ใครจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ในคณะรัฐมนตรีของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ทุกคนที่ติดตามอยู่ ก็คงจะพอทราบ กันอยู่แล้ว
ด้วยสังคมไทยที่กำลังเบื่อหน่ายนักการเมืองมืออาชีพ
ด้วยสังคมไทยที่กำลังต้องการ “นักบริหารมืออาชีพ (Professional Executives)” เข้ามาบริหารบ้านเมือง
______________________________
ก็ต้องขอแสดงความยินดีและความชื่นชมต่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศ ที่รับฟังเสียงของประชาชนคนไทย ที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยทั้งสามของระบอบประชาธิปไตย (อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจตุลาการ และอำนาจบริหาร)
โดยการนำเอามืออาชีพ ในการบริหาร (Professional Executives) เข้ามาร่วมในคณะรัฐมนตรี ถึง 6 คน ได้แก่
1. ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ราชบัณฑิต
ผู้เป็นนักกฎหมายมืออาชีพ มีแบ็กกราวนด์ด้านการศึกษากฎหมายมากมาย รวมทั้งการเป็นประธานกรรมการกฤษฎีกาคณะต่างๆ เคยทำงานระดับบริหารทางด้านรัฐกิจ และประชากิจ
ทั้งที่ ม.จุฬาฯ, สถาบันพระปกเกล้า, ม.ศิลปากร,ม.เชียงใหม่ ฯลฯ เป็น ผศ., รศ., และ ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายหลายแห่ง จนมาเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(นักบริหาร 11) จะมาเป็นรองนายกฯ รัฐมนตรีในรัฐบาลนายอนุทิน จึงถือเป็นนักบริหารมืออาชีพ
ได้ทั้งในกลุ่มรัฐกิจ (Public Sector) และกลุ่มประชากิจ(Social Sector)
2. นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว นักบริหารมืออาชีพในด้านกิจการระหว่างประเทศ เคยเป็นเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ฝรั่งเศส, เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น, เอกอัครราชทูตประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นนักบริหารมืออาชีพจากกลุ่มรัฐกิจ (Professional Executive in the public sector) ได้
3. นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ซึ่งถือว่าเป็นนักบริหารมืออาชีพในด้านการเงินการคลัง ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน มาแล้วอย่างโชกโชน มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งถือเป็นนักบริหารด้านรัฐกิจ (Professional Executive in the public sector) ได้แน่
แบ็กกราวด์ด้านการศึกษาก็ดีเลิศ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประสบการณ์ก็ดีเลิศ ผ่านงานธนาคารในไทยและธนาคารโลก เคยเป็นอธิบดีในกระทรวงการคลังหลายกรม ทั้งกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต กรมธนารักษ์ ฯลฯ
4. นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ นักบริหารธุรกิจมืออาชีพ (Professional Executive in the business sector) ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในทุกธุรกิจที่ผ่านการบริหารของเธอมา ไม่ว่าจะเป็น IBM ในประเทศ, IBM ที่สหรัฐอเมริกา, ธุรกิจดาวเทียมไทยคม ธุรกิจดุสิตธานี และอื่นๆ โดยจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
5. นายวรภัค ธันยาวงษ์ นักบริหารมืออาชีพในด้านการเงินการธนาคาร เคยเป็นผู้จัดการใหญ่ธนาคารต่างประเทศ สาขาประเทศไทยหลายแห่ง เช่น Bank of America, Deutsche Bank, J.P. Morgan และธนาคารกรุงไทย จำกัด นับว่าเป็นนักบริหารมืออาชีพด้านธุรกิจได้ (Executive in the business sector) มาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
6. พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ เป็นอีกบุคคลหนึ่งที่น่าได้รับการพิจารณาว่าเป็นนักบริหารมืออาชีพอีกท่านหนึ่งได้ ถึงแม้จะไม่เคยเป็นแม่ทัพภาคใดมาก่อน แต่ก็เป็นมืออาชีพในวงการทหาร (Public Sector) มาช้านาน เคยเป็นทางอาจารย์โรงเรียนเสนาธิการทหารบก อาจารย์วิทยาลัยการทัพบก เจ้ากรมยุทธการทหารบก รองผู้บัญชาการทหารบก และเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
ใครจะไม่เรียกว่าเป็นนักบริหารมืออาชีพสาขารัฐกิจ (Professional Executive in the public sector) ก็เห็นจะไม่ได้ และแถมยังเป็น รมช. และรักษาการ รมว.กลาโหมอยู่อีกตั้งนาน จนผ่านศึกกัมพูชามาได้ด้วยดี
7. ที่น่าเสียดาย ไม่มีชื่อติดโผใน ครม. ชุดนี้ ได้แก่ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ซึ่งปรากฏชื่ออยู่ในผู้ได้รับการทาบทามจากนายอนุทิน ตั้งแต่แรก แต่เข้าใจว่า ท่านผู้นี้ อาจจะไปตกลงกับงานอื่นไว้ก่อนเกษียณ และงานนี้ก็มีอายุเพียง 4 เดือน
______________________________
จึงต้องขอชื่นชมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศ ที่รู้ความต้องการของคนไทย ว่าคราวนี้ต้องการนักบริหารมืออาชีพ (Professional Executive) เข้ามาบริหารประเทศ หรือให้เต็มยศหน่อยก็คือ มาใช้อำนาจบริหารแทนปวงชนชาวไทย เพราะเบื่อหน่าย นักการเมืองอาชีพเต็มประดาแล้ว
______________________________
แต่ก็มิใช่ว่า นักการเมืองอาชีพ ทุกคนจะบริหารประเทศไม่เป็น บางคนก็บริหารประเทศ มาในรัฐบาลต่างๆ ที่ผ่านมา มีผลงานเป็นที่พอใจของประชาชนอยู่หลายคน
______________________________
การแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ขณะนี้ เสียงพรรคการเมืองต่างๆ เรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ เขาจะแก้อะไรกัน? แก้เพื่อให้นักธุรกิจการเมือง เข้ามาผูกขาดการใช้อำนาจบริหาร (Executive Power) ต่อไปอีกหรือ บ้านเมืองเสียหายไปหลายแสนล้านบาท ประเทศไทยล้าหลังเพื่อนบ้านในอาเซียนไปกี่มากน้อย นักธุรกิจการเมืองที่จะแก้รัฐธรรมนูญทั้งหลายก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจ
______________________________
เราจึงต้องการให้แก้รัฐธรรมนูญ เพื่อให้คนดี-คนเก่ง ที่เป็นนักบริหารมืออาชีพ ในแขนงต่างๆ ของอาชีพ อันได้แก่ ธุรกิจ (Business Sector) ประชากิจ (Social Sector) และรัฐกิจ (Public Sector) เข้ามาบริหารประเทศ ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปคราวหน้า (พ.ศ. 2570)
______________________________
แต่ MOA ระหว่างพรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย ทำกันไว้ ก่อนการโหวตให้หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี คงจะต้อง “มัดมือชก” ให้นายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล ต้องทำตามที่ ปชน. ต้องการ
เราจะถือ MOA (Memorandum of Agreement) นี้เป็น “นิติกรรมอำพราง” ได้หรือไม่ เพื่อให้ MOA นี้ เป็นโมฆะไปเสีย
เราจะถือ MOA ชิ้นนี้ เป็น “สัญญาที่ไม่เป็นธรรม ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. 2540 ได้หรือไม่
และหากประชาชนจำนวนไม่น้อยกว่าห้าหมื่นคน จะเข้าชื่อขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตาม รธน. พ.ศ.2560 มาตรา 256 เพื่อตัดสิทธิ์ สส., สว. แห่งอำนาจนิติบัญญัติในการให้ความเห็นชอบการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี (หรือเป็นผู้ลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี) แต่ให้นักบริหารมืออาชีพทั้ง 3 แขนง เป็นผู้เลือก นรม. เพื่อให้ได้คนดีที่สุด คนเก่งที่สุด เข้ามาเป็น นรม. และ ครม. (หรือที่เรียกว่า เข้ามาใช้อำนาจบริหาร แทนปวงชนชาวไทย) การให้รัฐสภาเป็นผู้พิจารณา ก็น่าจะไม่เหมาะสมเพราะเป็นการขัดกับผลประโยชน์ของนักการเมือง (ที่อยู่ในรัฐสภา) โดยตรง
เจตนารมณ์ ของ รธน. พ.ศ. 2560 หมวด 9 มาตรา 184 เรื่องการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ก็ไม่ต้องการให้ สส., สว. มีผลประโยชน์ทับซ้อนอยู่แล้ว
______________________________
เรื่องนี้ คงจะต้องขอมอบให้ ท่านอาจารย์ ดร.วิษณุ เครืองาม ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ และดร.มีชัย ฤชุพันธุ์ช่วยพิจารณากันละครับ
______________________________
ส่วนใครจะเป็นผู้รวบรวมรายชื่อของประชาชนไม่น้อยกว่าห้าหมื่นคน ก็คงจะไม่ยากนัก หากสมาคมศิษย์เก่า ที่รักชาติทั้งหลาย อาทิ สมาคมศิษย์เก่า วปอ., สมาคมศิษย์เก่า ปปร., สมาคมศิษย์เก่าสถาบันการสร้างชาติ (นสช.) สมาคมศิษย์เก่า ภพผ. (จุฬาฯ) สมาคมศิษย์เก่า นมธ. (มธ.) สมาคมศิษย์เก่า จปร., และอื่นๆ จะจับมือร่วมกันเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเสียในครั้งนี้
ประเทศไทยก็จะใสสว่าง และรุ่งโรจน์
ถ้าเราจัดที่ยืน ให้คนดี - คนเก่ง ได้เข้ามาบริหารประเทศ
ศิริภูมิ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี