออยู่ในสนามรบ ไม่ว่าจะยศอะไร ก็หนึ่งชีวิตเท่ากัน” ทุกชีวิตนั้นมีคุณค่าเพราะทุกคนมีเลือดเนื้อ มีร่างกายและจิตใจและคนที่รักรออยู่ พลทหาร นายสิบ นายร้อย เราฝากชีวิตไว้ด้วยกัน ในการสู้รบเราหวังให้ประเทศชาติสงบสุข รักษาไว้ซึ่งอธิปไตยได้แผ่นดินที่เคยเป็นของเรานั้นคืนมาปราศจากการรุกราน ดูถูกเอาเปรียบหรือกลั่นแกล้งคนไทย "แผ่นดิน" คือบ้านหลังใหญ่ที่มีคนไทยอาศัยอยู่  เรามีเกียรติ เรามีศักดิ์ศรี  และเราจะไม่ยอมให้ใครมาดูถูกรังแกหรือเหยียดหยาม คำว่า "เอกราช" คือความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน ดั้งนั้นการที่ทหารได้ตบเท้าเข้าสนามรบคือเกียรติอย่างสูงสุด 

ผมตัดสินใจให้ทุกอย่างกับ ประเทศชาติ และอาชีพที่ผมรักแม้กระทั่งชีวิต ผมให้อะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว ผมเสียใจที่ผมพาลูกน้องเข้าไป กลับเป็นผมเองที่รอดกลับมา ผมเสียใจ และร้องไห้ทุกครั้งที่นึกถึงรอยยิ้ม คำพูด ความรักของลูกน้องที่มีต่อผม ทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกเหตุการณ์ ทุกความทรงจำ ทุกความรู้สึก ผมจะจดจำมันไปตลอดชีวิตรับราชการ ผมหวังว่าบทความนี้จะแทนคำขอบคุณและมีประโยชน์ต่อผู้ที่อ่าน และเป็นการสดุดีแก่ผู้ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ทุกคน ขอบพระคุณครับ 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top